CENTEL Oppday Q2/2568: วิเคราะห์ผลกระทบ ความเสี่ยง และโอกาสทางธุรกิจในยุคผันผวน

P/E 24.83 YIELD 1.90 ราคา 31.00 (0.00%)

CENTEL Oppday Q2/2568: วิเคราะห์ผลกระทบ ความเสี่ยง และโอกาสทางธุรกิจในยุคผันผวน

เรียน ท่านนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน พบกับการสรุปผลการประชุม Oppday ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เจาะลึกทุกประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อธุรกิจ ทั้งในด้านบวกและด้านลบ พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายที่บริษัทกำลังเผชิญ รวมถึงกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาและแนวโน้มในอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ธุรกิจโรงแรมยังคงเผชิญกับช่วง Low Season ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่นที่เป็น High Season และมีงาน World Expo รวมถึงเทรนด์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายเดือนมีนาคมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพมหานคร

สถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่เดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างมากในบางภูมิภาค เช่น สมุยและกระบี่

จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงถึง 45% คิดเป็น 13% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด

ในส่วนของมัลดีฟส์ แม้ว่านักท่องเที่ยวจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อุปทานจำนวนเตียงของรีสอร์ทก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด เฉลี่ย 4% ต่อปี ทำให้มีจำนวนเตียงประมาณ 45,000 เตียงในปัจจุบัน ส่งผลต่ออัตราการเข้าพัก

ในเชิงตัวเลข CENTEL ทำรายได้รวมได้ 5,828 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยที่ 1% โดย 57% มาจากธุรกิจอาหาร (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) และ 43% มาจากธุรกิจโรงแรม (2,530 ล้านบาท) ซึ่งปรับตัวดีขึ้นประมาณ 5%

EBITDA รวมทำได้ 1,390 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นมากกว่ายอดขาย ประมาณ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่มี Bottom Line ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 45% แม้ Top Line จะลดลง 3%

อย่างไรก็ตาม มีค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ของโรงแรมเซ็นทรัลแกรนด์มิราจ พัทยา และเซ็นทารา กะรน ภูเก็ต รวมถึงโรงแรมใหม่ 2 แห่งที่มัลดีฟส์ ซึ่งเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและต้นไตรมาสที่ 2 ตามลำดับ ส่งผลให้ผลขาดทุนสุทธิในสกุลเงินบาทรวมกันประมาณ 153 ล้านบาท

Core Profit ของบริษัทอยู่ที่ 104 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับ Core Profit ของปีก่อนที่ 258 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากค่าเสื่อมราคา

ในส่วนของ Management Discussion and Analysis มีการเปลี่ยนแปลงการแสดง Core Profit จากการดำเนินงาน โดย Reconciliation Net กำไรสุทธิด้วย Non-Core Item

ในไตรมาสนี้ Core Profit อยู่ที่ 104 ล้านบาท และมี FX Gain 6 ล้านบาท ทำให้มีกำไรตาม Report จริงๆ 110 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ เช่น การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน, สถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลาง, และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโรงแรม

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ โดยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด, การควบคุมต้นทุน, และการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และบริษัทมีแผนการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 48:24]

  1. ผลกระทบจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
  2. CENTEL ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรมในบริเวณดังกล่าวโดยตรง มีโรงแรมรับบริหาร 1 แห่งที่ตราด (เซ็นทารา ชาดทะเล ตราด) ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ไม่มีความเสียหายต่อทรัพย์สิน

    ในเดือนกรกฎาคม โรงแรมถูกแนะนำให้ปิดทำการชั่วคราวประมาณ 1 สัปดาห์ ทำให้ผลการดำเนินงานน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 50% แต่ในเดือนสิงหาคม สถานการณ์ดีขึ้น โดยผลการดำเนินงานน้อยกว่าปีก่อนเพียง 5%

  3. ปัจจัยบวกที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมา
  4. สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

    จัดระเบียบการขนส่งสาธารณะ (เช่น แท็กซี่) ให้เป็นไปตามมิเตอร์

    จัดระเบียบร้านกัญชาในแหล่งท่องเที่ยว

    สร้างการรับรู้ Soft Power และ Culture ผ่านภาพยนตร์, สารคดี, และกิจกรรมบันเทิง

สรุปภาพรวม

แม้ว่า CENTEL จะเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลายประการ แต่บริษัทก็ยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ในบางส่วน โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมยังคงต้องใช้เวลา โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการปรับกลยุทธ์และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป

  1. ผลกระทบจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
  2. ปัจจัยบวกที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมา

โพสต์ล่าสุด