BAFS เติบโตต่อเนื่อง! สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568: โอกาส, ความเสี่ยง, และอนาคต

P/E 28.88 YIELD 3.43 ราคา 8.75 (0.00%)

BAFS เติบโตต่อเนื่อง! สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568: โอกาส, ความเสี่ยง, และอนาคต

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทุกท่าน ในการรายงานผลประกอบการและการดำเนินงานของ BAFS ในงวดไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2568 วันนี้ผมจักสนิท รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บัญชีและการเงิน อยู่กับคุณพิษณุพงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ ซึ่งจะขอให้คุณพิษณุพงศ์เป็นผู้รายงานผลการดำเนินงานและผลประกอบการของ BAFS ต่อไป

สวัสดีค่ะท่านนักวิเคราะห์และท่านนักลงทุนทุกท่าน ในไตรมาสนี้เรามีข่าวดีที่จะเรียนแจ้งในส่วนของ Business Highlight โดยก่อนอื่นดิฉันขอเริ่มในส่วนของกลุ่มบริษัทก่อนนะคะ การดำเนินธุรกิจของ BAFS Group เรา มีการดำเนินงานอยู่ในธุรกิจหลักใน 3 กลุ่มดังนี้

  1. กลุ่มธุรกิจการบิน: ประกอบด้วย
    • บริษัท BAFS: ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง
    • ทาโก้ (ไทยเชื้อเพลิงการบิน): ดำเนินธุรกิจขนส่งน้ำมันอากาศยานใต้ระบบท่อแรงดันอากาศยานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
    • บริษัทร่วมทุน Global Aero Associates (GAA): ดำเนินธุรกิจให้ บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา
    • บริษัท BAFS Intech: ให้บริการต่อรถเติมน้ำมันอากาศยานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
  2. ธุรกิจบริการสาธารณูปโภคและไฟฟ้า: ประกอบด้วย
    • BAFS Pipeline Transportation (BPT): ดำเนินธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่นในกรุงเทพฯ ไปยังภาคเหนือของประเทศไทย
    • BAFS Clean Energy: ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด
  3. ธุรกิจบริการธุรกิจ (Business Services): ประกอบด้วย
    • BAFS Professional Service (BPS): ให้บริการเอาท์ซอร์สทางด้านบุคลากร ดูแลอาคารสำนักงาน รวมทั้งเติมน้ำมันอากาศยานในสนามบินต่างจังหวัดที่ BAFS ให้บริการอยู่ และดูแลเรื่องคลังน้ำมันในส่วนของสนามบินต่างจังหวัดของ BPT
    • BAFS Innovation Development (BID): ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมต่างๆ ออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท รวมทั้งบริษัทต่างๆ ทั้งในและนอกองค์กร

ในไตรมาสนี้ BAFS Group ได้มีการนำระบบ Intelligent Refueling Information System (Iris) มาใช้ในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ซึ่งระบบ Iris เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นระบบ Smart System สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานแบบ Real Time ทำให้ทุกกระบวนการเติมน้ำมันมีความถูกต้อง แม่นยำ ตรวจสอบได้ทันที สนับสนุนข้อมูลจำนวนปริมาณมากในการเติมน้ำมันที่ให้บริการอยู่ในทั้งสองสนามบินหลักคือสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งในแต่ละวันมีเที่ยวบินที่ให้บริการกว่า 800 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนั้นระบบนี้ยังสนับสนุนให้มีความรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการที่ต้องส่งพนักงานภาคสนามไปรอเพื่อเติมน้ำมัน ทำให้ลด Turnaround Time ให้สั้นลง เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกลุ่มบุคลากรภาคสนาม และนำไปสู่การลดต้นทุนด้านบุคลากรได้ในที่สุด

Iris ยังสนับสนุนในเรื่องของการทำให้การลงทุนที่ต่ำลง เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์บนรถเติมน้ำมันได้ อย่างน้อย 40% เมื่อเทียบกับระบบเดิม ในขณะเดียวกันยังช่วยลดต้นทุนของการใช้กระดาษลงไม่ต่ำกว่า 80% ซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยเสริมสร้างความเป็นองค์กรที่เป็น Green Organization สนับสนุนนโยบายท่าอากาศยานสีเขียวของการท่าอากาศยานไทยด้วย ซึ่ง Iris จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 18 ตันเทียบเท่าต่อปี เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับเป้าหมาย ESG ของกลุ่มบริษัท ที่วางเป้าหมาย Net Zero ได้ในปี 2050

BAFS Intech มั่นใจว่าในปี 2568 นี้ จะสามารถประกอบและส่งมอบรถเติมน้ำมันโดยรับรู้รายได้อย่างน้อย 14 คัน ทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 147 ล้านบาท และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 18 สิงหาคม BAFS Intech ได้ชนะการประมูล ประกอบและจำหน่ายรถเติมน้ำมันอีก 3 คัน ส่งผลให้มียอด Backlog ที่เซ็นสัญญาในปีหน้าเป็นจำนวน 5 คัน มูลค่ารวม 67 ล้านบาท

ในส่วนของความคืบหน้าของโครงการท่อภาคเหนือระยะที่ 3 ที่จะมีการเชื่อมท่อระหว่างท่อภาคเหนือของ BAFS Group กับท่อทางด้านที่ส่งน้ำมันมาจากทางภาคตะวันออก ในจุดเชื่อมสระบุรีอ่างทอง เป็นระยะทางกว่า 52 กิโลเมตร ณ วันนี้สิ้นไตรมาส 2 ความคืบหน้าของการก่อสร้างท่อเชื่อมไปได้กว่า 32% แล้ว ซึ่งมีความมั่นใจว่าการก่อสร้างจะเป็นไปตามกำหนดและวางแผนเปิดให้ดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2569

ในส่วนของความคืบหน้าของโครงการ Solar Rooftop ของ BAFS Clean Energy ที่ขยายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีการ COD โครงการ Solar Rooftop ไปแล้วจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1.6 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้ในเดือนมิถุนายนและเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอีก 1 โครงการที่อยู่ระหว่างการรอ COD จำนวน 0.29 เมกะวัตต์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับลดลง 4-5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังเห็นพัฒนาการเชิงบวกในเรื่องของปริมาณน้ำมันที่ BAFS ให้บริการเติม จากข้อมูลล่าสุดคือ 7 เดือนแรก มีอัตราการเติบโตของปริมาณน้ำมันที่ให้บริการทั้งสองสนามบินได้ถึง 8% มาอยู่ที่ 3,106 ล้านลิตร คิดเป็นประมาณ 58% ของเป้าทั้งปีที่ 5,400 ล้านลิตร โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ก็คือ สายการบินหลักของประเทศรวมทั้งสายการบินอื่นๆ เท่าที่สืบค้นข้อมูลอย่างน้อย 7 สายการบินมีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบิน 40-50 ลำภายในปีนี้ รวมทั้งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อรองรับเส้นทางใหม่ๆ ที่เปิดในช่วงครึ่งปีหลัง มีการขยายความถี่ของเส้นทางบินเดิมเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลที่ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมาย 5,400 ล้านลิตรจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้

เมื่อดูรายละเอียดของปริมาณน้ำมันที่ให้บริการตามภูมิภาค จะเห็นว่าแต่ละภูมิภาคมีอัตราการให้บริการกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อน COVID แล้ว โดยสองภูมิภาคหลักคือ ภูมิภาค East Asia Pacific (เอเชียตะวันออก) มีการเติบโตขึ้นมาใน ช่วง 6 เดือนนี้มีการเติบโตขึ้นมา 75% ของปริมาณน้ำมันที่เคยเติมในช่วงก่อน COVID แล้ว

ตั้งแต่ มกราคม ถึง กรกฎาคม ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในช่วงไตรมาส 2 และตั้งแต่จนถึงปลายปีมีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำมันก็จะทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัจจัยกดดันว่าจีนอาจจะมีการชะลอการเติบโตลง แต่ในภาพรวมก็ยังทำให้ปริมาณน้ำมันโดยรวมยังเติบโตขึ้นจาก จุดหมายปลายทางอื่นๆ

สำหรับยุโรปเอง ปริมาณการเติมน้ำมันในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในระดับ 92% ของระดับก่อนเกิด COVID ซึ่งหวังว่าช่วง 4-5 เดือนหลังก็จะมีการเติบโตที่สูงขึ้น

ถ้าพิจารณาตามประเทศหลักๆ ที่มีอัตราการเติมปริมาณน้ำมันที่ให้บริการ จะเห็นว่าอินเดียเติบโตขึ้นมาเกินกว่าช่วง COVID Level แล้วถึง 102% ในขณะที่การเดินทางในประเทศเองก็เติบโตขึ้นและเติบโตกว่าไตรมาสที่ผ่านมาด้วยจากส่งเสริมมาตรการต่างๆของภาครัฐที่ออกมาแล้วก็ส่วนเกาหลีใต้เอง 79% ญี่ปุ่น 76% แล้วก็จีน 73%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

ปริมาณการขนส่งน้ำมันผ่านท่อของ BAFS ขนส่งน้ำมันทางท่อ (BPT) จากยอด 7 เดือนที่ผ่านมานี้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 17% เมื่อเทียบกับ 7 เดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 799 ล้านลิตร ด้วยความร่วมมือทางการตลาดระหว่าง BPT กับบริษัทน้ำมัน ทำให้มีการปรับเป้าหมายของปีนี้ขึ้นจากเดิมที่ BPT ตั้งเป้าว่าปีนี้จะสามารถตั้งเป้าทั้งปี 1,290 ล้านลิตร แต่ตอนนี้ปรับเป้าขึ้นเป็น 1,340 ล้านลิตร หรือคาดว่าปริมาณน้ำมันทั้งปีจะเติบโตได้ 9% จากปีก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้ Market Share ของ BPT ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราวๆ 38%

เมื่อท่อส่งน้ำมัน Link Line หรือที่ท่อเชื่อมเฟส 3 ดำเนินการแล้วเสร็จ เริ่มเปิดดำเนินการอย่างเต็มปีภายในปี 2570 คาดว่าจะทำให้มีปริมาณน้ำมันไหลผ่านท่ออยู่ที่ราวๆ 2,400 ล้านลิตร ซึ่งจะมี Market Share ได้อยู่ที่ระดับประมาณ 68-70%

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ยังคงมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โลกที่อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศ และความผันผวนของราคาน้ำมัน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

ยังมีการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

ธุรกิจการบินของ BAFS ยังฟื้นตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง และการขนส่งน้ำมันทางท่อก็ฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดด แม้ว่ายังไม่ได้เชื่อมท่อก็ตาม ปัจจุบันจะพยายามที่จะดำเนิน การให้การก่อสร้าง Link Line เป็นไปตามแผนและ COD ได้ภายในไตรมาสที่ 4 เพื่อที่จะทำให้ BPT สามารถรับน้ำมันจากทางภาคตะวันออกและ กลับมามีกำไรได้

สำหรับธุรกิจพลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยจำนวน 7 โรง ที่ปราจีนบุรี สมุทรสาคร ตาก และขอนแก่น และมีโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นอีก 2 โรงไฟฟ้า ที่จังหวัดอิชิกาวะทางภาคตะวันตก และทางภาคใต้คือจังหวัดฟุกุโอกะอีก 13 เมกะวัตต์

สำหรับการขยาย เราอยู่ระหว่างการขยายและรอ COD ที่จะมี ในปี 2569 จะมีโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะที่ร่วมลงทุนกับบริษัท Partner (Strategic Partner) จำนวน 30% ของของหุ้น ตรงนี้เมื่อก่อนการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุดได้ 9.9 เมกะวัตต์ ซึ่ง BAFS มีสัดส่วนลงทุนอยู่ 30%

ธุรกิจ Solar Rooftop BC เองก็อยู่ในระหว่างการขยายธุรกิจนี้เช่นกัน โดยใน ในครึ่งปีหลังของปีนี้ จะมีโครงการ COD อีก 0.29 เมกะวัตต์ และในปีหน้าอีก 0.7 เมกะวัตต์

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 41:08]

โครงการก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือเฟส 3 จะเสร็จตามกำหนดหรือไม่ และมีแผนการลงทุนในสร้างระบบท่อ น้ำมันเฟส 4 เพิ่มเติม หรือขยายระยะทางขนส่งในอนาคตหรือไม่ อย่างไร

ปัจจุบันดำเนิน การก่อสร้างเฟส 3 ที่เรียกว่า Link Line คืบหน้าไป 30% โครงการใกล้เคียง คืบหน้าใกล้เคียงกับแผนการดำเนินงาน อาจจะชะลอไป 2-3% Delay ไป 2-3% เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้รับ กระทบต่อ การที่จะ COD ของ ท่อลิงค์ไลน์ เพราะฉะนั้นท่อลิงค์ไลน์ยังมีแผนที่จะเสร็จตามกำหนด อยู่ สำหรับในเฟสถัดไปเรายังไม่มีแผนการลงทุนในเฟสถัดไปใดๆ ทั้งสิ้น ปัจจุบันเราลงทุนเพียงแค่ Link Line เท่านั้นในปัจจุบัน

ปีหน้ากลุ่มบริษัทมีแผนลงทุนโครงการใหม่ๆ อะไรบ้าง วางแผนใช้งบ CAPEX เท่าไหร่

ปีหน้าราวางงบลงทุนไว้ประมาณ 800 ล้านบาท หลักๆ เลยก็คือ 750 ล้านบาทเนี่ย ก็จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องของโครงการ Link Line เพื่อให้แล้วเสร็จและ COD ได้ในไตรมาสที่ 4 ปีหน้า ส่วนอีก 50 ล้านบาทเนี่ยก็จะเป็นการ เป็นงบลงทุนที่เป็นปกติ ของบริษัท แล้วก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของ ของกลุ่มบริษัทเท่านั้น ก็จะไม่มีการงบลงทุน ในโครงการใหม่ๆ เลย

สรุปช่วงถาม-ตอบ:
  • แผนการก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันเฟส 3: ยังคงเป็นไปตามแผน แม้จะมีการชะลอเล็กน้อย 2-3% แต่ไม่กระทบต่อการ COD
  • แผนการลงทุนเฟส 4: ยังไม่มีแผนการลงทุนในเฟส 4 ในขณะนี้
  • งบประมาณ CAPEX ปีหน้า: ตั้งไว้ที่ 800 ล้านบาท โดย 750 ล้านบาทเป็นการลงทุนต่อเนื่องในโครงการ Link Line และ 50 ล้านบาทเป็นงบลงทุนปกติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

BAFS ยังคงมีความพร้อมที่จะให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง SAF โดยการเติมน้ำมัน บริการ น้ำมันการบินแบบยั่งยืน หรือว่า SAF นี้ นะคะ มีปัจจัยสนับสนุน หลัก ๆ ของ BAFS ทั้ง 4 ด้าน ด้านแรกก็คือ ในเรื่องระบบ มีระบบและอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถจะรองรับการเติม SAF ได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถจะเชื่อมต่อกับระบบเติมน้ำมันอากาศยานปัจจุบันของเราได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น ICC คอเซีย และข้อกำหนดต่างๆ ของการเติมน้ำมัน SAF ในระดับโลกนะคะ เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับสายการบิน แล้วก็ท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง Stakeholder ในกลุ่มต่างๆ

มีการปฏิบัติการ การปฏิบัติการ มีความพร้อมด้านบุคลากร และการปฏิบัติการ มีการสนับ มีความพร้อมด้านระบบ ที่สนับสนุนด้วยระบบดิจิทัล ที่ทันสมัย นะคะ ก็คือระบบ Iris อย่างที่เรียนแจ้งไปเมื่อตอนต้น และปัจจุบันนะคะ อยู่ระหว่าง การพัฒนาอีกระบบนึง นะคะ ชื่อระบบ films นะคะ หรือ fuels Inventory Management System นะ คะ ซึ่งเป็นระบบ พัฒนา การบริหารจัดการ คลังน้ำมัน ด้านการรับ จัดเก็บ และการจ่ายน้ำมัน นะคะ รวม ถึงการออกรีพอร์ตต่าง ๆ ได้ อย่าง อ่า ทัน ท่วงที รวด เร็ว ตาม ความ ต้องการ ของ กลุ่ม ลูก ค้า นะ คะ และ จุด สำคัญ เลย

จุดแข็งสำคัญของ BAFS ก็คือ BAFS เป็นผู้ให้บริการอิสระ หรือว่า independent Service Provider นะ คะ เรา ไม่มี ผล ประโยชน์ ทับ ซ้อน เรา จึง ได้ รับ ความ ไว้ วาง ใจ จาก บริษัท น้ำ มัน ทุก ราย ที่ เป็น ลูก ค้า ของ เรา นะ คะ ที่ มา ใช้ บริการ ทำ ให้ BAFS เนี่ย เป็น พันธมิตร ที่ เชื่อถือ ได้ และ เป็น กลาง อย่าง แท้ จริง นะ คะ ทั้งหมด นี้ เนี่ย สะท้อน ให้ เห็น ถึง ความ พร้อม ของ BAFS ใน การ เป็น ผู้ นำ ด้าน การ ให้ บริการ SAF และ ขับ เคลื่อน อุตสาหกรรม การ บิน ของ ประเทศ ไทย นะ คะ ไป สู่ ความ ยั่ง ยืน

สรุป: BAFS ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจการบินที่ฟื้นตัวและธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการ Link Line เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งน้ำมัน และให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม BAFS ยังคงเป็นผู้นำในการให้บริการ SAF และพร้อมที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด