สรุปงบล่าสุด WINNER
บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
กำไรเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้น 1.1%YoY แบ่งเป็น B2B เพิ่มขึ้น 2.4% ส่วน B2C ลดลง 13.8% กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายลดลง 1.3%YoY ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 7.6%
ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรได้แก่การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและการลดลงของส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนปรับโครงสร้างภายในกลุ่มเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งนี้การขยายตลาดและการปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนจะยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญในการเติบโตต่อไป
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) : โอกาสการลงทุนในธุรกิจอาหาร
บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WINNER ประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายวัตถุดิบ ส่วนผสม และเคมีภัณฑ์อาหารที่ใช้ในการแปรรูปอาหาร รวมถึงการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อบริโภค ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำระดับโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวม 461.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายส่วนงานธุรกิจต่อธุรกิจ เพิ่มขึ้น 2.4% มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Ingredient เช่น ผงโกโก้ วิปปิงครีม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Ingredients is Fatty acid ในขณะที่รายได้จากการขายส่วนงานธุรกิจต่อผู้บริโภคลดลง 13.8% โดยลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Confectionary และ Gourmet Food เป็นหลัก บริษัทมีกำไรขั้นต้น 99.4 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567 ลดลง 25.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจาก กำไรขั้นต้นที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น แต่มีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลง
ในแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์ม e-commerce บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าอาหารในประเทศและต่างประเทศที่ยังคงสูง
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง WINNER ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยมีจุดเด่น ดังนี้
* **ราคาหุ้น** ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยราคาเฉลี่ยช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.74 บาท และมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 13.2 ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ยังคงไม่สูง
* **อัตรากำไรสุทธิ** มีแนวโน้มทรงตัวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.07% แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* **D/E** ในปี 2567 อยู่ที่ 1 แสดงถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน โดยบริษัทมีหนี้สินน้อยกว่าทุน ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจหรือลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยการกู้เงินได้ง่ายขึ้น
* **วงจรเงินสด** อยู่ในระดับที่ต่ำ แสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจ
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน** ในปี 2567 อยู่ที่ 251.18 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่มั่นคง
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน** ในปี 2567 อยู่ที่ -19.38 ล้านบาท แสดงถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน WINNER ยังมีความเสี่ยงบางประการ ดังนี้
* **ความผันผวนของราคาสินค้า** ราคาสินค้าวัตถุดิบมีความผันผวนสูง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของบริษัท
* **การแข่งขันในตลาด** ตลาดอาหารมีการแข่งขันสูง บริษัทต้องพยายามรักษาฐานลูกค้าและสร้างความแตกต่างในสินค้าและบริการ
* **ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ** ภาวะเศรษฐกิจโลกมีผลต่อการบริโภค ส่งผลต่อยอดขายของบริษัท
โดยรวม WINNER เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต โดยบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนอย่างรอบคอบ
(15.08%)
(2.07%)
(14.00%)
(1.62%)
(1.29%)
(3.60%)
(3.12%)
(3.88%)
(26.61%)
(5.58%)
(74.14%)
(44.98%)