TEGH โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2568: ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พลังงานทดแทน เติบโตต่อเนื่อง

P/E 5.23 YIELD 7.09 ราคา 2.96 (0.00%)

TEGH โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2568: ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พลังงานทดแทน เติบโตต่อเนื่อง

สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เรามาพบกันอีกครั้งสำหรับการนำเสนอผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2568 ของบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH วันนี้จะมีผู้นำเสนอ 2 ท่านคือ คุณศิรินุช โกศกนุตาพร กรรมการผู้จัดการ และผม วงศ์กฤต เจียมวิจิตรพงศ์

คุณศิรินุช กล่าวว่า TGHS เป็นผู้ผลิตในส่วนของผลิตและแปรรูปยางพารา ปาล์มน้ำมัน และมีธุรกิจที่ทำเรื่องของพลังงานทดแทน และการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ เราเป็น Holding Company มีสัดส่วนการถือหุ้นของทาง Family และ Related รวมถึงรายย่อยอยู่ที่ประมาณเกือบ 25%

สินค้าหลักๆ ของเราก็จะเป็นสินค้าเกี่ยวกับเรื่องของตัวยางพารา ที่เป็นวัตถุดิบในการทำยางล้อรถยนต์ ปาล์มน้ำมันก็จะเป็นวัตถุดิบสำหรับเอาไปแปรรูปเป็นน้ำมันพืชเพื่อบริโภค และก็พวกโอริโอเคมิคอล รวมถึงพลังงานทดแทน แล้วก็ธุรกิจสุดท้ายก็คือธุรกิจที่ทำเรื่องของการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ แล้วก็การผลิตพลังงานชีวภาพ

ในไตรมาส 2 นี้จะเห็นได้ว่าถ้าดูจากผลประกอบการของเราเอง เราก็จะมีในเรื่องของยอดขาย revenue เราเติบโต 6 เดือนสูงถึง 62% และเรายังสามารถรักษาสัดส่วน Gross Profit Margin ได้อยู่ที่ 9% โดยที่ถ้า Gross Profit Margin ในแง่ของตัวจำนวนเงิน เราสามารถ Grow ได้ถึง 60% แล้วก็ Net Profit อัตรา Net Profit Margin เราดีขึ้น และถ้าเป็นตัวเงิน เราก็สามารถเติบโตได้ถึง 135% Year on Year

สัดส่วนรายได้ของเราก็ยังมาจากประมาณ 87% มาจากธุรกิจยางพารา 12% มาจากปาล์มน้ำมัน และ 1% มาจากในส่วนของตัวพลังงานทดแทน และการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์

สำหรับธุรกิจยางพารา ในไตรมาส 2 นี้เอง เรามีการเติบโตทั้งในแง่ของตัวปริมาณการขาย และก็ยอดขาย ซึ่งปริมาณการขาย เราเติบโตในทุก Sector ทั้งในเรื่องของตัวยางแท่ง ที่เติบโตมาประมาณ 35% และในส่วนของตัวน้ำยางข้น เราก็เติบโตอยู่ที่ประมาณ 25% สัดส่วนการขายของเราในไตรมาสนี้ เรายังรักษาสัดส่วนการ Export อยู่ที่ 61% แล้วก็สัดส่วนของยางอยู่ราวๆ 40%

สำหรับธุรกิจปาล์มน้ำมัน ก็เช่นเดียวกัน ปีนี้จะเป็นปีที่เรา Grow ในทุกๆ Sector ของปาล์มน้ำมัน ในแง่ของปริมาณ เรา Grow อยู่ที่ประมาณ 10.5% ที่เป็นน้ำมันปาล์ม และถ้าเป็นน้ำมันเมล็ดในปาล์ม เรา Grow ถึง 25%

สำหรับ Sector ของธุรกิจพลังงานทดแทน และการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ จะเห็นได้ว่าในส่วนของตัวไบโอแก๊ส ถ้าเป็นในแง่ของตัวปริมาณ เทียบ Year on Year 6 เดือน เราเติบโตมา 100% และในส่วนของตัว Organic Waste Management เราก็เติบโตจากการที่เรามีการขยายกำลังการผลิต และอย่างที่เราเคยแจ้งว่าตัวแก๊ส เราได้มีการเพิ่มธุรกิจใหม่ก็คือ Biogas as a service ก็คือการขายพลังงานชีวภาพ ทำให้ปริมาณของแก๊สของเราสูงขึ้น

และในส่วนของตัวไฟฟ้านะคะ เรามีการปรับเปลี่ยนพลังงานการใช้พลังงานชีวภาพของเราไปขายในรูปแบบของแก๊สมากกว่าที่จะมาผลิตไฟฟ้านะคะเพื่อเนื่องจากว่าการทำแก๊สจะมีเรื่องของGross Profit Marginที่ดีกว่า

แล้วก็สัดส่วนของเราเองเนี่ยก็จะสัดส่วนของลูกค้านะคะที่เข้ามาตอนนี้นะคะถ้าเป็นลูกค้าของภายนอกเนี่ยที่เป็นตัวไบโอแก๊สเนี่ยก็จะอยู่ที่มากกว่า 50% แล้วนะคะ

ในส่วนของยอดขายนะคะปริมาณการขายที่เราชิปเมนต์ไปถ้าเรียงตามจีโอกราฟีของในโลกเราแล้วในโลกของเราเนี่ยจะเห็นได้ว่าของทาง TGH นะคะเราจะมีการของกลุ่มลูกค้าของเราไปตามทุกทวีปทั่วโลกนะคะแล้วก็ในการในแผนกลยุทธ์ตรงนี้เองก็ทำให้เราเนี่ยสามารถที่จะมีการสวิชหรือว่า

จะมีการโยกกรณีที่แบบพื้นที่ไหนมีปัญหาแล้วก็จะเห็นได้ว่าเราเติบโตดีนะคะในโหมดของตัวอินเดียนะคะของอเมริกายังรักษาสัดส่วนได้นะคะแล้วก็ของประเทศไทยนะคะที่มีลูกค้าจีนที่อยู่ในประเทศไทยแต่ว่าสัดส่วนตอนนี้เองเนี่ยเราส่งออกนะคะมากกว่าที่จะขายในประเทศ

Capacity Expansion ยังเป็นไปตามแผนนะคะที่เราเคยให้ให้คำมั่นเอาไว้ตอนที่เราเข้าตลาดนะคะก็ตามแผนตอนที่เราเข้าตลาดเนี่ยเราตามแผนถึง 2026 นะคะซึ่งแผนที่เราจะ growth ทั้งหมดเนี่ยเราคิดว่าน่าจะสำเร็จนะคะทุกแผนภายใน 2025 แล้วก็อย่างช้าเนี่ยก็จะเริ่มรับรู้รายได้กันในไตรมาสที่ 1 2026 ค่ะ

ในไตรมาสที่ผ่านมาไตรมาส 2 นะคะเราได้รับการขึ้นทำเนียบนะคะติดอันดับหลักทรัพย์ใน ESG 100 นะคะแล้วก็ยังได้ติดอันดับในส่วนของตัว Fortune South East Asia 500 แล้วก็นอกจากนี้นะคะไทยเส้นกรุ๊ปยังได้รับรางวัล Excellent Sustainability Award นะคะจากber Industry

แล้วก็ในบริษัทลูกของเรานะคะก็จะมีบริษัท EQber นะคะที่ได้รับรางวัลในเรื่องของกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อความยั่งยืนเพื่อประสิทธิภาพและความยั่งยืนแล้วก็มี Power นะคะที่ได้รับ Golden Award จากโครงการ Thailand Japan Award 2025 นะคะ

สำหรับมิติในเรื่องของเกี่ยวกับ Certificate ต่างๆ นะคะเราจะมี Certificate ในเรื่องของทั้งระบบคุณภาพ ระบบการจัดการ ห่วงโซ่อุปทาน นะคะระบบเรื่องของการทำความยั่งยืน แล้วก็ Certificate เกี่ยวกับทางด้านคาร์บอน แล้วก็เรื่องของ Good governance นะคะ นี่ก็จะเป็นมิติที่เราได้มีการ Balance ในเรื่องของการบริหารจัดการของเรานะคะแล้วก็ในส่วนของเรื่อง ESG นะคะในเดือนที่ผ่านในไตรมาสที่ผ่านมานะคะ

เราก็จะมีในเรื่องของการขยายพื้นที่ที่ได้รับการ FSC เพิ่มเติมแล้วก็ SPO ทำให้ปัจจุบันนี้เองเนี่ยเราจะเป็น leading นะคะในบริษัทที่มี sustainable supply chain ทางด้าน certify การจัดการสวนป่า นะคะแล้วก็นอกจากนี้นะคะเรายังเป็นผู้ผลิตนะคะรายแรกและก็รายเดียวที่ได้รับเซอร์ปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องของ Globalganic Latex

แล้วก็ภายในปีนี้นะคะที่เราที่ทำแผนไว้ก็คือเราจะเริ่มได้รับเซอร์เกี่ยวกับเรื่อง ICC ซึ่งเซอร์ ICC นี้เนี่ยก็จะเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการที่เราจะไปต่อยอดการทำน้ำมันที่จะเป็นวัตถุดิบเพื่อไปทำ SAF ต่อไปนะคะแล้วก็เอ่อเราได้รับการนะที่ได้รับการรับรองเพิ่มเติมของปีนี้นะคะก็คือคาร์บอนเครดิตปีนี้ได้อีก 53,000 ตันคาร์บอนเครดิตนะคะแล้วก็เราได้ยังได้รับในส่วนของตัวไอเร็กนะคะซึ่งเป็น Certificate ให้สามารถขายเกี่ยวกับเรื่องพลังงานไฟฟ้านะคะด้านไฟฟ้าสะอาดอีก 15,000 ซึ่งทั้งทั้งทั้งคาร์บอนเครดิตนี้เนี่ยเราก็จะเก็บไว้สามารถที่จะขายได้ในอนาคตต่อไปนะคะแล้วก็

สำหรับปัจจุบันนี้นะคะเราเป็น Gold level นะคะแล้วเราก็มีการยื่นประเมินของปี 2025 ไปแล้วซึ่งผลเนี่ยน่าจะออกภายใน Q3 เดี๋ยว Q หน้าก็จะมาอัปเดตทุกท่านทราบค่ะเชิญคุณวงฤทธิ์ค่ะ

ธุรกิจแรกคือสายธุรกิจยางพารานะครับก็อยากให้ดูในกล่องซ้ายล่างนะครับในตั้งแต่ Q4 เป็นต้นมาเนี่ยเราสามารถผลิตได้ประมาณ 65,000ตันบวกลบเนี่ยเป็นเวลา 3 ไตรมาสติดต่อกันแล้วนะครับอันนั้นก็คือเป็นฐานใหม่ของการผลิตของเราแล้วนะครับซึ่งปัจจุบันเนี่ยเรามีกำลังผลิตสูงสุดเนี่ยได้ประมาณราวๆ 70,000 ต้นๆนะครับซึ่งเราก็มีแผนในการขยายอีกเตาหนึ่งเพื่อรองรับการเพิ่มของยอดขายในปีหน้านะครับแล้วก็ในส่วนนี้เนี่ยจะเป็นส่วนที่ยังเป็น เนี่ยตกประมาณราวๆ 40% อยู่ในไตรมาสล่าสุดนะครับซึ่งหลังจากที่มีการเลื่อนก็ยอดตรงนี้ตกลงเล็กน้อยนะสําหรับยอดสําหรับรายได้เนี่ยก็จะตกลงเมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งเล็กน้อยนะครับเป็นปัจจัยจากของภาษีทรัมป์ที่ทําให้ราคายามมีการตกลงมาในไตรมาส 2 นะครับ

ส่วนสายธุรกิจปาล์มนะครับก็จะเห็นว่ายอดผลิตของทั้งน้ํามันปาล์มและน้ํามันในปาล์มเนี่ยมีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะนะครับน้ํามันปาล์มขึ้นไปประมาณเกือบ 40 แล้วก็เมล็ดในปาล์มขึ้นประมาณ 30 นะครับซึ่งเป็นผลจากที่ปามออกมาเยอะในช่วงไตรมาส 2 นะครับเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 กับไตรมาส 4 ที่ยังได้รับผลกระทบของอยู่ นะครับแล้วก็ตัวรายได้ของปาล์มเนี่ยก็มีเห็นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนะครับถ้าคิดเป็นราย Q เนี่ยก็ 14% ถ้าเทียบปีเนี่ยประมาณ 20% สําหรับส่วนพลังงานทดแทนนะครับก็จะเห็นว่าส่วนเวสที่เรา รับมากําจัดเนี่ยก็ยังตกอยู่ระดับประมาณ 90,000 ตันต่อไตรมาสนะครับก็คือ 1,000 ตันต่อวันซึ่งก็เป็นจุดที่ใกล้เคียงกับกําลังผลิตของเราแล้วนะครับอีกส่วนหนึ่งก็คือส่วนของการผลิตแก๊สและไฟก็จะให้เห็นนิดนึงว่าในส่วนของไตรมาส 1 2 เนี่ยจะเห็นว่ามีการผลิตแก๊สเยอะแล้วก็มีการผลิตไฟที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 อันนี้เป็นการที่เราการผลิตเพื่อไปยังผลิตภัณฑ์ที่ให้มูลค่าสูงกว่านะครับก็เป็นเช่นเดียวกับที่เรากําลังจะทํา กับสายธุรกิจปาล์มอยู่ด้วยนะครับเพื่อเพิ่ม value ให้กับธุรกิจปาล์มของเรา

ในภาพรวมนะครับก็จะเห็นว่าในไตรมาส 2 เนี่ยรายได้ของเราจะทั้งหมดคือประมาณ 5,400 ล้านลดลงจากไตรมาส 1 เล็กน้อยถ้ารวม 2 ไตรมาสเนี่ยเราได้ประมาณ 11,000 ล้านแล้วนะครับก็เป็นครึ่งทางของเป้าที่เราได้เคยแจ้งกับนักลงทุนไว้นะครับที่ 22,000 ล้าน สําหรับตัวนะ ครับก็ต่ําลงจากไตรมาสแรกนะครับประมาณ 10% แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนี่ยจะเห็นว่าดีขึ้นมาทั้งหมด 60% ในส่วนของไตรมาส 2 ที่ลดลงเมื่อเทียบไตรมาสแรกเนี่ยก็อย่างที่เรียนนะครับก็เป็นส่วนที่ลดลงในสายยางนะครับเนื่องจากภาวะตลาดในของไตรมาส 2 นะครับ

แต่ในไตรมาส 2 เนี่ยสิ่งที่ปรับตัวดีขึ้นก็คือสายธุรกิจปาล์มนะครับซึ่งในธุรกิจปาล์มเนี่ยไตรมาส 2 นี่มีผลงานที่เป็นบวกนะครับเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่ติดลบอยู่นะครับเนื่องจากผลกระทบเอลนิโยแล้วก็ไตรมาส 2 มีอีกเรื่องนึงก็คือว่าเรามีกําไรขาดทุนจากลูกเนี่ยที่เข้ามาเพิ่มประมาณ 51 ล้านลูกเราเนี่ยก็คือทําธุรกิจอย่างกับปาล์มเช่นกันนะครับก็เป็นตัวที่ contribute เข้ามาในไตรมาส 2 นะ ครับซึ่งทําให้ไตรมาส 2 เนี่ยเราทํากําไรทั้งหมด 211 ล้านนะครับก็ดีขึ้นประมาณ 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 แล้วก็ดีขึ้นประมาณ 110% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว

ในส่วนของสายธุรกิจนะครับในครึ่งปีแรกของปี 25 เนี่ยก็จะเห็นว่าสายยางเนี่ยลดลงมา 88% นะครับก็จากรายได้ราคาต่อหน่วยแล้วก็ปริมาณขา ที่ลดลงนะครับเล็กน้อยในขณะที่สายปาล์มเนี่ยมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นก็จะเห็นว่าส่วนสายปาล์มเนี่ยเพิ่มขึ้นจาก 9.3 เป็น 10.8 ในปีนี้ ในส่วนการขายตามภูมิภาคนะครับก็จะเห็นว่าใน 6 เดือนแรกของปี 2024 เนี่ยเรามีการส่งออก 48 นะ ครับปีนี้เป็น 54 นะครับยอดส่งออกที่เยอะเนี่ยก็เป็นตั้งแต่ประมาณปลายปีที่แล้วหลังจากที่มี การส่ง ออกต่างประเทศค่อนข้างเยอะนะครับก็จะเป็นสัดส่วนของ ที่ทําให้การส่ง ออกยางของเราเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ สําหรับส่วน แล้วก็ Margin ก็จะเห็นว่าในตั้งแต่ปี 2022 23 24 เนี่ยเราก็ทําได้ในระดับ 9 - 10% นะครับแล้วก็ในครึ่งปีแรกของปีนี้เนี่ยตัวเลขMargin เนี่ยจะใกล้เคียงกับตัวเดิมนะครับแต่เนื่องจากยอด ขายที่เราทําด้วยเพิ่มขึ้นเยอะนะครับทั้งปริมาณแล้วก็ราคาเนี่ยก็จะเห็นว่าเราขึ้นจากประมาณ 600 กว่าล้านเนี่ยเป็นถึง 100 ล้านนะครับส่วน ก็เป็นไปในทางเดียวกันนะครับก็จะเห็นว่าครึ่งปีแรกของปีนี้เนี่ยเราทําได้ 387 ล้านนะครับเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 154 ล้านนะครับแล้วก็ในในเชิงของ Margin เนี่ยก็จะเพิ่มจาก 2.4 เป็น 3.5%

สําหรับส่วนสายธุรกิจยานนะครับในครึ่งปีแรกของปีนี้เนี่ยเราทําไปแล้วทั้งหมดคือ 960 ล้านนะครับขณะที่ปีที่แล้วเราทําได้ 598 ล้านในช่วงครึ่งปีแรกนะครับซึ่งช่วงนั้นเนี่ยเรายังไม่ได้มี เข้ามาแล้วก็ช่วงครึ่งปีแรกเนี่ยปริมาณขายยางค่อนข้างน้อยนะครับแล้วก็จะเห็นว่าตัวเนี่ยอยู่ในระดับเลข 2 หลักนะครับก็ที่ 10% ส่วนสายธุรกิจปาล์มนะครับครึ่งปีแรกเนี่ยยังไม่มีผลกระทบมากนักแต่ช่วงไตรมาส 4 ถึงไตรมาส 1 เนี่ยที่จะมีเรื่องโย ที่ จะกระทบ ค่อนข้างเยอะก็เป็นช่วงที่มีการขาดทุนของสายธุรกิจปาล์มนะครับแต่ไตรมาส 2 เนี่ยหลังจากที่ปาล์มออกมาเยอะนะครับซึ่งเรามีจินที่ค่อนข้างดีขึ้นประกอบกับเรามีการควบคุมการผลิตนะครับแล้วก็รอตัวใหม่เนี่ยก็เลยทําให้ไตรมาส 2 เนี่ยผลประกอบการเป็นบวกนะครับก็เลยทําให้ครึ่งปีแรกเนี่ยเรา ขาด ทุนเนี่ยเหลือแค่ประมาณ 20 ล้าน ส่วนพลังงานทดแทนนะครับก็อยากให้เห็นนิดนึงว่าตัวจินเนี่ยหลังจากที่เราโซน 3.1 นะครับเมื่อปลายปีที่แล้วจะเห็นว่าปีนี้เนี่ยเพิ่มจาก 34 ล้านในครึ่งปีแรกเป็นประมาณ 58 ล้านในครึ่งปีแรกของปีนี้ แล้วก็ระดับจินเนี่ยอยู่ในระดับประมาณ 50 บวกลบนะครับซึ่งเป็นระดับที่สูง ส่วนของมินเนี่ยก็เห็นว่าตัวที่เพิ่มขึ้นนะครับหลัก ๆ ก็มาจากอ่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นทําให้เราต้องมีเสียค่าส แล้วก็ค่าขนส่งระหว่างประเทศที่อยู่ใน เนี่ยเพิ่มขึ้นด้วยนะครับแต่โดยภาพรวมแล้วเนี่ยเปอร์เซ็นของ เนี่ยก็ลดลงจาก 5.8 เหลือ 5.1 นะครับส่วน นะครับสําหรับท้ายปีที่แล้ว 24 เนี่ยก็จะเห็นว่ายอดขึ้นไปถึง 9,600 ล้านนะครับตัว หลัก ๆ ก็จะมีการสต๊อกยางของสิ้นปีสําหรับที่จะใช้ในช่วงที่เราปิดกรีดช่วงเดือนกุมภาพันธ์มีนาคมนะครับแล้วก็สําหรับครึ่งปีแรกของปีนี้เนี่ยตัวเลขก็จะลงมาเหลือประมาณ 8,300 นะครับหลังจากที่สต๊อกยางเราลดลงจากการที่ใช้ในช่วงปิดกรีดนะครับและก็ก็จะมีการลดลงเมื่อเทียบกับปลายปี 24 นะครับหลัก ๆ ก็คือการ จ่ายเงินเอ่อโทษทีฮะก็คือจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนะครับก็คือเป็นกําไรที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีนะครับประมาณเกือบ 400 แล้วก็มีหักด้วยเงิน ปันผลเท่าจ่ายในเดือนพฤษภาคมส่วนหนึ่งนะครับก็ทําให้ตัวเนี่ยเพิ่มขึ้นมาประมาณ 100 กว่าๆ นะ ครับแล้วก็ภาพของ เนี่ยก็จะเห็นว่าครึ่งปีนี้เราทําไปได้ 4.7% นะครับถ้าคิดว่าครึ่งปีหลังอยู่ในระดับ ใกล้เคียงกันเนี่ยเราก็จะได้ เนี่ยตกเกือบ ๆ 10% ซึ่งจะไปใกล้เคียงกับปีที่ดีของเราแล้วคือปี 200022 นะครับส่วนเนี่ยครึ่งปีแรกเราทําได้ประมาณ 10% นะ ครับก็ทั้งปีตกประมาณ 20% นะครับก็จะกลับไปใกล้เคียงกับปี 22 นะครับส่วน เนี่ยจะเห็นว่าเราทําให้ทั้งหมด 705 ล้านในครึ่งปีแรกจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปี แล้วค่อนข้างสูงนะครับครึ่งปีแรกของปีที่แล้วเนี่ยทําได้ประมาณ 420 ซึ่งตรงนี้เนี่ยก็น่าจะเพียงพอสําหรับการจ่าย ปันผลและการลงทุนที่เราจะมีแผนการทําในอนาคตนะครับส่วนหนี้สินต่อทุนเนี่ยอย่างที่เรียนก็คือว่าช่วง ปลายปีนี้เราจะมีการเก็บสต๊อกยางและปีที่แล้วเนี่ยจะมีการเก็บ เป็นพิเศษด้วยก็เลยจะทําให้หนี้สินต่อทุนเราเนี่ยขึ้นไป 1.7 นะครับแต่ถึงสิ้นเดือน 6 เนี่ยก็เหลือ 1.2 ก็จะเป็นรูมที่เรายังสามารถที่จะใช้ในการขยายกิจการอยู่ได้นะครับ

สําหรับส่วน นะครับก็ในครึ่งปีแรกของปีที่แล้วเนี่ยจะมีการติดลบค่อนข้างเยอะนะครับจริง ๆ ครึ่งปีควรจะเป็นตัวเลขบวกนะครับแต่เนื่องจากในครึ่งปีแรก ของปีที่แล้วเนี่ยเราจะต้องเตรียมสต๊อกยาง เพื่อที่จะป้อนในไตรมาส 3 4 ก็เลยยังจะทําให้ชั่เนี่ย ติด ลบจากการที่สต๊อกอันนั้นแต่ในครึ่งปีแรกของปี 2025 เนี่ยก็ เป็นเหตุการณ์ที่กลับมาปกตินะครับก็มี สต๊อกใกล้เคียงเดิม ละแล้วก็การเป็นการลดของสต๊อกที่ใช้ในช่วงปิดกรีดช่วงประมาณไตรมาส 2 นะครับแล้วก็ตรงนี้เลยทําให้จะเห็นว่าชั่เนี่ยเป็นบวกประมาณ 2,000 ล้าน นะครับก็แคชสําหรับปีครึ่งปีแรกเนี่ยก็คือ 218 ล้านนะครับ

สําหรับส่วน Market Outlook นะครับก็จะเห็นว่าราคายางเนี่ยก็ขึ้นมาอยู่ในช่วงประมาณ 60-70 ราว ๆ นี้นะครับโดยช่วงปลายปีถึงต้นปีไตรมาสหนึ่งก็อย่างที่ทราบก็มีเรื่อง เรื่องอะไรที่ราคายามมีการขึ้นนะครับแล้วก็ถูกกระทบเรื่องของภาษีทรัมป์ในไตรมาส 2 ที่ตัวเลขราคายามเริ่มลดลงนะครับแล้วก็ตอน นี้ก็มีการเริ่มที่จะผงกหัวกลับขึ้นมานะครับในส่วนของการอ่าผลิตแล้วก็ส่งออกนะครับของเมืองไทยเนี่ยก็จะมีการผลิตที่ลดลงในไตรมาส 2 นะ ครับส่วนหนึ่งก็มีการเลื่อนอ่าเปิดกรีดด้วยนะครับแต่ในส่วนนี้เนี่ยก็จะเห็นว่าของเราเนี่ยไม่ได้กระทบอะไรนะครับยอด ขายเรายังอยู่ในระดับที่ 65,000 นะครับบวกลบเมื่อเทียบกับเฟส 4 กับของปีที่แล้วกับไตรมาสหนึ่งเนี่ยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันนะครับแล้วก็ในส่วนอ่าการขายการ เอ็กซ์ปอร์ตยางเนี่ยก็จะเห็นว่าเนี่ยก็มีการส่งออกที่ลดลงนะครับในภาพรวมประเทศซึ่งก็สําหรับเราเนี่ยก็ยังสามารถที่จะเทน การส่งออกได้ค่อนข้างดีนะครับและส่วนของการผลิตภัณฑ์ของล้อ ยางเนี่ยก็จะเห็นว่าลดลงเล็กน้อยแต่เมื่อเทียบปีต่อปีเนี่ยก็ดีขึ้นนะครับซึ่งของเราเนี่ยก็จะได้ผลดีทั้ง 2 ส่วนก็คือเราส่ง ในรูปของการขายยาง แท่งไปต่างประเทศโดยตรงอีกส่วนหนึ่งก็มีการขายกับผู้ เปลี่ยนล้อยางในประเทศนะครับซึ่งก็ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องพวกนี้มากนัก

อันนี้จะให้ดูในภาพของตลาดนะครับก็จะเห็นว่าจีนเนี่ยด้านตารางด้านซ้ายเนี่ยเป็นการผลิตรถยนต์นะครับซึ่งเขายังผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นนะครับประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์นะครับตลาดอื่นก็มีการลดลง บางส่วนนะครับก็ไม่ได้เพิ่มแรงนะครับซึ่งถ้ามาดูตารางขวาเนี่ยก็จะเห็นภาพของยางล้อนะครับก็เหยาง ล้อของจีนเนี่ยมีการผลิตที่เยอะขึ้นนะครับในขณะที่ export เนี่ยไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงเล็กน้อยนะครับซึ่งอันนี้ก็เป็นตัวที่บอกว่าตลาดจีนเนี่ยก็ยังน่าจะไปได้ดีจาก ของยางรถยนต์ จากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนด้วยนะครับส่วนของไทยเองเนี่ยก็จะเห็นว่าดี ขึ้นนะครับในการส่ง ออกยางประมาณ 7 - 8% ของเราก็เป็นผู้ส่ง ออกยางเป็นเบอร์ 2 ของโลกนะครับซึ่งในส่วนนี้เนี่ยก็จะเป็นโอกาสนะครับที่เราน่าจะหา ตลาดอเมริกาและตลาดอื่น ๆ ได้เพิ่มเติมขึ้น

ส่วนภาพนี้ก็จะเห็นเป็นสัดส่วนการส่งออกเทียบกับ นะครับในส่วนของอเมริกาเนี่ยเรามีส่ง ออกประมาณ 12% นะ ครับอย่างที่คุณนุชเรียนมาก่อนนะครับว่าอ่าในส่วน ของยางแท่งเนี่ยไม่ได้รับผลกระทบเรื่องภาษีแล้วก็มีผู้ผลิตหลายรายเนี่ยก็มีแผนที่จะผลิตใน US เพิ่มขึ้นเพื่อ จะป้อนตลาด US นะ ครับแล้วก็หลายรายที่ มีแหล่งผลิตหลายที่ก็มีการ รบาลานซ์การผลิตนะครับเพื่อให้แหล่งผลิตในประเทศเนี่ยซัพพอร์ตในประเทศ US เป็นหลักนะครับ ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นผลดีกับการส่ง ออกของเราส่วนยุโรปอย่างที่เรียนนะครับก็เป็นคน ที่เน้น นะ ครับซึ่งเรามี Market ของเราอยู่เนี่ยประมาณ 45% ของเราก็น่าจะ ได้ประโยชน์จาก ที่จะเริ่ม implement ใหม่ในสิ้นปีนี้แล้วก็ตลาดอินเดียกับจีนเนี่ยซึ่งยังเป็นตลาดที่ GDP โตได้ดีก็เป็นตลาดที่เรามีสัดส่วนการส่ง ออกในระดับพอสมควรนะครับที่ 9% แล้วก็จีนประมาณ 6%

อันนี้เป็นฤดูที่อ่ายางจะเริ่มผลิต ออกเยอะแล้วนะครับก็เดือนหน้าก็เริ่มมีผลิตยาง ออกมาเยอะนะครับแต่ในส่วน ของเราเองก็คงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่อ่าปัญหาในการเก็บสต๊อกวัตถุ ดิบสําหรับการผลิตของเรานะครับก็น่าจะมีเพียงพอ

ส่วนของปาล์มนะครับก็ในไตรมาส 1 เนี่ยก็มีการพีคขึ้นไปนะครับจากที่ภาวะน้ํามันพืชทั่วโลกที่ขาด แคลนนะครับโดยเฉพาะน้ํามันปาล์มนะครับแล้วก็สําหรับ ไตรมาส 2 เนี่ยซึ่งปาล์มออกมาเยอะเนี่ยก็จะเห็นว่าช่วงหนึ่งสต๊อกปาม ขึ้นไปค่อนข้างสูงนะครับแล้วก็มีการส่ง ออกปาล์มไปต่างประเทศระดับหนึ่งก็จะเห็นว่าตอนหลังเนี่ยสต๊อกเริ่มลดลงนะครับแล้วก็ ราคาเริ่มที่จะผงกหัวขึ้นนะครับเราก็คงจะเห็นว่าราคาอยู่ในระดับนี้แล้วก็อ่าเพิ่มขึ้น นิดหน่อยในครึ่งปีหลังนะครับจากสภาวะของฤดูหน้าที่ปาล์มจะเริ่มออกลดลง

สําหรับส่วนของผลผลิตอย่างที่เรียนนะครับไตรมาส 2 เนี่ยเป็นช่วงที่ปาม ออกมาเยอะมากๆ นะครับที่ประมาณ 8 ล้านตันทะลาย ปาล์มสดนะครับโดยส่วน หนึ่งเนี่ยเป็นตัวที่ทํา ให้สต๊อกเพิ่มขึ้นแล้วก็ในไตรมาส 2 เนี่ยก็มีการส่ง ออกที่ค่อนข้างเยอะทั้งหมดประมาณเกือบ ๆ 60,000 ตันเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ซึ่งมีความ หมายน้อยเนี่ยเราส่ง ออกน้อยมากนะครับแล้วก็ในส่วนของตารางล่างก็จะเห็นว่าในไตรมาส 3 4 เนี่ยจะออกมาลดลงนะครับเหลือแค่ประมาณ 4 ตันล้าน สกับ 3

**สรุป:** TEGH ยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยเฉพาะในธุรกิจยางพาราและปาล์มน้ำมัน แม้จะมีปัจจัยภายนอกมากระทบบ้าง แต่บริษัทก็สามารถปรับตัวและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ได้ นอกจากนี้ การมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับการรับรองยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอีกด้วย

## ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้นนาทีที่ 41:30 * **

ผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่ต่อธุรกิจปาล์ม?

**

ผู้บริหารตอบว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกผลกระทบ แต่บริษัทติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

* **

แนวโน้มราคายางพาราในครึ่งปีหลัง?

**

ผู้บริหารคาดว่าราคาจะยังคงผันผวน แต่ความต้องการยางพารายังคงมีอยู่

* **

แผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ?

**

ผู้บริหารกล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนในขณะนี้

* **

ความคืบหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่?

**

ผู้บริหารตอบว่าบริษัทกำลังวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

* **

ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน?

**

ผู้บริหารกล่าวว่าบริษัทได้รับผลกระทบบ้าง แต่สามารถปรับตัวได้โดยการกระจายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ

* **

ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2568?

**

ผู้บริหารตอบว่าบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

* **

เป้าหมายในการลดต้นทุนการผลิต?

**

ผู้บริหารกล่าวว่าบริษัทมีโครงการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

* **

นโยบายการจ่ายเงินปันผลในอนาคต?

**

ผู้บริหารตอบว่าบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลตามผลประกอบการและสถานะทางการเงินของบริษัท

* **

ความเสี่ยงด้านสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ?

**

ผู้บริหารกล่าวว่าบริษัทมีการวางแผนรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพอากาศและภัยธรรมชาติอย่างรอบคอบ

* **

การแข่งขันในตลาดพลังงานทดแทน?

**

ผู้บริหารตอบว่าตลาดมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทมีข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์

โพสต์ล่าสุด