สรุป Oppday RT: เจาะลึกผลประกอบการ Q2 ปี 2568 พร้อมทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.27 (0.00%)

สรุป Oppday RT: เจาะลึกผลประกอบการ Q2 ปี 2568 พร้อมทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง

สวัสดีท่านนักลงทุนและสื่อสารมวลชนทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่งาน Opportunity Day สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2568 โดยผู้บริหารที่จะมาให้ข้อมูลคือ:

  1. คุณชวลิต ถนอมถิ่น
  2. คุณไชยา วงศ์ลาภพานิช (กรรมการผู้จัดการ)
  3. คุณปรเมศวร์ มัชฌิมา (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน)

ภาพรวมโครงการและธุรกิจ

บริษัทมี Core Business อยู่ 5 กลุ่มหลัก:

  1. งานอุโมงค์และ Shaft Work
  2. งาน Dam (เขื่อน) และระบบระบายน้ำ (ส่วนใหญ่เป็นงานของกรมชลประทาน)
  3. Hydro Power Plant (โรงไฟฟ้าพลังน้ำ)
  4. Pike Jacking และ Horizontal Directional Drilling (ส่วนใหญ่เป็นงานในกรุงเทพฯ)
  5. งานอื่นๆ เช่น Slope Protection, Lock & Soil Excavation, Geological Exploration, Foundation Grouting, ถนนและสะพาน, งาน Marine Work, Railway และงานรางรถไฟ

นอกจากนี้ บริษัทยัง Implement งาน Design Service และ Maintenance ในเรื่อง Slope, เขื่อน และอุโมงค์ หลังงานก่อสร้างเสร็จสิ้น

โครงการที่กำลังดำเนินการ (Ongoing Projects)

  1. งานอุโมงค์:
    • โครงการ Double Track ช่วงเด่นชัย-เชียงราย สัญญาที่ 1 (อำเภอเงา): มูลค่า 2,972 ล้านบาท, Progress 30% (ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2566-2570)
    • โครงการ Double Track ช่วงเด่นชัย-เชียงราย สัญญาที่ 2 (พะเยา): มูลค่า 2,080 ล้านบาท, Progress 65% (ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2566-2570)
    • โครงการอุโมงค์ทวีวัฒนา (อุโมงค์ในดินอ่อน): Progress 58%
  2. งานประปา:
    • โครงการประปา 9A ที่คลองมหาสวัสดิ์: มูลค่า 1,337 ล้านบาท, Progress 72% (ตั้งแต่ปี 2565-2569) ทำงานร่วมกับบริษัท สัมฤทธิ์
  3. โรงไฟฟ้าพลังน้ำ:
    • โครงสร้างคอนกรีตที่หลวงพระบาง (ประเทศลาว): มูลค่า 1,762 ล้านบาท, Progress 49% (ทำงานร่วมกับ ช.การช่าง)
  4. งานเขื่อนและระบบระบายน้ำ:
    • โครงการสีสองรัก (จังหวัดเลย): มูลค่า 1,434 ล้านบาท, งานสำเร็จ 98% และส่งมอบงานแล้ว (เริ่มก่อสร้างปี 2562, เสร็จปี 2568)
    • เขื่อนคลองแห้ง (จังหวัดตราด): มูลค่า 640 ล้านบาท, Progress 66% (ก่อสร้างระหว่างปี 2566-2569)
    • คลองโปร่ง (จังหวัดระยอง): มูลค่า 647 ล้านบาท, เสร็จแล้ว 88%
  5. งาน Pipe Jacking และ Horizontal Directional Drilling:
    • โครงการ Smart City ของการไฟฟ้านครหลวง: มูลค่า 139 ล้านบาท, Progress 50%
    • โครงการสายสีส้ม: มูลค่า 520 ล้านบาท, Progress 8%
    • โครงการ Pipe Jacking วิภาวดี: มูลค่า 112 ล้านบาท, เสร็จแล้ว 74% (ตั้งแต่ปี 2566-2568)
  6. งานอื่นๆ:
    • Slope Protection ของรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย สัญญา 2 (เชียงราย-พะเยา): มูลค่า 295 ล้านบาท, Progress 12%
    • Slope สัญญาที่ 3 ของรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ: มูลค่า 157 ล้านบาท, Progress 1% (CKST เป็นผู้ว่าจ้าง, ช.การช่าง เป็น Leader)
    • ปรับภูมิทัศน์คลองแม่ข่า (เชียงใหม่): มูลค่า 39 ล้านบาท, เสร็จไปแล้ว 21% (ต้องทำให้เสร็จภายในปี 2568)
    • Slope Protection ของกรมทางหลวง สายแม่นะ-ท่าไคร้: มูลค่า 59 ล้านบาท, เสร็จแล้ว 56%
    • Slope Protection ของกรมทางหลวง (นางั่ว-ห้วยสมอ): มูลค่า 18 ล้านบาท, เสร็จแล้ว 37%
    • Slope Protection ของกรมทางหลวง (ผางแฟง-แม่ตอนหลวง): มูลค่า 14 ล้านบาท, เสร็จแล้ว 89%
    • Slope Protection ที่จังหวัดภูเก็ต (5 แยกฉลอง-กะรน): มูลค่า 22 ล้านบาท, เสร็จไปประมาณ 1%
    • Slope Protection ที่จังหวัดภูเก็ต (ช่วงถลาง-เลาไว): มูลค่า 31 ล้านบาท, เพิ่งเสร็จไปประมาณ 0.5%
    • Slope Protection ของกรมชลประทานที่มวกเหล็ก: มูลค่า 45 ล้านบาท, เพิ่งเสร็จไป 1%

Financial Highlight (ข้อมูลสำคัญทางการเงิน)

รายได้รวมของกิจการ:

  • 5 ปีย้อนหลัง: 2,500 - 3,500 ล้านบาท
  • ไตรมาส 1 ปี 2568: 700 ล้านบาท (ชะลอตัวจากอุทกภัย)
  • ไตรมาส 2 ปี 2568: 863 ล้านบาท (เติบโต 23.29% จากไตรมาส 1 หรือ 163 ล้านบาท)
  • รวม 6 เดือน: ประมาณ 1,600 ล้านบาท (อยู่ในเกณฑ์ปกติ)

รายละเอียดรายได้รวม 863 ล้านบาท (ไตรมาส 2):

  • 98% จากการรับเหมาก่อสร้าง (845 ล้านบาท)
  • ขายวัสดุ (9 ล้านบาท)
  • รายได้อื่นๆ (9 ล้านบาท)

อัตราการเติบโตของรายได้ตามกลุ่มธุรกิจ (Business Unit):

  • งานอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน: เติบโต 59 ล้านบาท (13%)
  • งานเขื่อนและระบบชลประทาน: เติบโต 37 ล้านบาท (95%)
  • โรงไฟฟ้าพลังน้ำ: เติบโตใกล้เคียงเดิม
  • งาน Pipe Jacking: เติบโตใกล้เคียงเดิม
  • งาน Order (งานรอบเร็ว): เติบโต 60 ล้านบาท (146%) จาก 41 เป็น 101 ล้านบาท

อัตรากำไรขั้นต้น:

  • 5 ปีย้อนหลัง: 12-14%
  • ไตรมาส 1 ปี 2568: ติดลบ 29 ล้านบาท (จากปัญหาน้ำท่วม)
  • ไตรมาส 2 ปี 2568: 112 ล้านบาท (13.3% ของยอดรายได้) กลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติ

กำไรสุทธิ:

  • 5 ปีย้อนหลัง: 1.3-2%
  • ไตรมาส 1 ปี 2568: ติดลบ (จากอุทกภัย)
  • ไตรมาส 2 ปี 2568: 13 ล้านบาท (1.5%) อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย

EBITDA:

  • 5 ปีย้อนหลัง: 10-12%
  • ไตรมาส 2 ปี 2568: 108 ล้านบาท (12.5%) อยู่ในเกณฑ์ปกติ

Return on Equity (ROE):

  • 5 ปีย้อนหลัง: 3-6%
  • ไตรมาส 1 ปี 2568: ติดลบ 6.5 (จากอุทกภัย)
  • Q2 ปี 2568: ขาดทุนลดลง คาดว่าสิ้นปีจะเป็นบวกได้

Business Opportunities (โอกาสทางธุรกิจ)

Backlog ณ 30 มิถุนายน:

  • กลุ่มงานก่อสร้างอุโมงค์: มีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่ง (49%)
  • กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ: 970 ล้านบาท (23%)
  • กลุ่มก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน: 347 ล้านบาท (8%)
  • กลุ่ม Pipe Jacking: 317 ล้านบาท
  • กลุ่มงานอื่นๆ (เน้นงานระยะสั้น): 550 ล้านบาท (13%)

Backlog รวม: 4,253 ล้านบาท (คาดว่าจะส่งมอบภายใน 2-3 ปี)

เหตุการณ์หลัง 30 มิถุนายน:

  • มีงานใหม่ที่เตรียมลงนามสัญญา: 1,313 ล้านบาท
  • รวม Backlog ทั้งสิ้น: 5,566 ล้านบาท (ไม่รวมรับรู้รายได้ Q3)

โครงการใหม่ที่ได้มาเพิ่มเติม:

  • งานก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองพระโขนง (กรุงเทพมหานคร): 894 ล้านบาท (คู่สัญญาโดยตรงกับ กทม.)
  • งานก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย (อบจ.นนทบุรี): 250 ล้านบาท (RT เป็น Member ของ JV)
  • ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานจากอุทกภัย (ทางหลวงหมายเลข 1349 ตอนสะเมิง-วัดจันทร์, เชียงใหม่): 100 ล้านบาท (เซ็นสัญญาแล้ว)
  • ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานจากอุทกภัย (ทางหลวงหมายเลข 1115 ตอนทรายกาด-บ้านรุ่ง, เชียงราย): 30 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับแขวงเชียงรายที่ 2)
  • ก่อสร้างผนังคอนกรีตป้องกันดินสไลด์ (โรงจักรพลังน้ำแม่ปาย, แม่ฮ่องสอน): 9 ล้านบาท (ทำกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
  • ก่อสร้าง Pipe Roof (สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย): ส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี) ทำกับ ช.การช่าง, มูลค่า 30 ล้านบาท

โอกาสทางธุรกิจ (วิเคราะห์จากงาน Slope ที่ได้มาจำนวนมาก):

  • ผลพวงจากภัยพิบัติ (แผ่นดินไหว, น้ำท่วม, คันทางทรุดตัว, ดินสไลด์) ทำให้เกิดงบกลางในการปรับปรุง
  • โอกาสใหม่ในด้านการออกแบบ, Service และ Maintenance ในส่วนของงานอุโมงค์, เขื่อน และ Slope Protection รวมถึงงาน Micropile
  • ติดต่อคู่ค้าในต่างประเทศเพื่อบุกงานในต่างประเทศ (ก่อนหน้านี้รายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วนมากกว่าในประเทศ)
  • เน้นรับงานโครงการใหม่ของภาครัฐเพิ่มขึ้น
  • เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับจ้างช่วงมาเป็นผู้รับจ้างหลักในงานก่อสร้างอุโมงค์ดินกับภาครัฐ (โครงการระบายน้ำคลองสวนอ้อย, กทม.)
  • ใช้ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในทุกส่วนงานขององค์กร

Q&A Session (ช่วงถาม-ตอบ) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 39.00]

  1. เป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2568: คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน แต่ตัวเลขอาจจะไม่โตมากนัก
  2. งานเจาะอุโมงค์เด่นชัย-เชียงราย สัญญาที่ 1 ล่าช้า:
    • สัญญาที่ 1 ช้ากว่าเพราะการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
    • ไม่มี Cost Overrun, งานดำเนินไปตามปกติ
    • DC2 ก่อสร้างอุโมงค์เข้า 2 ฝั่ง, Approach 4 ด้าน, แต่ DC1 ต้องเข้า Edit ก่อน
    • Progress: DC1 30%, DC2 65% (อยู่ในแผน)
  3. RT มีส่วนร่วมงานเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และสายสีส้ม หรือไม่:
    • มีส่วนร่วมในโครงการสายสีม่วงใต้ คือทำ Pipe Roof ที่สถานีฤทธิ์ศรีย์ชัย (มูลค่า 30 ล้านบาท, ได้ PO แล้ว)
    • มองถึงงานในส่วนของงานอุโมงค์เชื่อม (จากอุโมงค์หลักเข้าตาม Shaft ต่างๆ)
    • มีประสบการณ์จากสายสีน้ำเงิน และงานตรงรามคำแหง (ทำกับ ช.การช่าง)
  4. บริษัทมีแผนขยายงานไปสู่โครงการประเภทใดบ้าง:
    • ไตรมาส 3 คาดว่ามีการประมูลรถไฟทางคู่อีก 2-3 สัญญา (คาดว่าจะมีส่วนร่วม)
    • งานอุโมงค์ระบายน้ำของกรมชลประทานที่เชียงใหม่
    • งานอุโมงค์ระบายน้ำของ กทม. (คาดว่าจะออกปลายปี)
  5. แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง เทียบกับครึ่งปีแรก: คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 (เติบโตใกล้เคียงปีก่อนเล็กน้อย ประมาณ 2-3%)
  6. แผนบริหารจัดการเงินสด:
    • เร่งรับชำระเงินจากลูกหนี้, ส่งงานเร็วกว่าแผน
    • ขยาย Credit Term ในการจ่ายชำระ
    • เพิ่มกลุ่มงานรอบเร็ว (5-8 เดือน)
    • ปรับแผนการลงทุน (เลือกลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่มีกระแสเงินสด)
    • หาแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ (ชดเชยภาระหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง)
  7. Q3 มีปัจจัยกระทบต่อการทำงานหรือไม่ (หน้าฝน, แรงงานกัมพูชากลับประเทศ):
    • หน้าฝน: เตรียมการป้องกันน้ำท่วม, วางแผนงานให้ทำในหน้าฝนได้
    • แรงงานกัมพูชา: ไม่มีแรงงานกัมพูชา, ใช้แรงงานพม่าเป็นส่วนใหญ่ (ไม่ขาดแคลน)
  8. บริษัทมีแผนการชำระหุ้นกู้ อย่างไร (หุ้นกู้ปีหน้า):
    • จ่ายชำระหุ้นกู้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2569
    • แหล่งเงินทุน: จาก Performance การดำเนินงานภายใน + แหล่งเงินทุนอีก 2 แหล่ง:
      1. สถาบันการเงิน (Long-Term Loan ในลักษณะ Project Finance)
      2. การออกหุ้นกู้ (อยู่ระหว่างประเมินความสำเร็จ, คาดว่าจะออกประมาณไตรมาส 4 ของปี)

สรุป

โดยสรุป RT มีผลประกอบการ Q2 ปี 2568 ที่เติบโตขึ้นจากไตรมาสแรก และมีทิศทางที่ดีในการบริหารจัดการต้นทุนและความเสี่ยงต่างๆ บริษัทมี Backlog ที่แข็งแกร่งและมีโอกาสในการเติบโตในอนาคตจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน โดยเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักคือ งานอุโมงค์, เขื่อน และงานรอบเร็ว นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินสดและมีแผนการชำระหุ้นกู้ที่ชัดเจน

โพสต์ล่าสุด