บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCGP: มายแบงก์ฯ ปรับลดราคาเป้าหมาย แต่ยังคงคำแนะนำ "ถือ" มองการฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป
P/E 23.56 YIELD 3.57 ราคา 15.40 (0.00%)
text-primary คงคำแนะนำ "ถือ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมาย
Maybank Securities (Thailand) PCL (MST) คงคำแนะนำ "ถือ" หุ้น SCGP แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 18.60 บาท (จากเดิม 25.50 บาท) เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2568 ลง 20% แม้คาดการณ์กำไรหลักปี 2569 จะฟื้นตัว 16% YoY เป็น 4.4 พันล้านบาท แต่ยังคงระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว SCGP ซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2569 ที่ 7.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 8.1 เท่า
text-primary ปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาว
MST คาดการณ์กำไรสุทธิของ SCGP จะเพิ่มขึ้นจาก 3.7 พันล้านบาทในปี 2567 เป็น 5.5 พันล้านบาทในปี 2570 โดยมีปัจจัยหนุนหลัก 3 ประการ:
- อุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมลดลง ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทั่วโลกปรับขึ้น
- ต้นทุนที่ได้เปรียบจากการใช้เยื่อกระดาษ OCC ภายในประเทศ ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าการนำเข้าถึง 62%
- ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงหลังการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท ซึ่งคาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายทางการเงินลงได้ราว 450 ล้านบาทในปี 2569
อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อย Fajar ยังมีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องในปี 2569 แม้ผลประกอบการ 2Q68 จะดีขึ้น QoQ จากการลดการแข่งขันด้านราคาในอินโดนีเซีย แต่เศรษฐกิจอินโดนีเซียและจีนที่ชะลอตัวยังคงเป็นปัจจัยกดดัน
text-primary ความระมัดระวังต่อแนวโน้มครึ่งหลังปี 2568
MST คาดการณ์กำไรในครึ่งหลังปี 2568 จะทรงตัว HoH เนื่องจากปริมาณขายลดลง 3% HoH จากการเร่งส่งออกล่วงหน้า (export front-loading) และการชะลอตัวของ GDP ในภูมิภาค นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในตลาดหลักของบริษัทก็อ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบเหล่านี้คาดว่าจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงหลังการปรับโครงสร้างกลุ่มซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 3Q68
text-primary สรุป
MST คงคำแนะนำ "ถือ" หุ้น SCGP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 18.60 บาท มองว่าการฟื้นตัวของ SCGP จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยหนุนจากการลดลงของอุปทานส่วนเกิน, ต้นทุนที่ได้เปรียบจากการใช้ OCC ภายในประเทศ และต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท