บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

BYD ประเมินผลประกอบการ BANGKOK CHAIN HOSPITAL PCL. (BCH) โดยคาดการณ์กำไร Q3/2568 ลดลง แต่ Q4/2568 จะกลับมาเติบโตโดดเด่น คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 13.10 บาท

ประเด็นสำคัญ: กำไร Q3 ลดลงจากช่วง High Season

BYD คาดการณ์กำไร Q3/2568 ของ BCH อยู่ที่ 337 ล้านบาท ลดลง 13% q-q และ 26% y-y สาเหตุหลักมาจากฐานกำไรที่สูงในปีก่อน และการไม่มีรายรับพิเศษจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เหมือนใน Q2/2568 อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรยังคงเติบโตได้เล็กน้อย การลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นผลมาจากโรคระบาดที่น้อยลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกน้อยในช่วงต้นไตรมาส 3 ก่อนที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส

Q4 คาดกลับมาเติบโต: แรงหนุนจากโรคระบาดและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

BYD ประเมินว่าผลการดำเนินงานใน Q4/2568 จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น y-y เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของโรคระบาดในช่วงปลาย Q3 ต่อเนื่องถึงต้น Q4 (ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในเดือนตุลาคม 2568 สูงกว่าทั้ง Q4/2567) นอกจากนี้ ยังไม่มีผลกระทบจากการปรับลดค่ารักษาโรคยาก (Adj RW>2) ของ สปส. เหมือนในช่วงเดียวกันของปีก่อน (Q4/2567) การเติบโต q-q คาดว่าจะมาจากฐานกำไรที่ต่ำใน Q3/2568 เนื่องจากไม่มีรายรับพิเศษจาก สปส. เหมือนใน Q2/2568

ปรับประมาณการกำไรปี 2568: ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

BYD ปรับประมาณการรายได้ลง 2% จากประมาณการเดิม เนื่องจากโรคระบาดที่น้อยกว่าปีก่อน เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว และข้อพิพาทกับกัมพูชาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2568 ลดลง 14% เหลือ 1,412 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 10% y-y

คงคำแนะนำ "ซื้อ": ราคาเป้าหมายใหม่ 13.10 บาท

BYD คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BCH แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 13.10 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับประมาณการกำไรที่ลดลง ราคาเป้าหมายนี้คำนวณโดยวิธี PER ที่ระดับ 22 เท่าของกำไรในปี 2569 ซึ่งเป็นระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 2 ปี การฟื้นตัวของกำไรที่โดดเด่น y-y ใน Q4 และการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติ จากการคลี่คลายข้อพิพาทไทย-กัมพูชา และการกลับมาส่งตัวผู้ป่วยจากรัฐบาลคูเวตในปี 2569 เป็นปัจจัยสนับสนุนให้คงคำแนะนำ "ซื้อ"