บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday GRAMMY: ผลประกอบการ Q2/2568 และ ทิศทางครึ่งปีหลัง
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 4.42 (0.00%)
สรุป Oppday GRAMMY: ผลประกอบการ Q2/2568 และ ทิศทางครึ่งปีหลัง
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2568 โดยมี Key Highlight Events ในช่วง 6 เดือนแรก ได้แก่:
- คอนเสิร์ตร็อค Mountain 2568 ที่เขาใหญ่
- ภาพยนตร์ GDH เรื่อง "Fast & Feel Love"
- คอนเสิร์ตใหญ่ Cocktail Everlive
- ภาพยนตร์ GDH เรื่อง "The Red Envelope" (ซองแดงแต่งผี)
- ภาพยนตร์ Netflix เรื่อง "Hunger" (คนหิว เกมกระหาย)
- คอนเสิร์ตใหญ่ของพี่หนุ่ย อําพล ที่อิมแพค เมืองทองธานี
แกรมมี่มี Core Business หลัก 5 กลุ่ม:
- ธุรกิจเพลง (GMM Music) เน้น Digital Music และ Showbiz
- ธุรกิจ Home Shopping (GMM O Shopping) ขายของผ่านช่องทางออนไลน์
- ธุรกิจภาพยนตร์ (GDH 559) ผลิตหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
- Satellite TV Business (GMM Z)
- ธุรกิจ Media (GMM25, One Enterprise)
หลังโควิด ธุรกิจ Entertainment กลับมา Recover ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2564-2567) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของรายได้กว่า 17% โดยเฉพาะธุรกิจเพลงที่เติบโตได้ดีจากการจัด Festival และคอนเสิร์ตใน Hall ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและได้รับการตอบรับที่ดี
รายได้รวมในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2,887 ล้านบาท แบ่งเป็น:
- ธุรกิจ Music: 1,895 ล้านบาท
- ธุรกิจ Home Shopping: 450 ล้านบาท
- ธุรกิจภาพยนตร์: 335 ล้านบาท
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
ธุรกิจเพลง: รายได้เติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมี Showbiz เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก มีการจัด Showbiz ไปทั้งหมด 9 Show ในช่วงครึ่งปีแรก การเติบโตของรายได้ในกลุ่ม Showbiz สูงถึง 46% Year-over-Year (YoY) โดยมีคอนเสิร์ต Cocktail เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่กวาดรายได้กว่า 100 ล้านบาท
ธุรกิจภาพยนตร์: นอกจากการฉายภาพยนตร์ใหม่ในโรงภาพยนตร์ ยังมีรายได้จากการขาย License หนังให้กับแพลตฟอร์ม Netflix และการขาย License ให้กับต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ในช่องทางอื่นในระหว่างที่หนังไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ธุรกิจ Home Shopping: ธุรกิจภาพรวมของ Home Shopping Decline ลงประมาณ 24% YoY เนื่องจาก Industry Shift ไปยัง E-commerce มากขึ้น ทำให้ต้องปรับตัวตามสถานการณ์
ภาพรวมรายได้: ไตรมาสที่ 2 รายได้รวมลดลง 12% YoY หรือ 168 ล้านบาท
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
ธุรกิจ Home Shopping:
- พยายามที่จะขยับตัวตามเทรนด์ที่เปลี่ยนไป
- ยกเลิกการขายผ่านช่องทาง Satellite ทั้งหมด
- โฟกัสในกลุ่ม Digital TV และ E-commerce Platform ต่างๆ
- เพิ่ม Product ในการขายเพื่อสร้างความหลากหลายให้กับสินค้า
- Restructure ทีมต่างๆ เพื่อ Control ค่าใช้จ่าย (Expense)
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
คอนเสิร์ตและ Event ในครึ่งปีหลัง:
- สิงหาคม: Marathon Fest ที่ Impact Arena (จัดไปแล้ว)
- กันยายน: Super Concert Ninety
- ตุลาคม: Scream Fest ที่ไบเทค บางนา
- พฤศจิกายน: Monster Music Festival และ Chiangyai Fest
- ธันวาคม: Big Mountain Festival ที่เขาใหญ่
การจ่ายเงินปันผล: ในปีหน้า บริษัทจะกลับมา Reconsider เรื่องการจ่ายเงินปันผลอย่างหนัก เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสที่จะได้รับเงินปันผลตรงนี้
สภาพคล่องการซื้อขาย: บริษัทได้แก้ไขปัญหา Free Float เรียบร้อยแล้ว เพื่อสร้างสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้กลับมาเทรดหุ้นของ GRAMMY
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 48:00]
Q: แกรมมี่จะมีโอกาสจ่ายเงินปันผลเมื่อไหร่?
A: ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แกรมมี่มีการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลมาตลอด แต่ที่ผ่านมาให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารเงินและ Liquidity ของบริษัทพอสมควร เนื่องจากเศรษฐกิจที่ผ่านมาเจอ COVID-19 และ Industry ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามในปีหน้า (2569) คาดว่าจะกลับมา Reconsider ในเรื่องนี้อย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสที่จะได้รับเงินปันผล
Q: เรื่องของปัญหาสภาพคล่องการซื้อขาย ผู้บริหารมีแนวทางแก้ไขอย่างไร?
A: ก่อนหน้านี้แกรมมี่มีเครื่องหมาย CS เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของ Free Float ที่น้อยกว่า 15% ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการแก้ไขปัญหา Free Float เรียบร้อยแล้ว เพื่อสร้างสภาพคล่องให้กับนักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้บริษัทพยายามที่จะสร้าง Liquidity Trade ในตลาด เพื่อให้หุ้นของแกรมมี่ยังคงสามารถเติบโตและเป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุน
ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป
- ปันผล : ผู้บริหารจะกลับมาพิจารณาการจ่ายปันผลในปีหน้า 2569
- สภาพคล่องหุ้น : บริษัทแก้ไขปัญหา Free Float เรียบร้อยแล้ว
สรุป: GRAMMY เผชิญความท้าทายจากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงในธุรกิจ Home Shopping แต่ยังคงเติบโตได้ดีในธุรกิจเพลงและภาพยนตร์ บริษัทมีแผนที่จะปรับตัวและพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของหุ้นและการพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอนาคต