สรุป Oppday TNL: เจาะลึกผลกระทบและความท้าทาย พร้อมมองหาโอกาสเติบโตในอนาคต (Q2/2568)

P/E 17.08 YIELD 1.70 ราคา 0.00 (0.00%)

สรุป Oppday TNL: เจาะลึกผลกระทบและความท้าทาย พร้อมมองหาโอกาสเติบโตในอนาคต (Q2/2568)

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 TNL เผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทาย แม้ว่า Top Line หรือ Operating Revenue จะขยายตัวเล็กน้อยทั้ง Q on Q และ Year-to-date จากการเติบโตของธุรกิจ AMC และ Property แต่การเติบโตนี้ถูกชะลอบางส่วนจากการหมุนเวียนของพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Secure Lending) ซึ่งยังคงเป็น Contributor หลักในส่วนของ Top Line

Bottom Line หรือ Net Profit ปรับลดลงจากผลการดำเนินงานที่กล่าวมาข้างต้น และยังมีผลกระทบจากส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม (JV) เนื่องจากหลายโครงการยังอยู่ในช่วงการก่อสร้าง หรือกำลังรอโอนในช่วงครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตาม Net Profit Margin ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 24% ในไตรมาสนี้ และ 34% หากมองในรอบ 6 เดือน

ในด้าน Secure Lending พอร์ตสินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 6,175 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าบางส่วนปิดวงเงินและชำระหนี้บางส่วนออก แต่มูลค่าหลักประกันยังสูงอยู่เกือบ 1,300 ล้านบาท สะท้อนถึงการรักษา LTV ในระดับที่ปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ด้าน AMC Nigo Balance อยู่ที่ 4,287 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยสัดส่วน Retail ต่อ Corporate อยู่ที่ 39:61% เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้น Corporate NPL

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

TNL มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ AMC โดยเน้นการประมูลหนี้เสียจากธนาคารพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง และยังคงรอความชัดเจนในด้านกระบวนการ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการใช้หลักประกันจาก Secure Lending เพื่อเป็นทางเลือกในการ Unlock Value ผ่านการขายทอดตลาดหรือพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร โดย TNL มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Developer ชั้นนำทั่วประเทศ

ธุรกิจ Advisory ซึ่งจัดตั้งขึ้นในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กำลัง Work on Deal M&A โดย Target ว่าจะ Closing ได้ในช่วงปลายปีนี้ และบริษัทได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็น Prepairer และ Administrator เพื่อขยายบริการให้ครบวงจรในอนาคต

ในส่วนของธุรกิจ Property TNL คาดว่าจะสามารถโอนได้ 2 โครงการในปีนี้ ได้แก่ Noble Create และ New Revere ตรงราษฎร์บูรณะ ซึ่งทั้ง 2 โครงการมียอด Pre-sale มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

TNL เผชิญกับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยเฉพาะในส่วนของ Retail NPL นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากโครงการ Property ที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งทำให้บริษัทต้องบันทึก Share of Loss

ในส่วนของ Secure Lending มีความเสี่ยงจากการหมุนเวียนของพอร์ตสินเชื่อที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากลูกหนี้ NPL บางรายที่กระบวนการ Refinance ล่าช้า ซึ่งอาจทำให้การแก้ไขหนี้เสียรายนี้ต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 3

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

TNL ใช้วิธีการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ โดยรักษาระดับ LTV ใน Secure Lending ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และกระจายความเสี่ยงไปยังหลากหลายธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจ AMC โดยเน้นการจัดเก็บ Cash Collection จาก Corporate NPL ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีกว่า Retail NPL

ในส่วนของโครงการ Property TNL พยายามเร่งการก่อสร้างและโอนโครงการให้ได้ตามแผน เพื่อลดผลกระทบจาก Share of Loss นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงกระบวนการพิจารณาสินเชื่อให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด NPL ในอนาคต

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

TNL มองว่าในอนาคตจะมีปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยสนับสนุนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยจากทาง กนง. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง และการผ่อนคลาย LTV ชั่วคราว

TNL ยังคงมุ่งเน้นในการสร้าง Growth Engine ใน 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยจะใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในพอร์ต NPL และขยายธุรกิจ Advisory ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:04:45]**

ไม่มีช่วง Q&A ในคลิปเสียงนี้

**สรุป:**

TNL เผชิญกับความท้าทายในไตรมาส 2 ปี 2568 จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการหมุนเวียนของพอร์ตสินเชื่อที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งในด้าน Net Profit Margin และสถานะทางการเงิน และมีแผนที่จะใช้โอกาสจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจต่างๆ เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นที่ Corporate NPL และการเร่งโอนโครงการ Property ให้ได้ตามเป้าหมาย

โพสต์ล่าสุด