บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday BJC: เจาะลึกกลยุทธ์เติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2568
P/E 14.15 YIELD 4.61 ราคา 15.40 (0.00%)
สรุป Oppday BJC: เจาะลึกกลยุทธ์เติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2568
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่งาน Oppday บริษัท BJC ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 โดยคุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ผู้บริหารฝ่ายการเงิน และทีม IR
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายหลายด้าน: ความไม่แน่นอนทางการเมือง, ภาษีทรัมป์, ปัญหาชายแดน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
- ยอดขายไตรมาส 2: 38,561 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน
- อัตรากำไรขั้นต้น: 20.2% ลดลงเล็กน้อย 12 basis points
- กำไรสุทธิ: 1,180 ล้านบาท ลดลง 3% ตามยอดขาย
- Profit Improvement Program: ลดต้นทุนได้ 552 ล้านบาท (72% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 765 ล้านบาท)
- ต้นทุนทางการเงินลดลงต่อเนื่อง: ไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.22% ลดดอกเบี้ยจ่าย 6.5%
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
มุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการยอมรับจากเวทีชั้นนำ Corporate Sustainability Reporting และติดอันดับ 75 ใน Top 1000 Asia 500
- เปิดคลินิก BMed X คลินิกเวชกรรม ให้บริการวัคซีนและความงาม
- เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: กระดาษเช็ดหน้าหนา 3 ชั้น และมันฝรั่งทอดกรอบรสใหม่ร่วมกับ Mccormick
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
กลุ่มบรรจุภัณฑ์: ยอดขายลดลงจากกลุ่มแก้วและกระป๋อง กำไรสุทธิลดลง 8% แต่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
ยกระดับขีดความสามารถด้วย Digitalization: พัฒนาระบบ Real-time Dashboard, Data Lakehouse ลดพื้นที่จัดเก็บ, ลดงานซ้ำซ้อน
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและน้ำ: ทำระบบบำบัดน้ำเสีย, พัฒนากระบวนการผลิต
- เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนคลังสินค้าและ Logistics: ทบทวนและปรับปรุงกระบวนการทำงาน
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
กลุ่มอุปโภคบริโภค: ยอดขายเพิ่มขึ้น 6.8% จากกลุ่มกระดาษและเครื่องใช้ส่วนตัว กำไรสุทธิเติบโต 10.3%
- กลุ่มเวชภัณฑ์และเทคนิค: ยอดขายลดลง 46% จากการหยุดดำเนินธุรกิจของไทยสแกน แต่หากไม่รวมไทยสแกน ยอดขายเติบโต 0.6%
- กลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่: ยอดขายลดลง 3.3% จาก Non-Food และ Tourist Store
การขยายสาขา Big C อย่างต่อเนื่อง: เปิด 3 สาขาใหม่ และขยาย OSS Hub เพิ่มเป็น 60 แห่งภายในสิ้นปี
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 21.49]
- **บรรจุภัณฑ์แก้ว:**
Driver หลักมาจาก 2 เรื่อง:
- ขยายกำลังการผลิตเตาหลอมขนาดเล็ก (เตาไฟฟ้า): เริ่มติดตั้ง พ.ย. นี้ คาดรายได้ Full Year อย่างน้อย 320 ล้านบาท
- เปิด Design Studio: สร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างมูลค่าเพิ่ม
ให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลกำไร:
- ต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มลดลง (เศษแก้ว, โซดาแอช, Natural Gas)
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแก้ว (R&D เข้มข้น, Cost Optimization)
- เทคโนโลยี Smart Manufacturing: ระบบอัตโนมัติ, Real-time Dashboard
- **บรรจุภัณฑ์กระป๋อง:**
Driver หลัก:
- ขยายตลาดกระป๋องขนาด 500ml (Trendy)
- สร้างเสถียรภาพกับลูกค้า (ทำงานใกล้ชิด, สร้างความร่วมมือระยะยาว)
กังวลเรื่องความท้าทาย:
- Consumption ในประเทศยังต่ำ (ก.ค. อยู่ที่ 51.7)
- ค่าเงินดองอ่อนค่า (โรงงาน TBC ในเวียดนาม)
- **Consumer Supply Chain:**
เน้นการเติบโตจากสินค้าใหม่และช่องทางใหม่:
- กลุ่มสุขภาพ (Personal Care): เปิดตัวแบรนด์ Ages สำหรับผู้สูงอายุ
- กลุ่มพรีเมียม: กระดาษเช็ดหน้า Silklock Satin Soft, มันฝรั่ง Kettle
คาดยอดขายจากสินค้าใหม่กว่า 350 ล้านบาท/ปี
ขยายช่องทาง E-commerce (Shopee, Lazada, TikTok): ยอดขายโต 140%
ขยายตลาดต่างประเทศ (บาห์เรน, บังคลาเทศ, จีน, เกาหลีใต้, UAE): ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง
- **Healthcare & Technical Supply Chain:**
แบ่งเป็น 2 ธุรกิจ:
- Pharmaceutical Division: โอกาสเติบโตจากโรคไม่ติดต่อ NCDs (เบาหวาน)
- ผลิตภัณฑ์ความงาม (Aesthetic Products): ตลาดโตเร็ว ขยาย portfolio
เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: คอลลาเจน (เครื่องดื่ม), Shot (แก้แฮงค์)
ขยายเครือข่ายคลินิก: เพิ่มเป็น 150 สาขา (ปัจจุบัน 1,900 สาขา)
MOU กับ Galderma: สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ BJC Healthcare
Medical Device: ขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญใหม่ๆ (กายภาพ, ฉุกเฉิน, กล้ามเนื้อ)
Technical Supply Chain: เน้นระบบ Automation ตั้งแต่คลังสินค้า-จัดส่ง
- ติดตั้งระบบชั้นวางและเคลื่อนย้ายสินค้าอัตโนมัติ
- รถลำเลียงอัตโนมัติไร้คนขับ
- ระบบจอดอัตโนมัติ (ปีหน้า)
- **Big C:**
- Same Store Sales Growth ติดลบเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน แต่หากไม่รวมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอากาศ Same Store Sales Growth จะติดลบลดลงเพียง 0.5%
- GP Margin ลดลงเนื่องจากสัดส่วนยอดขาย Food สูงขึ้นและสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง
- ขยายสาขา Big C และ Mini Big C ตามแผน
- อัตราการเช่าพื้นที่ของ Town Center เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- Same Store Sales Growth ตั้งเป้า Flat สำหรับปีนี้
- Fresh Food เติบโตได้ดี, Private Label ขยายตัว
- Out of Store Sales ลดลง, แต่ยอดขาย Online สูงขึ้น
- สมาชิก Big Point เพิ่มขึ้น, และมีแผนกระตุ้นการใช้งาน
- DC ใหม่ที่วังน้อยมาที่บางปะอินทร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง
- **Mini Big C**
- ปรับลดเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ เป็น 100-120 สาขา
- ปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร 164 สาขา
- Fresh Food ยังเติบโต, Private Label ขยายตัว
- Same Store Sales Growth ตั้งเป้า Flat สำหรับปีนี้
- **เป้าหมายปี 2568**
- ตั้งเป้า Same Store Sales Growth เป็น Flat สำหรับปีนี้
- คาดใช้งบลงทุน 10,000-12,000 ล้านบาท
สรุป
โดยสรุป BJC เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ แต่ยังคงมุ่งมั่นในการเติบโตผ่านกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งการลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพ การขยายธุรกิจ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน