บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TNR โชว์ศักยภาพผู้นำตลาดถุงยางอนามัยโลก พร้อมขยายสู่ Sexual Wellness ปี 2568
P/E 8.84 YIELD 13.45 ราคา 5.95 (0.00%)
TNR โชว์ศักยภาพผู้นำตลาดถุงยางอนามัยโลก พร้อมขยายสู่ Sexual Wellness ปี 2568
Opportunity Day ของบริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (TNR) ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 นำเสนอภาพรวมธุรกิจ, กลยุทธ์การเติบโต, และผลประกอบการที่น่าสนใจ โดยเน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกถุงยางอนามัยของประเทศไทย
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ตลาดถุงยางอนามัยทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 5.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และคาดว่าจะเติบโตในอัตรา CAGR ที่ 8.52% ในช่วงปี 2565-2573
- ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกถุงยางอนามัยอันดับ 1 ของโลก โดยในปี 2567 มีมูลค่าส่งออกประมาณ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 38% ของโลก
- ผลกระทบเชิงลบ: รายได้ปี 2568 ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า (1,020 ล้านบาท ลดลง 102 ล้านบาท) เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท
- กำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากฐานกำไรที่สูงเป็นพิเศษในปี 2567 จากการบรรลุข้อตกลงกับ Playboy
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นโอกาสสำคัญในการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
- การต่อยอดศักยภาพในการผลิต การสร้างแบรนด์ และการขยายสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการใช้ถุงยางเพิ่มสูงขึ้น
- การได้รับสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ Playboy เป็นโอกาสในการเข้าถึงตลาดและแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- การแข่งขันจากผู้ผลิตรายอื่นทั้งในและต่างประเทศ
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการบันทึกยอดขาย
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การมุ่งเน้นการเติบโตผ่าน OBM (Own Brand Manufacturing) หรือแบรนด์ของตนเอง (Playboy และ One Touch)
- การลงทุนและพัฒนาเครื่องจักรและกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในด้าน Sexual Wellness หรือสุขภาวะทางเพศ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- TNR ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตถุงยางอนามัยระดับโลก และเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดสุขภาวะทางเพศ
- บริษัทมีแผนที่จะวางขายผลิตภัณฑ์ Playboy ใน 11 ประเทศทั่วโลก โดย 8 ประเทศผ่าน Distributor และ 3 ประเทศหลัก (สหรัฐอเมริกา จีน และไทย) ดำเนินการผ่าน TNR เองและบริษัท ย่อย
- ตั้งเป้ายอดขาย Playboy 300 ล้านบาทต่อปี และขยายการวางขายมากกว่า 30 ประเทศภายใน 3 ปี
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 50:00]
คำถาม: รายได้หลักมาจาก OEM ซึ่งมีคู่แข่งจำนวนมาก ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมีกำลังการผลิตและความสามารถในการแข่งขันอย่างไร
คำตอบ: TNR มีกำลังการผลิตสูงติดอันดับโลก ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ บริษัทมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Product Variety) ทั้งขนาดและ Texture ที่แตกต่าง รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้
คำถาม: สัดส่วนรายได้ OEM สูงขึ้น มีความเสี่ยงหรือไม่ หากลูกค้าย้ายฐานการผลิต หรือมีคู่แข่งรายใหม่เกิดขึ้น บริษัทมีกลยุทธ์อย่างไร
คำตอบ: บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า OEM รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ TNR ยังมีธุรกิจ OBM ซึ่งเป็นแบรนด์ของตนเอง ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง
คำถาม: Playboy มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจาก One Touch หรือไม่ และบริษัทมีแนวทางในการทำตลาดอย่างไร
คำตอบ: Playboy และ One Touch มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน One Touch เน้นตลาดในประเทศและเอเชีย ในขณะที่ Playboy เป็นแบรนด์ระดับโลก มีกลุ่มเป้าหมายที่กว้างกว่า บริษัทมีแผนที่จะใช้จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสม
คำถาม: บริษัทมีแผนในการลงทุนในด้าน R&D อย่างไร เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในตลาด Sexual Wellness
คำตอบ: TNR มีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่แข็งแกร่ง และมีการลงทุนในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาด Sexual Wellness เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ (Synthetic Condoms) และเจลหล่อลื่นรูปแบบใหม่ๆ
คำถาม: บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลในอนาคตหรือไม่
คำตอบ: TNR มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังหักสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมที่คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณา บริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลในอนาคต หากผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หัวข้อที่ถาม-ตอบ
- ศักยภาพการแข่งขันในตลาด OEM
- การบริหารความเสี่ยงจากรายได้ OEM
- ความแตกต่างและกลยุทธ์ของแบรนด์ Playboy และ One Touch
- แผนการลงทุนใน R&D สำหรับตลาด Sexual Wellness
- นโยบายและการจ่ายเงินปันผลและแนวโน้มในอนาคต
โดยสรุป TNR ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดถุงยางอนามัย พร้อมทั้งขยายธุรกิจสู่ตลาด Sexual Wellness ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตนเอง