TKT Oppday Q2/2568 : ฝ่าวิกฤตยานยนต์ซบเซา สู่การเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

P/E 31.85 YIELD 0.00 ราคา 0.67 (0.00%)

TKT Oppday Q2/2568 : ฝ่าวิกฤตยานยนต์ซบเซา สู่การเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และผู้ฟังทุกท่าน วันนี้ ดิฉัน นวลอนงค์ สุคณาภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปสายงานทางการเงินและบัญชี ของบริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) จะขอเรียนแนะนำกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ คุณ วรพงษ์ พงศ์เมืองมาศ จะมาให้ข้อมูล Oppday ในวันนี้กับเรา หัวข้อที่เราจะพูดกันในวันนี้จะแบ่งเป็น 4 หัวข้อหลักๆ ส่วนสุดท้ายก็เป็นคำถามคำตอบค่ะ ที่เปิดให้ท่านผู้ฟังเข้ามานะคะ

ในส่วนแรกเป็นส่วนของ Business Review เราจะพูดถึงภาพรวมของธุรกิจเราว่าอยู่ในอุตสาหกรรมไหน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ส่วนที่สอง เราจะพูดถึงเรื่องผลประกอบการของครึ่งปีแรกของปีนี้ แล้วก็ในส่วนของไตรมาสที่สองที่ผ่านมา ส่วนที่สาม เรามาดูในเรื่องของแผนของปีนี้นะคะ แล้วก็แผนของธุรกิจที่เรากำลังดำเนินอยู่นะคะ แล้วก็ ที่เราวางแผนไว้

สวัสดีครับ สวัสดีครับ ผม วรพงษ์ พงศ์เมืองมาศ กรรมการผู้จัดการ และกรรมการบริหาร บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม ในส่วนนี้คือประวัติในส่วนของการก่อตั้งบริษัท ก่อตั้งโดยคุณสุเมธ และมิสเตอร์คู ในปี 2516 และได้เข้าในสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2546 แล้วก็ในส่วนของที.กรุงไทย เราก็เป็นเมมเบอร์ ในส่วนของ CAC (Collective Action Against Corruption) จริงๆ ก็คือ Anti-Thai Corruption ในปี 2559 และในปี 2565 เอง เราก็มีพาร์ทเนอร์ของเรา บริษัท ชื่อ Carry อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง ในปี 2565 ซึ่งได้ร่วมทุนกัน โดยลงทุนทั้งหมดในส่วนของที.กรุงไทยเองคือ 350 ล้านบาท ณ ปัจจุบันเรามีพนักงานทั้งหมดประมาณ 750 ท่าน โดยในส่วนของที.กรุงไทย เรามีอยู่ 3 โลเคชั่น ก็คือ 3 พื้นที่ ในส่วนของกิ่งแก้วสมุทรปราการ กบินทร์บุรีที่ปราจีนบุรี และสุวินทวงศ์ฉะเชิงเทรา

ในส่วนของสไลด์หน้านี้ก็จะเป็น Business และ Service ในส่วนของธุรกิจที่เราทำ และการบริการที่เรามี จากรูปซ้ายมือคือเรามีอยู่ในส่วนของ 3 โลเคชั่น หรือ 3 โรงงาน แล้วก็ธุรกิจหลักๆ ที่เราทำคือผลิตใน 2 ส่วนใหญ่ๆ คือผลิตแม่พิมพ์สำหรับฉีดพลาสติก แล้วก็เรารับฉีดพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่รถยนต์ จำพวกเช่นในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วก็อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในส่วนของกระบวนการการผลิตในทั้ง 3 โรงงานเอง เราจะมี Process หรือกระบวนการคล้ายๆ กัน ก็คือในเรื่องของการฉีดพลาสติก พ่นสี มีทั้งระบบ Manual แล้วก็ Robot เราใช้อุปกรณ์ Robot ด้วย เข้ามาชวยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในส่วนของการพิมพ์ พิมพ์ร้อน และ Pad Print การ Screen แล้วก็ Sub Assembly หมายถึงว่าประกอบชิ้นส่วนย่อย เพื่อที่จะส่งโรงงาน OEM หรือ Tier 1 แล้วก็อีกในส่วนนึงก็คือทำแม่พิมพ์ ซึ่งเรามีทักษะความรู้ความสามารถในการทำแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ซึ่งในส่วนของที.กรุงไทย เราจะเป็น One Stop Service One Stop Service ก็คือเรารับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เรารับร่วมออกแบบกับลูกค้าตั้งแต่แรก ออกแบบดีไซน์แม่พิมพ์ แม่พิมพ์ก็คือฉีดพลาสติก จนกระทั่งรับฉีดพลาสติกแล้วก็ส่งมอบให้กับลูกค้า นั่นหมายถึงว่าในส่วนของที.กรุงไทยเอง เรามีความสามารถ สู้แข่งขันกับลูกค้าได้ก็คือเราครบวงจร แล้วเรามีทักษะความรู้ความสามารถ แล้วก็ พนักงานเองเรามีทักษะและสกิลค่อนข้างที่จะชัดเจนในส่วนของทางพลาสติก แล้วก็ทางเชิงวิศวกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ในส่วนของลูกค้าเราเอง เราจะมีลูกค้าหลักๆ เลยก็คือแบ่งเป็นลูกค้าโรงประกอบ Tier 1 ก็คือลูกค้าที่ย่อยออกมาจากโรงประกอบอีกทีหนึ่ง แล้วก็ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้า ลูกค้าหลักๆ ในส่วนของโรงประกอบเอง Toyota ในส่วนของทางที่ที.กรุงไทยเรามี แล้วก็แยกย่อยลงไปก็จะเป็น Nissan Mitsubishi Isuzu แล้วก็ ในส่วนของมอเตอร์ไซค์ด้วยก็คือ Kawasaki ที่เราได้รับ แล้วก็ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเอง เราก็มีการดีลกันในส่วนของ Heier บริษัทจีนนะ Hitachi Panasonic Electrolux อันนี้คือหลักๆ โดยอุตสาหกรรมรวมของที.กรุงไทย

หน้าค่อนข้างที่จะสำคัญหน่อย เพราะว่าหลักๆ ก็คือใบ Certificate หรือใบรับรอง จริงๆ เราทำในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์มาค่อนข้างที่จะนานแล้ว 50-51 ปีแล้ว เรามี ISO 9001 แล้วก็ IATF 16949 และ ISO 14000 ในส่วนของ 3 ตัวด้านล่างจะมี UL Certified RBA (Responsible Business Alliance) แล้วก็อันสุดท้ายคือ EcoVadis จริงๆ 3 ตัวด้านล่างจะเป็นตัวที่ยกระดับที.กรุงไทย เพราะตอนนี้เรามีการปรับปรุงองค์กรภายในเอง เพื่อที่จะยกระดับให้เราสามารถขึ้นมาเป็นสากลมากขึ้น ทำงานในระดับ Global หรือโลกมากขึ้น โดย UL เอง UL นะครับ ชี่ย่อมาจากในส่วนของ Underwriters Laboratories จริงๆ ไอ UL นี้มีความสำคัญคืออะไร คือชี้บ่งว่าผลิตภัณฑ์ของเรา ผ่านการทดสอบ และได้รับการรับรองตามมาตรฐานทางด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพ ซึ่งกำหนดโดยองค์กรอิสระระดับโลก ซึ่งจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายประเภท ทั้งในส่วนของชิ้นส่วนไฟฟ้า และก็ชิ้นส่วนของเครื่องมือแพทย์ อันนี้คือ UL Certified

ถัดมา Certificate อีกตัวนึง เราเรียกชื่อย่อว่า RBA RBA ตัวนี้นะฮะ เป็นใบรับรองที่แสดงว่าเราเนี่ย ผ่านการอบรม และมีความเข้าใจในหลัก จรรยาบรรณ แห่งพันธมิตร ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้มีความรับผิดชอบ ในมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมการทำงาน ในอุตสาหกรรมอันนี้จะโดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความปลอดภัย พนักงานได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ และในส่วนของธุรกิจเรามีการรับผิดชอบทางด้านสังคมมากขึ้น อันนี้คือยกระดับมากขึ้นในส่วนของตัวบริษัท และอันสุดท้ายฝั่งขวามือ EcoVadis EcoVadis ตัวนี้เป็นการประเมินและจัดอันดับความยั่งยืนขององค์กรนะครับ ซึ่งโดยจะวัดผลจากนโยบาย มาตรการ และผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม ในการทำงาน และสิทธิมนุษยชน และจริยธรรมทางธุรกิจ และการจัดซื้ออย่างยั่งยืน เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า และผู้ลงทุนเห็นว่าเรามีความมุ่งมั่นต่อองค์กรนะครับ ในการทำธุรกิจ อันนี้คือสิ่งที่ชัดเจนมากว่า ในส่วนของที.กรุงไทยเอง เรามีการพัฒนาปรับปรุงตัวเองอยู่เรื่อยๆ เพื่อยกระดับตัวเองขึ้นสู่มาตรฐานสากล

ในส่วนของสไลด์นี้จากที่เห็น อันนี้คือผลิตภัณฑ์ที่เราทำ โดยแบ่งเป็น 5 กรุ๊ปใหญ่ๆ ในส่วนของฟังก์ชันซ้ายมือบน ฟังก์ชันนี้คืออะไร คือในส่วนของเครื่องยนต์ หมายถึงว่าเราจะมีชิ้นส่วนครอบตัวเครื่องยนต์นะครับ และอุปกรณ์ชิ้นส่วนท่อไอเสีย อีกตัวนึงก็คือ Body Part ชุดไฟ กระจังหน้า ใน Exterior ก็คือด้านนอกพลาสติก ที่เป็นกันชนด้านล่าง หรือแม้กระทั่งขอบล้อ ในส่วนของ Interior Interior คือด้านในรถยนต์เอง เราก็มีอุปกรณ์เช่น ชุดหน้าคอนโซล ชุดอุปกรณ์เครื่องเสียง และอีกส่วนนึงก็คือเป็นส่วนของรถมอเตอร์ไซค์ ที่เราทำชิ้นส่วนแทบจะครบทุกชิ้น ทั้งในส่วนของมอเตอร์ไซค์ที่สามารถผลิตได้

อีกส่วนนึง อันนี้คือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เราเริ่มร่วมทุนกับในส่วนของคู่ค้าเราคือ Carry ตัวชิ้นส่วนอุปกรณ์ชุดนี้ มันเป็น Server ครับ มันเป็น Server ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตอนนี้เราร่วมทุนกันแล้วก็เริ่มทำการผลิตแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 นี้

ส่วนกราฟนี้ เป็นกราฟที่แสดงให้เห็นยอดอัตราการผลิต เริ่มตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2568 ในครึ่งปีแรก จากสภาอุตสาหกรรมประเทศไทย ในปี 2568 ในครึ่งปีแรก ได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ จากเดิมวางไว้ที่ 1.5 ล้านคัน ลดลงเป็น 1.45 ล้านคัน โดยปรับลดเฉพาะผลิตเพื่อส่งออก เฉพาะส่งออกนะครับ ลดลง 5% จาก 1 ล้านคันเป็น 955,000 คัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งออกคือ 1 มาตรการภาษีของสหรัฐ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อมูลค่าการค้าโลก ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวส่งผลให้กำลังซื้อลดลง และอีกส่วนก็คือการเข้มงวดทางด้านของคาร์บอน อีกส่วนก็คือเป็นความขัดแย้งทางด้าน ภูมิรัฐศาสตร์ และในหลายๆ ส่วนของภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งเราก็เห็นอยู่แล้วว่าในเรื่องของสงครามที่เกิดขึ้น

อีกส่วนนึงก็คือการรุกตลาดเองในส่วนของรถยนต์ในประเทศ ของคู่ค้านะครับ ซึ่งมีการแข่งขันทั้งเรื่องของราคา และก็กดดันทางด้านยอดขาย โดยในเดือน มกราคมจนถึงกรกฎาคม ปี 2568 ยอดผลิตทั้งหมด 835,000 คัน โดยแยกออกเป็นส่งออก 513,000 คัน และขายในประเทศ 351,000 คัน

ในส่วนของสไลด์นี้จริงๆ เราต้องการแยกให้เห็นประเภทว่าผลิต จากกราฟเมื่อที่แล้ว โดยเราจะมีว่าแยกออกเป็นประเภทชนิดก็คือเป็นรถปิกอัพ และก็รถเก๋ง หรือ Passenger โดยเราแยกย่อยลงไปอีกว่าขายในประเทศ และก็ส่งออก จากทางซ้ายมือ ยอดผลิตทั้งหมดรถเก๋ง รถกระบะ ยอดขายถ้าเทียบกับปี 2567 เอง ไตรมาสที่สองร่วมกัน ยอดขายลดลงที่ 2% ในส่วนของรถเก๋งเองค่อนข้างที่จะน่ากังวล เพราะว่าถ้าเทียบจาก ไตรมาสที่สองของปี 2567 เอง ยอดขายลดลงถึง 13% โดยแยกย่อยเป็นผลิตในประเทศแล้วก็ส่งออก ถ้าผลิตในประเทศเองในส่วนของรถปิกอัพ ลดลงที่ 15% อันนี้ส่งผลกระทบโดยตรง เพราะว่าเศรษฐกิจภายในประเทศ และการชะลอตัวเอง และการปล่อยกู้ที่ยากขึ้นของธนาคารนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถกระบะ ในส่วนของรถเก๋งเอง ยอดขายเพิ่มขึ้นถ้าเทียบจาก ไตรมาสที่สองของปี 2567 7% ในส่วนของการส่งออกเอง ในส่วนของรถปิกอัพ ยอดขายลดลง 3% แต่ที่น่าสนใจก็คือยอดขายส่งออก ในส่วนของรถเก๋งเอง ลดลง 33% ซึ่งจากผลกระทบที่กล่าวมาข้างต้นจากเมื่อสไลด์ที่แล้ว ใน ในเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจโลก เรื่องของคาร์บอน เรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามที่เกิดขึ้น อันนี้เป็นผลกระทบโดยตรง

สไลด์นี้เราทำให้เห็นว่า ยอดขายที่มีในส่วนของที.กรุงไทยเอง สัดส่วนรายได้ สัดส่วนรายได้เนี่ย ถ้าเทียบกับปี 2567 หรือปี 2564 เอง สัดส่วนรายได้ชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์ ลดลงจาก 84% เหลืออยู่ 83% ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลงจาก 4% เหลือ 3% ในส่วนของแม่พิมพ์ แม่พิมพ์คือโมลเองนะฮะ เรามีการเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 12%

และก็ในส่วนของผลประกอบการ สำหรับครึ่งปีแรกของปีนี้ ในส่วนของยอดขาย เราจะพบว่ายอดขายเราเพิ่มขึ้นนะคะ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ปีที่แล้วนะคะ คือ 2567 เราเพิ่ม เพิ่มขึ้นประมาณ 4.4% นะคะ ทั้งในส่วนของยอดขายจากแม่พิมพ์ แล้วก็ในส่วนของยอดขายจากชิ้นงานพลาสติกด้วยนะคะ แล้วก็ถ้าเราเปรียบเทียบกับนะคะ ครึ่งปีแรก ครึ่งปีที่ 2 นะคะ ของปีที่ผ่านมานะคะ ก็คือยอดขายเราเนี่ยก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันนะคะ โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7% นะคะ ทั้งในส่วนของที่เป็นยอดขายของชิ้นงานพลาสติกแล้วก็แม่พิมพ์ค่ะ มาดูในส่วนของกำไรขั้นต้นกันบ้างนะคะ ในส่วนของกำไรขั้นต้นเนี่ย เราจะอยู่โดยรวมแล้วนะคะ อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านนะคะ โดยแบ่งเป็นแม่พิมพ์ 16 ล้าน แล้วก็ในส่วนของชิ้นงานพลาสติกอยู่ 74 ล้านนะคะ โดยในส่วนของถ้าเราเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนะคะ ครึ่งปีแรกของปีที่แล้วนะคะ ก็จะพบว่าเรามีการ อัตรากำไรขั้นต้นนะคะ เราเพิ่มขึ้นนะคะ เพิ่มขึ้นอยู่ 8.9% แต่ถ้าเกิดเปรียบเทียบกับครึ่งปีหลังของปีที่แล้วเนี่ย เราเพิ่มขึ้น 2.9% นะคะ ในส่วนอัตรากำไรขั้นต้น โดยในส่วนของชิ้นงานพลาสติกอ่ะมีการเพิ่มขึ้นนะคะ ในส่วนของอัตรากำไรนะคะ ทั้งนี้มาจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ

แต่ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นที่เป็น อันเนี้ยของแม่พิมพ์เนี่ย เนื่องจากมีภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงเนาะ ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นเนี่ยก็คือมันก็เลยจะบีบแคบลงนะคะ บวกกับในส่วนของที่เราได้แม่พิมพ์ใหม่ แม่พิมพ์ใหม่เนี่ย มีระยะเวลาในการผลิตค่อนข้างสั้นนะคะ สั้นมากเพื่อส่งมอบ ดังนั้นเนี่ยจึงทำให้เราต้องมีงานบางส่วนเนี่ยเราต้องไปเอาท์ซอร์สจากข้างนอกนะคะ ตรงนี้เองเนี่ยก็คือจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในส่วนของแม่พิมพ์เราเนี่ย ก็เลยลดลงนะคะ เปรียบเทียบกับ ช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้วนะคะ มาดูในส่วนของตัว EBIDA นะคะ EBIDA หรือ กำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี แล้วก็ส่วนของค่าเสื่อมราคา นะคะ อันเนี้ยเราจะเห็นว่าในส่วนของ EBIDA เองนะคะ เราอยู่ที่ประมาณ 41.9 ล้านบาทนะคะ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเนี่ยเรา เราเพิ่มขึ้นนะคะ เพิ่มขึ้นปี ปีที่ผ่านมานะคะ ช่วงเวลาเดียวกันเนี่ย เราอยู่ที่ 31 ล้านบาทนะคะ แต่ถ้าเกิดเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้วเนี่ย เราจะเห็นว่าเราลดลงมานะคะ เล็กน้อยนะคะ ทั้งนี้เนี่ยเรามีการตั้งในส่วนของสำรองค่าเผื่อสินค้าล้าสมัยนะคะ เนื่องจากเรามีงาน Run Out ส่วนหนึ่งนะคะ ของลูกค้า เราก็เลยตั้งในส่วนของสำรองนะคะ สำรองได้ค่าในส่วนของสินค้าคงเหลือไว้นะคะ มาดูในส่วนของกำไรสุทธิกันบ้างนะคะ กำไรสุทธิของครึ่งปีแรกของปีเนี้ย เราอยู่ที่ประมาณ 4.6% นะคะ เอ้ย 4.6 ล้านบาทนะคะ แล้วก็จากถ้าเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้วเนี่ย ที่ติดลบอยู่นะคะ เราก็จะเพิ่มขึ้นนะคะ ประมาณ 170% นะคะ โดยที่ครึ่งปีแรกของปีที่แล้วเนี่ย เรามีผลขาดทุนอยู่ประมาณ 6.5 ล้านบาทนะคะ แต่ถ้าเกิดเราเปรียบเทียบกับของครึ่งปีหลังของปีที่แล้วนะคะ ของ เราจะเห็นว่าลดลงไปเล็กน้อยนะคะ จากที่เรียนให้ทราบนะคะ ก็คือเรามีตั้งค่าเผื่อสำรองสินค้าละสมัยไปนะคะ มาดูในส่วนของเป็นไตรมาสกันบ้างนะคะ ในไตรมาสที่ 2 เนี่ย ของปีนี้นะคะ เราจะพบว่าในส่วนของยอดขายเราเนี่ยนะคะ เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วนะคะ เป็น Year on Year เนี่ย เราลดลงไปประมาณ 1.7% นะคะ แล้วก็ถ้าเกิดเปรียบเทียบกับในส่วนของไตรมาสแรกเนี่ยเราก็ลดลงนะคะ ไตรมาสแรกเนี่ยเราจะทำได้ดีกว่านะคะ ในไตรมาสที่ 2 เนี่ยยอดขายลดลง เหตุผลส่วนหนึ่งเนี่ยก็คือมาจากการที่ไตรมาสที่ 2 เราติดช่วงวันหยุดสงกรานต์นะคะ เป็นลูกค้าก็จะเรียกในส่วนของชิ้นงานน้อยลงนั่นเองนะคะ เป็นวันหยุดยาวนะคะ โดยในส่วนของภาพรวมนี่ก็คือไตรมาสที่ 2 เนี่ยจะลดลงไปประมาณ 5 ล้านบาทนะคะ เปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้นะคะ มาดูในส่วนของกำไรขั้นต้นกันบ้างนะคะ ไตรมาสที่ 2 เนี่ย โดยภาพรวมแล้วเนี่ยของ เราอยู่ที่ประมาณ 41 ล้านนะคะ ก็ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนะคะ ก็คือแต่ S2 ของปีที่แล้วเนี่ย ก็มีลดลงนะคะ 1 ก็คือยอดขายลดลงด้วยนะคะ 2 ก็คือเรียนให้ทราบว่า ในส่วนของอัตรากำไรนะมันก็ลดลงไปเนื่องจากว่าการแข่งขันค่อนข้างสูงนะคะ แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี ปีนี้นะคะ มันก็ลดลงไปด้วยนะคะ เนื่องจากรายได้ที่ลดลง อัตรากำไรที่ลดลงนั่นเองนะคะ มาดูในส่วนของ กำไร นะคะก่อนภาษี ดอกเบี้ย นะคะ แล้วก็ค่าเสื่อมราคา หรือ EBIDA นะคะ ของไตรมาสที่ 2 เนี่ยเรายัง เราได้ประมาณ 18.5 ล้านบาทนะคะ ก็มีการลดลงเล็กน้อยนะคะ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วแล้วก็ลดลงในช่วงของไตรมาส 1 ปีนี้นะคะ ก็เหตุผลหลักๆ ก็คือคล้ายคลึงกันนะคะ ก็คือว่าเรามี ตั้งในส่วนของสำรองไว้นะคะ มาดูในส่วนของ Net Profit นะคะ Net Profit เนี่ยเราติดลบนะคะ ประมาณ 600,000 บาทนะคะ ในส่วนของไตรมาสที่ 2 เนื่องจากว่าเรามีการล้างในส่วนของสินทรัพย์ภาษีเงินได้เราตัดบัญชีลงไปนะคะ ในส่วนของผลขาดทุน ผลขาดทุนนะคะ ที่เราคาดว่าเราจะใช้ไม่หมดนั่นเองนะคะ ที่หมดอายุภายในปีนี้จึงเป็นผลทำให้ในตัวนี้เนี่ย เรากลายเป็นลบนะคะ เราตั้ง เราตั้งค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีประมาณ 2 ล้านบาท จริงๆ ถ้าเราบวกกลับในส่วนของภาษีเข้าไปนะคะ ให้จ่ายภาษี ในส่วนของ EPT เราเป็นบวกนะคะ มาดูในภาพถัดไปนะคะ

โอเค เรามาดูในส่วนของงบแสดงฐานะทางการเงินกันบ้างนะคะ ในครึ่งปีแรกเนี่ยเราจะเห็นว่าสินทรัพย์รวมทั้งหมดนะคะ ของบริษัทเรามีอยู่ อยู่ที่ 1,147 ล้านนะคะ มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 500.93 ล้าน แล้วก็ในส่วนของผู้ถือหุ้นนะอยู่ประมาณ 646 ล้านนะคะ จะพบว่าในส่วนของสินทรัพย์นะคะ สินทรัพย์รวมเนี่ย เรามีขยับ ลดลงนิดหน่อยนะคะ เปรียบเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาคือปี 2564 นะคะ ก็โดย โดยในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนนะเราเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเราขยับลดลงนะคะ ในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนเนี่ยที่เราเพิ่มขึ้นนะคะ ก็เนื่องจากว่าเรามีรายได้ค้างรับนะคะ ก็คือสินทรัพย์นะคะที่เกิดจากสัญญานั่นเอง รายได้ค้างรับในส่วนของแม่พิมพ์นะคะ ที่เรามีการทำแล้วก็รอออก Invoice นะคะ ก็คือตัวนี้จะสูงขึ้นนะคะ ในส่วนของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ลดลงเนื่องจากว่าการลงทุนใหม่นะคะ ในช่วงของครึ่งปีแรกนะคะ เราก็มีการลงทุนที่ค่อนข้างน้อยเนื่องจากว่าปีที่แล้ว ลงทุน ซื้อเครื่องจักรใหม่ไปหลายรายการเหมือนกันนะคะ มาในปีนี้เราก็ดูความเหมาะสมในการลงทุนนะคะ ก็เลยทำให้ในส่วนของ Non Current Asset หรือสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนนั่นเอง มีขยับ ยอดลดลงนะคะ มาดูในส่วนของหนี้สินรวมกันบ้างนะคะ จะเห็นว่าถ้าเราเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาเนี่ย จะเห็นว่าหนี้สินของเราเนี่ย ลดลงเรื่อยๆ นะคะ ทั้งในส่วนของตัวที่เป็น Current liabilities นะคะ Current liabilities เนี่ยเราลดลงนะคะ จากปีที่ผ่านมานะคะ ก็คือเรามีในส่วนของการชำระคืนนะคะ ในส่วนของเงินกู้ระยะสั้นนะคะรวมถึงเงินกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี นะคะ ทำให้ตัวส่วนตรงนี้เนี่ยมีมียอดในส่วนของหนี้สินหมุนเวียนลดลงนะคะ แล้วขณะเดียวกันในส่วนของหนี้สินไม่หมุนเวียนนะคะ เราก็มีการ เอ่อ คืนนะคะ คืนเงินกู้ระยะยาวนะคะ ก็เลยทำให้ในส่วนของหนี้สินไม่หมุนเวียนก็ขยับลดลงด้วยเช่นกันนะคะ เมื่อเปรียบเทียบแล้วเนี่ยจะเห็น

[59:20] ช่วงถาม - ตอบ (Q&A Session)

    1. **การเติบโตในอนาคต:**
      • **คำถาม:** มองการเติบโตของบริษัทในอนาคตอย่างไร และมีแผนการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือไม่?
      • **คำตอบ:** บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
    2. **ผลกระทบจากเศรษฐกิจ:**
      • **คำถาม:** สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทอย่างไร และมีมาตรการรับมืออย่างไร?
      • **คำตอบ:** บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และได้เตรียมมาตรการรับมือ เช่น การกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างๆ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
    3. **การบริหารต้นทุน:**
      • **คำถาม:** บริษัทมีวิธีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างไร เพื่อรักษากำไรในสภาวะการแข่งขันที่สูง?
      • **คำตอบ:** บริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดของเสีย และใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนแรงงาน
  • **หัวข้อที่ถามและตอบในคลิป:**
    1. วิสัยทัศน์การเติบโต
    2. ผลกระทบเศรษฐกิจโลก
    3. การบริหารต้นทุน

โดยสรุปแล้ว บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่า พร้อมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างๆ เพื่อรักษากำไรและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด