บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

LPN Oppday Q2/2568: ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ มองหาโอกาสเติบโตในตลาดอสังหาฯ

LPN Oppday Q2/2568: ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ มองหาโอกาสเติบโตในตลาดอสังหาฯ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 หดตัวลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปี 2567 โดยมีปัจจัยทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่ส่งผลกระทบ แนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงและมาตรการ LTV ที่ผ่อนคลายช่วยกระตุ้นตลาดได้บ้าง แต่ปัจจัยลบ เช่น ภาษีที่ดินและอาคารที่เพิ่มขึ้น, ความไม่มั่นใจทางเศรษฐกิจ, และเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ตลาดคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวลดลง 45% ในแง่จำนวนโครงการ และ 56% ในแง่มูลค่า โดยเฉพาะคอนโดราคาต่ำกว่า 3.1 ล้านบาท มีการเปิดตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตลาดบ้านแนวราบราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทก็หดตัวลงถึง 70% ในขณะที่ตลาดบ้านพรีเมี่ยม ซึ่งเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็เริ่มมีการเปิดตัวลดลงเช่นกัน

ในส่วนของ LPN เอง, ยอดขาย (Presale) ในไตรมาส 2/2568 ทำได้ 1,840 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากไตรมาส 1 แต่ลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วมีการขาย Big Lot ที่ลุมพินีเพลส พระราม 3, ยอดโอนในไตรมาส 2 ทำได้ 879 ล้านบาท ลดลง 49% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว, รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,053 ล้านบาท ลดลง 19% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 12 ล้านบาท และกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 33 ล้านบาท ลดลง 80% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการลดลงของยอดโอนและค่าใช้จ่ายคงที่

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

LPN ยังคงมองเห็นโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีศักยภาพและราคาที่เข้าถึงได้ บริษัทจึงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ และใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นยอดขาย

บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการในปี 2568, โครงการบ้านลุมพินี แก้วอินทร์ (เปิดตัวแล้วในไตรมาส 2), โครงการลุมพินี พาร์ค อ่อนนุช 19 (มีแผนเปิดตัวในปลายไตรมาส 3), และโครงการบ้าน 365 เจษฎา-ราชพฤกษ์ (มีแผนเปิดตัวในไตรมาส 4) โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 3,300 ล้านบาท

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

LPN เผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายด้าน ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน, การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์, และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐ นอกจากนี้, ปัญหาเรื่อง Reject Rate (การปฏิเสธสินเชื่อ) ยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

LPN ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด, การควบคุมค่าใช้จ่าย, และการบริหารจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้, บริษัทให้ความสำคัญกับการคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพในการขอสินเชื่อ เพื่อลดปัญหา Reject Rate และเพิ่มโอกาสในการโอนกรรมสิทธิ์

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงมีความท้าทาย, แต่ LPN ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, ขยายฐานลูกค้า, และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ LPN นอกจากนี้, บริษัทให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาโครงการและการบริการลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแตกต่าง

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [44:35]
   1. การเปิดตัวโครงการใหม่
      • ปี 2568 เปิดตัว 3 โครงการ: แก้วอินทร์ (600 ล้านบาท), ลุมพินี พาร์ค อ่อนนุช 19 (1,500 ล้านบาท, ปลาย Q3), บ้าน 365 เจษฎา-ราชพฤกษ์ (1,000 ล้านบาท, Q4)
      • โครงการที่นพรัตน์และบ้าน 365 อรรถสิทธิ์เลื่อนไปต้นปีหน้า
      • ภาพรวมการเปิดตัวปีนี้ประมาณ 3,300 ล้านบาท
   2. เป้ารายได้และยอดขายปี 2568
      • เป้ารายได้: 5,000 ล้านบาท, เป้าขาย: 8,500 ล้านบาท
      • ยอมรับว่าเป็นเป้าที่ท้าทายมาก
   3. งบซื้อที่ดินปี 2568
      • ไม่มีแผนซื้อที่ดินเพิ่ม, มีที่ดินในมืออีกมาก
   4. Reject Rate
      • อยู่ในระดับ 40-50% ไม่ต่างจากเดิมมากนัก
      • มีการคัดกรองลูกค้าเบื้องต้นเพื่อลด Reject Rate

โดยสรุป, แม้ว่า LPN จะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยลบต่างๆ, แต่บริษัทก็ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาว ด้วยการปรับกลยุทธ์, บริหารจัดการความเสี่ยง, และพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, LPN เชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในปี 2568 และในอนาคต