BTG โชว์ผลงานไตรมาส 2/2568 กำไรพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์!

P/E 5.07 YIELD 2.87 ราคา 17.50 (0.00%)

BTG โชว์ผลงานไตรมาส 2/2568 กำไรพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์!

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

BTG ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิ 2,594 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทั้ง QOQ และ YoY

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบเชิงบวกมาจาก:

  1. การเติบโตของกำไรขั้นต้น
  2. การควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
  3. ราคาสุกรที่เพิ่มขึ้น
  4. ต้นทุนวัตถุดิบลดลง โดยเฉพาะกากถั่วเหลือง
  5. การปรับพอร์ตสินค้าไปสู่สินค้าที่มี High Margin และช่องทางการจัดจำหน่าย Food Service และ Export มากขึ้น

รายได้จากการส่งออกในไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่อง ทั้ง QonQ และ YonY โดยรายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 7,161 ล้านบาท เติบโต 12.1% YoY หลักๆ มาจาก Demand ในกลุ่มยุโรปที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องไปกับวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งมั่นในการเติบโตทั้งในประเทศ การส่งออก และการดำเนินงานในต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสินค้าใหม่ๆ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตของ Volume การขายในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยในไตรมาส 2 เติบโตขึ้น 11.9% YoY และครึ่งปีแรกเติบโตขึ้น 10% YoY:

  • Agro Business (ธุรกิจอาหารสัตว์): เพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากการเพิ่มปริมาณการผลิตในโรงงานใหม่และปริมาณความต้องการอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
  • Thailand Food Business (ธุรกิจอาหารในประเทศ): ปริมาณการแปรรูปทั้งหมู ไก่ และอาหารแปรรูปอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น
  • กลุ่มประเทศ CLS (กัมพูชา ลาว สิงคโปร์): มีกลยุทธ์ที่จะเพิ่มในส่วนของธุรกิจกลางน้ำ คือการแปรรูปเนื้อสัตว์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะไข่ไก่ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 1,300% เนื่องมาจากการรวมธุรกิจไข่ในสิงคโปร์
  • Pet Business (ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง): เติบโตขึ้นอย่างดีจากการเติบโตในช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศใหม่ๆ

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งการดำเนินงานในต่างประเทศและการส่งออก โดยตั้งเป้าหมายว่าสัดส่วนรายได้จากการดำเนินงานในต่างประเทศและการส่งออกจะเติบโตจาก 19% ในปี 2568 เป็น 31% ในปี 2571 และมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศไว้ที่ 47% ต่อปี

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่มีการชะลอตัวลง ทำให้ Demand ในตลาดญี่ปุ่นลดลง และรายได้จากญี่ปุ่นซอฟต์ตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ Cost Profit Margin ลดลงเล็กน้อย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรที่ต้องการเติบโตทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก:

  1. กลุ่ม Animal Nutrition และ New Venture
  2. กลุ่ม Thailand Food Business
  3. กลุ่ม International Business

มีการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตลอดทั้ง Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ให้มีประสิทธิภาพ เป็นระบบ และมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ผนึกกำลังระหว่าง Innovation และ Technology เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เบทาโกรให้มีความทันสมัยและมีคุณภาพสูงขึ้น ทั้งในเรื่องของ Animal Nutrition, Food และ Pet Food

บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องของ ESG ในทุกๆ มิติ และมีการตั้งเป้าหมายที่จะลดก๊าซเรือนกระจกและตั้งเป้า Net Zero ภายในปี 2593 มีการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการช่องสาริกาโมเดล และยังให้ความสำคัญในด้านความโปร่งใสและต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น

บริษัทมีการจัดหาไข่จากเบทาโกรประเทศไทยเพื่อส่งไปที่สิงคโปร์ เพื่อ Balance ต้นทุน เนื่องจากต้นทุนไข่ของที่ไทยค่อนข้างถูกกว่าของที่สิงคโปร์ และมีการนำไก่เข้าไปเลี้ยงในโรง Cage Free Layer แล้ว เพื่อเติมเต็ม Demand ในส่วนของลูกค้ากลุ่มโรงแรม

ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องการจำหน่ายสินค้าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จะนำมาจำหน่ายในประเทศแทน และมีการขนส่งวัตถุดิบบางส่วนทางน้ำแทนทางบกเมื่อมีการปิดด่าน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก (การส่งออก, กลุ่มประเทศ CLS, New Country) ประมาณ 30-35% ในปี 2568

บริษัทมีกลยุทธ์ Agro Total Solution ที่จะให้บริการตั้งแต่ให้คำปรึกษา ไปจนถึงการขายอุปกรณ์ฟาร์ม Equipment, Lab Service และการขายอาหารสัตว์ เพื่อ Cover ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำของธุรกิจ Agro

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของ Non-Feed ในธุรกิจ Agro เนื่องจากเป็นสินค้าที่มี High Margin มากขึ้น

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):

[เริ่ม Q&A นาทีที่ 35:18]

  • ผลกระทบจากชายแดนไทย-กัมพูชา: ผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากรายได้จากกัมพูชาคิดเป็นเพียง 4-5% ของรายได้รวม และมีฐานการผลิตในกัมพูชาอยู่แล้ว สินค้าที่จำหน่ายในกัมพูชาเป็นแพ็คเกจภาษาเขมร ทำให้ยังไม่มีการแบนสินค้า มีการจัดการโดยนำสินค้ามาจำหน่ายในประเทศแทน และขนส่งวัตถุดิบทางน้ำแทนทางบก
  • แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3: น่าจะ Soft กว่าไตรมาส 2 เนื่องจากฝนตกน้ำท่วมมีผลต่อ Demand แต่ YoY ยังน่าจะโตขึ้นจากปีที่แล้ว เพราะปริมาณกำลังการผลิตมากขึ้นและราคาสุกรยังดีกว่าไตรมาส 3 ปีที่แล้ว
  • แนวโน้มครึ่งปีหลัง: ไตรมาส 3 อาจมีผลกระทบจากฝนตกและนักท่องเที่ยวลดลง แต่ไตรมาส 4 มีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการเป็น High Season คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น
  • เป้าหมายรายได้ปี 2568: ตั้งเป้าโต 3-7%
  • งบลงทุนปี 2568: 4,800 ล้านบาท ใช้ทำ M&A ประมาณ 2,000 ล้านบาท ที่เหลือใช้ปรับปรุงและขยายโรงงาน
  • แนวโน้มการส่งออกครึ่งปีหลัง: ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป มีออเดอร์ล่วงหน้าถึงไตรมาส 4 และมีการพัฒนาร่วมกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ
  • ต้นทุนข้าวโพดลดลง: จะได้ประโยชน์ใน Q3
  • มุมมองต่อการเปิดตลาดสินค้าเกษตรจากอเมริกา: ยังคงติดตามรายละเอียดอย่างใกล้ชิด หากเกิดขึ้นจริงมองว่าเป็น Positive เพราะต้นทุนผลิตอาหารสัตว์จะลดลง
  • Effective Tax Rate ในช่วงไตรมาส 2 ลดลง: มี 2 เรื่อง คือ ได้สิทธิ์ BOI และมีขาดทุนสะสม (Loss Carry Forward)
  • แนวโน้มทำ M&A เพิ่มขึ้น: มีแผนที่จะทำ M&A มากขึ้นในอนาคต ประเทศที่ไปอาจเป็นประเทศใกล้เคียงในอาเซียน และธุรกิจที่โฟกัสคือธุรกิจกลางน้ำ (การแปรรูป) มากกว่าธุรกิจต้นน้ำ (Agro)

จากข้อมูลทั้งหมด BTG มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2568 และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายบางประการ แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือและกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการคว้าโอกาสทางธุรกิจ

หัวข้อคำถามและคำตอบ:
  • ผลกระทบจากชายแดนไทย-กัมพูชา
  • แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3
  • แนวโน้มครึ่งปีหลัง
  • เป้าหมายรายได้ปี 2568
  • งบลงทุนปี 2568
  • แนวโน้มการส่งออกครึ่งปีหลัง
  • ต้นทุนข้าวโพดลดลง
  • มุมมองต่อการเปิดตลาดสินค้าเกษตรจากอเมริกา
  • Effective Tax Rate ในช่วงไตรมาส 2 ลดลง
  • แนวโน้มทำ M&A เพิ่มขึ้น

โพสต์ล่าสุด