บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

SNPS Oppday Q2/2568: โอกาสเติบโตในตลาดสารสกัดธรรมชาติ

SNPS Oppday Q2/2568: โอกาสเติบโตในตลาดสารสกัดธรรมชาติ

สรุปผลการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจของ SNPS ในงาน Oppday Q2/2568 โดยเน้นโอกาสเติบโตในตลาดสารสกัดธรรมชาติที่มีศักยภาพสูง

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

• ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง:
1. Total Revenue เพิ่มขึ้น 23%
2. Net Profit เพิ่มขึ้น 61%
3. Gross Profit Margin แตะ 39%
4. Net Profit Margin แตะ 17%
• สินค้าใหม่กลุ่มสีผสมอาหารและเครื่องสำอางได้รับการตอบรับดี
• อัตราส่วนทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง:
1. D/E Ratio ต่ำเพียง 0.1 เท่า
2. Interest Coverage Ratio สูงถึง 336 เท่า
• Revenue Forecast คงเป้าเดิมที่ 550-600 ล้านบาท
• การเติบโตหลักมาจากสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 โดยเฉพาะกลุ่ม API และ ODM
• สัดส่วนรายได้จาก API เพิ่มขึ้นเป็น 48% ในครึ่งปีแรก 2568

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

• ตลาดสารสกัดสมุนไพรโลกเติบโตต่อเนื่อง:
1. คาดการณ์มูลค่าตลาด 43,000 ล้าน USD ในปี 2567 และ 48,900 ล้าน USD ในปี 2568
2. คาดการณ์เติบโตเป็น 100,000 ล้าน USD ในปี 2577 (CAGR 8.69%)
• ตลาดเอเชียแปซิฟิกมีศักยภาพสูงกว่าตลาดโลก:
1. คาดการณ์มูลค่าตลาด 25,000 ล้าน USD ในปี 2568 และ 50,000 ล้าน USD ในปี 2577 (CAGR 8.81%)
• ความต้องการสารสกัดสมุนไพร Organic เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ
• เทคโนโลยีการสกัดใหม่ๆ ช่วยเพิ่มปริมาณและความบริสุทธิ์ของสารสกัด
• ตลาด Personal Care เติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ Anti-Aging และบำรุงผิวจากสารสกัดสมุนไพร
• กลุ่มเภสัชกรรมลงทุนเพิ่มใน Phytochemical เพื่อค้นคว้าตัวยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ๆ
• การสนับสนุนจากภาครัฐในกลุ่มประเทศ South East Asia
• ขยายตลาดต่างประเทศ: เพิ่มสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ 9
• โอกาสจากบริษัทในยุโรปและอเมริกาเหนือที่มองหาฐานการผลิตใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

• การแข่งขันสูงในตลาดสารสกัดสมุนไพร
• ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อของผู้บริโภค
• ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและนโยบายภาครัฐ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

• เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ วัดผลได้ด้วยวิทยาศาสตร์ สะอาด และปลอดภัย
• ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุกและเฟ้นหาคู่ค้าระดับ Premium
• พัฒนา IP และ Patent อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแตกต่าง
• ดำเนินโครงการ ESG และ Sustainability อย่างเข้มข้น
• เลือกคู่ค้าและลูกค้าที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันได้
• ทำความเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

• เน้นการสร้างผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพและความงาม
• สื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและ Clean Label
• สนับสนุนการใช้สารสกัดสมุนไพรจากภาครัฐ
• มุ่งเน้นตลาดผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสำหรับ Bio Pharmaceutical มากขึ้น

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 48.50]

Q: สภาพการแข่งขันของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ API ในไทยและต่างประเทศเป็นอย่างไร และ SNPS มีกลยุทธ์ในการทำตลาดอย่างไร?

A: ตลาดสารสกัดเติบโตต่อเนื่อง 8-9% ทั่วโลก ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการใช้สิ่งที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น ตลาด Nutracutical โตขึ้นโดยเฉพาะของที่มาจากธรรมชาติ ตลาด API มี 2 ประเภทคือ API ที่ผ่าน Clinical มาแล้ว ผลที่ได้คือผ่านการทดสอบพิสูจน์มาแล้ว การใช้จึงค่อนข้างไปทาง Pharmaceutical กลุ่มนี้ Life Cycle ของ Product จะอยู่ประมาณ 10-20 ปี อีกกลุ่มคือ สารสกัด Extract ทั่วไป ใช้ได้หลากหลาย Industry Cosmetic, Supplement, ยาสมุนไพร Life Cycle อยู่ที่ 4-8 ปี SNPS มี Product ที่เป็น Extract และ API มากถึง 400 รายการ ปรับตาม Culture Preference ของแต่ละประเทศ มีการ Balance กันในการ Rotate Product SNPS เน้นเจาะจงผู้เล่นที่ให้คุณค่าของสารสกัดที่คุณภาพ Compound สูง ความปลอดภัยสูง สามารถ Request ราคาที่สูงขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากจีนและอินเดียได้

Q: ยอดขายที่ลดลงของแบรนด์ Colosé ในช่วงไตรมาส 2 เกิดจากอะไร?

A: ต้นปีที่ผ่านมา SNPS มีการเปลี่ยนแปลง Model ธุรกิจ โดยจับมือกับ DKSH ในการจัดจำหน่าย Colosé ปลายไตรมาส 1 เพิ่งเริ่มมีการสั่งสินค้าจาก DK ในช่วงไตรมาส 2 ยังเป็นช่วง Waiting Period รายได้ในช่วงไตรมาส 2 จึงยังไม่มีเข้ามา แต่จะเข้ามาในไตรมาส 3 ต่อไป

Q: รายละเอียดของความร่วมมือกับทางเอกชัยการแพทย์ และการออกผลิตภัณฑ์วิตามินเจลลี่ต่างๆ?

A: เป็นหนึ่งในกิจกรรมของ SNPS ในการทำกลยุทธ์การขายเชิงรุกแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น มุ่งไปหาคู่ค้าที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เน้นสารสำคัญ ความสะอาด และความคงที่ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับทางการแพทย์มากขึ้น ศึกษาความชำนาญของคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ว่าพันธมิตรไหนเก่งด้านอะไร ออกแบบผลิตภัณฑ์ออกมา ซึ่งการรับรู้รายได้ จะเป็นการพัฒนาสินค้า ผลิตสินค้า และจำหน่ายให้กับทางเอกชัยการแพทย์ เป็นการขายขาด และให้ทาง SIAM ทำตลาดต่อใน Segment ที่ถนัดและชำนาญ กิจกรรมประเภทนี้ ดำเนินการอยู่กับหน่วยงานอื่นๆ เพิ่มเติม พันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม ที่ไม่ทับซ้อนกัน พยายาม Segment อะไรที่ดึงจุดเด่นของแต่ละกลุ่มขึ้นมา Focus ทางการแพทย์ Wellness และ longevity ค่อนข้างเยอะขึ้น

Q: ทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเป็นอย่างไร และจะดีกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่?

A: บริษัทยังคง Budget เดิม Target เดิม ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน กลยุทธ์มี 4 อย่าง คือ การสร้าง Product ที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบัน สิ่งที่มาจากธรรมชาติ เติมความพิเศษ เติมความ Unique โดยที่มาจากไทยด้วย สิ่งที่มีวิทยาศาสตร์รองรับ ปรับให้ตรงกับ preventive longevity การดูแลทาง Lifestyle และการใช้ธรรมชาติมาดูแลสุขภาพ ขยาย Segment ใหม่ๆ ตลาดใหม่ๆ เกี่ยวข้องกับ Medical ต่างๆ Segment ที่เป็นเกี่ยวกับ Wellness ทำแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น SNPS ค่อนข้าง Niche เชื่อว่าเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่สามารถ Scale ได้ในเวทีโลก หาคู่ค้าที่ Niche เหมือนกัน เพิ่ม Value ที่เสริมกันและกันได้ ทำ Clinical Study จด IP ทำ Patent Branded ingredient ต่างๆ ตรงตาม Pipeline ที่วางไว้