บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday PRI: มองหาโอกาสเติบโตในธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร ปี 2568
P/E 7.84 YIELD 8.05 ราคา 4.66 (0.00%)
สรุป Oppday PRI: มองหาโอกาสเติบโตในธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร ปี 2568
สวัสดีครับ วันนี้เป็นการประชุม Oppday ของบริษัท พรีโม้ เซอร์วิส โซลูชั่น นะครับ ผม สุรินทร์ CEO และ คุณ จริยา CFO จะมาสรุปผลประกอบการไตรมาส 2 และแผนงานในไตรมาส 3 ให้ทุกท่านได้ทราบครับ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ภาพรวมวันนี้เราจะพูดถึง 3 เรื่องหลักๆ คือ ประวัติบริษัท พรีโม้ แบบคร่าวๆ ธุรกิจที่เราทำ และไฮไลท์ผลประกอบการในไตรมาส 2 รวมถึงแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังครับ
พรีโม้ก่อตั้งเมื่อปี 2554 เริ่มต้นจากแนวคิด After Sale Service ของงานอาคารต่างๆ ที่กลุ่ม Origin ดำเนินการ ผู้บริหารมีความคิดที่จะบริหารนิติบุคคลและตัวอาคารให้ครบวงจร ทำให้มีการขยายงานและธุรกิจในการให้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่งานนิติบุคคล งานขายต่อ ปล่อยเช่า งานแม่บ้าน และขยายไปถึงงานควบคุมงานก่อสร้าง งานวิศวกรรมศาสตร์ งานดูแลระบบ และงาน Renovate ต่างๆ
ปัจจุบันมีมากกว่า 10 หน่วยธุรกิจ จากเดิมที่ทำแค่นิติบุคคลและแม่บ้าน ในปี 2565 เราเข้าตลาด MAI ด้วยคอนเซ็ปต์ที่อยากทำให้พรีโม้เป็นบริษัทที่ครบวงจรเกี่ยวกับการให้บริการจริงๆ คือมีการบริการที่หลากหลายครบวงจรไปตามช่วงชีวิตของลูกค้า เรามีอายุในตลาดหลักทรัพย์มาเป็นปีที่ 2 มีบริษัทในเครืออยู่ 10 กว่าบริษัท แต่ละบริษัทมีลักษณะธุรกิจที่หลากหลายตาม Activity ต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบการใช้ชีวิตของ Residential แบ่งเป็น 3 เฟส คือ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ตัวเลขผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2568 เราทำรายได้ 433 ล้านบาท และมีกำไร 52 ล้านบาท เรามี Backlog ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ประมาณ 1,100 ล้านบาท
รายได้อาจจะไม่ได้สูงมาก เพราะปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจค่อนข้างท้าทาย เราพยายามปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจสามารถล้อไปกับกระแสที่เป็น Negative ได้ แต่ผลงานไตรมาส 2 ก็ออกมาโอเค เติบโต 24% Q on Q และกำไรเติบโต 33%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
รายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม Living and Earning Service ประมาณ 60% ที่เหลือกระจายไปที่ Pre-Living และ Living Service เฉลี่ยเท่าๆ กันประมาณ 20% เนื่องจากงานกลุ่มสุดท้ายเป็นการสร้างแล้วขาย ทำให้มูลค่าเยอะ ในขณะที่กลุ่ม 1 และ 2 เป็นงานบริการที่คิดค่าบริการตามค่าหัว
Backlog ส่วนใหญ่อยู่ที่ตัว Pre-Living ประมาณ 60% เป็น Backlog ของการค่าดำเนินการ ค่าบริหารในโครงการใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เป็นของ Project Asia และโครงการก่อสร้างต่างๆ ส่วน Living และ Earning มีประมาณ 162 ล้านบาท และ Living and Earning ประมาณ 269 ล้านบาท
จาก Backlog 1,108 ล้านบาท เราสามารถรับรู้รายได้ในปี 2568 ประมาณ 400 ล้านบาท ปี 2569 ประมาณ 470 ล้านบาท และปี 2570 เป็นภาพของ Backlog ที่สร้างความอุ่นใจให้เราว่าเราจะมีรายได้ทั้ง Recurring Income และรายได้ในลักษณะของโปรเจคที่จะหาเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังต้องติดตาม GDP ยังเติบโตประมาณนึง มี 2 Engine ของประเทศที่น่าอุ่นใจคือการส่งออกที่ดีขึ้น และการท่องเที่ยวที่ต้องลุ้นว่าจะได้เป้าตามที่รัฐบาลวางไว้ไหม แต่ก็ยังมีหนทางที่จะไปต่อได้ ส่วนตัวอื่นๆ คงต้องพิจารณาดูเป็นเรื่องๆ ไป ภาวะที่ท้าทายก็มีโอกาสในบางโอกาสสำหรับเรา
สำหรับปี 2568 เรายังมุ่งมั่นและตั้งเป้าที่จะเหลือเวลาอีก 6 เดือน เราคิดว่าในช่วงเวลาที่เหลือ เราตั้ง Theme ของตัว Strategy ว่ายังไงเราก็จะพยายามวิ่งไปสู่เป้าที่วางไว้เป็นเป้าปี 2568 ของเราให้ได้ คือรายได้ประมาณ 1,850 ล้านบาท ด้วย 3 แกนหลักที่จะทำในครึ่งปีหลัง
เรามาวาง Screening กันก่อนว่าในแต่ละ Sector เราจะทำอะไร เราคิดว่าเรามีโอกาสและความท้าทายอย่างไร เรามองว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับ Living Service ยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสและขนาดตลาดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเกิดภาวะอะไรเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การดูแลอาคาร การใช้งานอาคาร การใช้งานโครงการต่างๆ ยังต้องมีและต้องทำ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
แผนครึ่งปีหลังของเรา นอกจากจะทำ ให้ดีขึ้นตาม Core Business ของมันคือเรื่องการ Service เรื่องการหางาน เราจะพยายามเน้นที่การสร้างกลุ่ม ธุรกิจใหม่ๆ ที่เราคิดว่าจะ จะทำให้เราแตกต่างและสร้างความได้เปรียบมากยิ่งขึ้น เช่น เราเริ่มเน้นไปที่การให้บริการแบบ Pet Friendly ใน อาคารต่างๆ ถือว่าเป็น น่าจะเป็นรายแรกๆ ที่เราจะเน้นเข้าไปทำจริงๆจังๆที่เราจะเป็นนิติบุคคลที่ เชี่ยวชาญที่ให้บริการทางด้าน คอนโด ที่อยู่อาศัยพร้อมสัตว์เลี้ยงแบบมืออาชีพจริงๆ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกระแสที่ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โดยที่ก็พยายามจะเอาเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการให้บริการอาคารในการบริการต่างๆกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ก็เป็น ตีมของตัว Living service
เรามองว่าถึงแม้ต้องยอมรับนะว่าสถานะตลาด อสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีก็ยัง ต้องใช้คำว่าเหนื่อยๆอยู่นะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สต็อกก็ยังเยอะอยู่นะสต็อกห้องรอขายก็ยังเยอะอยู่นะครับ การ การอนุมัติของ สินเชื่อต่างๆก็ยังคิดว่าไม่ง่ายครับ อีกตัวนึงที่ส่งผล อย่างค่อนข้างเด่นชัดก็คือ การตัดสินใจในการซื้อของลูกค้านั้นเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ยังมี เราก็ยังมองเห็นช่องของโอกาสเรายังเชื่อว่า ต่างชาติตลาดต่างชาติมันตลาดที่น่าสนใจประเทศไทยนะครับ เป็นถือที่ ที่ต่างชาติยังอยากจะมา ลงทุนยังอยากจะมาอยู่อาศัยก็จะมองว่าสุดท้ายอาจจะ Drop ไปในช่วงปีที่แล้ว Drop ไปในช่วงไตรมาส 1 นะครับแต่ว่า สุดท้ายน่าจะกลับมาผมคิดว่าเมืองไทยยังมีเสน่ห์ มี มีหลายๆจุดที่จะดึงดูดที่จะให้ต่างชาติมาซื้อ ทรัพย์สินซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้นะครับ อีกจุดหนึ่งที่เรามองว่าเป็นโอกาสในช่วงครึ่งปีหลังก็คือ ไม่ว่าจะเกิดภาวะที่รู้สึกว่ามันซบเซายังไงแต่ว่ามันมีแซ่มีบางทำเลที่ยัง ยังไปได้ดีอยู่ไปแบบร้อนแรงโดยเฉพาะที่ภูเก็ตนะครับแม็กกะที่ EEC ในบางทำเลก็ยัง ยังรายได้ซึ่งเป็นตัวพิสูจน์ว่าเอ๊ถ้าทำเลที่ดี สินค้าที่ใช่เนี่ยมันก็ยังขายกันได้นะครับ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
เราคงไปเปิดตลาดในกลุ่มที่เราสนใจ และอยากที่จะทำ เพิ่มตลาดต่างชาติจริงจังนะครับ โดยที่ หาจุดให้เจอว่า คงไปขาย อสังหาอย่างเดียวน่ะคงไม่ได้อาจจะต้องเติมอะไรที่มันเป็นการเฉพาะทางเข้าไปให้มากยิ่งขึ้นนะครับ เช่นเดียวกันก็ไปหา เปิดทำตามทำเลที่มีศักยภาพสามเชียนก็จะ เป็นมุมมองสําหรับงานplokเลยนะครับ ในส่วนของ กลุ่มงานที่คิดจะสร้างมาขายไปนะครับ อะสร้างมา สร้างแล้วก็ขายนะเป็นอันจิงเนียร์แนว เรามองว่า โอกาสของเราคือความ ความพร้อมของทีมงานเราเองนะครับเรามีเรา จากที่เรียนไปทีแรกเรามีทีมงานที่ต้องบอกว่า ค่อนข้างครบวงจรในในวงจรของธุรกิจงานก่อสร้างเรามีบริษัทออกแบบเรามีบริษัทควบคุมงานที่ ดีไซน์ไว้สําหรับกลุ่มอาคารขนาดเล็กกับงานระดับชาติระดับใหญ่เรามีบริษัทโน่serviceที่แตกเป็นคอนสตรัคชั่นที่ดูแลเรื่องงานก่อสร้างนะครับ เรามีโน่แคร์ที่ดูแลเกี่ยวกับงานซ่อมบํารุงนะครับเรามีที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องงานrenovateต่างๆเรามองว่าด้วยความพร้อมในวงจรธุรกิจของเราเราเชื่อว่างานในส่วนเนี้ยสุดท้ายแล้วมันจะทําให้เราเข้าไปหาส่วนแบ่งของตลาดมากยิ่งขึ้นได้นะครับ ความท้าทายก็ คงเป็นความท้าทายเกี่ยวกับ ในธุรกิจของมันเองแล้วแหละนะครับมันสุดท้ายก็ต้องแข่งขันเรื่องต้นทุนและค่าแรงที่สูงขึ้นเรื่อยๆนะครับก็ต้องเอาเทคโนโลยีเข้าไปช่วยนะครับแล้วก็ก็ยังอย่างที่ว่านะสุดท้ายงานก่อสร้างมันก็ยังยิ่งกว่าวันการเติบโตของ ประเทศการเติบโตของเศรษฐกิจนะครับก็ก็ยังต้องคอย จับตามองอยู่ว่ามันจะมีโอกาสที่จะ พุ่งขึ้น สูงขนาดไหนอย่างที่เราคาดหวังอยู่ป่ะนะครับก็เป็น คร่าวๆของตัวในแต่ละเซกเมนต์ที่เราดู แล้วก็วางแผนที่จะไปในครึ่งปีหลังนะครับ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [ยังไม่มีข้อมูลเวลา]
- (ยังไม่มีข้อมูล)
สรุปโดยรวม PRI ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตในธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยใช้ความแข็งแกร่งของทีมงานและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพัฒนาบริการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง