https://aio.panphol.com/assets/images/community/11427_053DAC.png

TAE กำไรหด! Q3/68 ขาดทุน 7.43 ล้านบาท แม้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.51 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ:

บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ (TAE) เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ขาดทุนสุทธิ 7.43 ล้านบาท สวนทางกับรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง:

TAE รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 มีรายได้รวม 467.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กลับต้องเผชิญกับ ผลขาดทุนสุทธิ 7.43 ล้านบาท (0.007 บาทต่อหุ้น) ซึ่งลดลงอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 16.67 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 1,534.86 ล้านบาท ลดลง 18.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี ผลขาดทุนสุทธิ 30.86 ล้านบาท (0.031 บาทต่อหุ้น) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 60.77 ล้านบาท

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการคือ การแข่งขันที่สูงในตลาดเอทานอล ทำให้ราคาขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

วิเคราะห์เจาะลึก:

ถึงแม้รายได้จากการขายในไตรมาส 3/2568 จะ เพิ่มขึ้น 3.06% จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายเอทานอล แต่รายได้จากการขายงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 กลับ ลดลง 17.84% เนื่องจากการลดลงของราคาขายเอทานอลโดยเฉลี่ย

นอกจากนี้ ต้นทุนขายในไตรมาส 3/2568 ยัง เพิ่มขึ้น 8.62% เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 3/2568 ลดลง 15.66% เนื่องจากค่าใช้จ่ายโรงงานที่โอนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจากการหยุดผลิตชั่วคราวลดลง

อนาคตและความท้าทาย:

TAE มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 จำนวน 2,785.16 ล้านบาท ลดลง 3.98% จากสิ้นปี 2567 และมีหนี้สินรวม 1,139.87 ล้านบาท ลดลง 6.91% จากสิ้นปี 2567

บริษัทฯ คาดการณ์ว่าความต้องการใช้เอทานอลในไตรมาส 4/2568 จะ เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่งและการท่องเที่ยว รวมถึงคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิต 2568/69 จะสูงกว่าปีก่อน ทำให้ต้นทุนการผลิตเอทานอลสามารถแข่งขันได้

อย่างไรก็ตาม TAE ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจาก ภาระผูกพันด้านหนี้สิน ตามเงื่อนไขในสัญญากู้ยืมเงินกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ

โพสต์ล่าสุด