WINNER
บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

6 เดือน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.6% YoY มาอยู่ที่ 1,043.6 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิ ลดลง 36.7% YoY อยู่ที่ 37.9 ล้านบาท การลดลงนี้เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 1.7% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วม

บริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สารให้ความคงตัว (Stabilizer) และส่วนผสมดูแลส่วนบุคคล (Personal Care Ingredients) ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและสินค้าคงคลัง ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตและความพร้อมในการขยายธุรกิจในอนาคต

ในส่วนของแผนการอนาคต WINNER ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในกิจการและการขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และการเปิดโรงงานใหม่ รวมถึงการร่วมลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของราคาวัตถุดิบและสภาพอากาศยังคงเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 และแนวโน้มอนาคต

บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WINNER มีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 548.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Additive เช่น สารให้ความคงตัว และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Care Ingredients เช่น Fatty acid สำหรับส่วนงานธุรกิจต่อธุรกิจ ในขณะที่ส่วนงานธุรกิจต่อผู้บริโภคมีรายได้ลดลง 4.5% เนื่องจากยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Snack & Confectionary และ Gourmet Food ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 115.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1 ล้านบาท แต่ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้า

บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 24.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ แต่ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

บริษัทฯ มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตที่จะมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ Food Additive และ Food Care Ingredients ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูง บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการในปี 2567 ที่ 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน โดยคาดหวังว่าจะมีรายได้จากการขาย Food Additive และ Food Care Ingredients เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรสุทธิของบริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 37.9 ล้านบาท ลดลง 36.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น

**วิเคราะห์โอกาสการลงทุน**

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง เช่น P/E ที่อยู่ที่ 12.63 และ P/BV ที่ 1.87 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความคาดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในระดับปานกลาง ราคาเฉลี่ยของหุ้น WINNER ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 2.27 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว และรับเงินปันผล YIELD ของ WINNER อยู่ที่ 7.65% ซึ่งถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล D/E ของบริษัทฯ อยู่ที่ 1 ซึ่งหมายความว่า บริษัทฯ มีภาระหนี้สินและทุนที่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 251.18 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนที่ -19.38 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงบริษัทฯ มีเงินสดเพียงพอที่จะลงทุนต่อยอดธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีวงจรเงินสดที่ 120.17 วัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย อาจสะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้

**โอกาส**

* บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
* บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้จากการขาย Food Additive และ Food Care Ingredients
* บริษัทฯ มีเงินสดเพียงพอที่จะลงทุนต่อยอดธุรกิจ
* YIELD ของ WINNER อยู่ที่ 7.65% ซึ่งถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล

**ความเสี่ยง**

* อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่ผันผวน
* ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและต้นทุนวัตถุดิบที่อาจเพิ่มขึ้น
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง
* กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567

โดยสรุปแล้ว บริษัท วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) น่าจะเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว และรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด และวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดลงของกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567


รายได้รวม
553.56 ล้านบาท
52.25ล้านบาท
(10.42%)
ไตรมาสก่อนหน้า
55.11ล้านบาท
(11.06%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
115.61 ล้านบาท
17.66ล้านบาท
(18.03%)
ไตรมาสก่อนหน้า
6.09ล้านบาท
(5.56%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
20.88 ล้านบาท
1.34ล้านบาท
(6.86%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1.09ล้านบาท
(4.96%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
84.06 ล้านบาท
1.58ล้านบาท
(1.91%)
ไตรมาสก่อนหน้า
6.61ล้านบาท
(8.54%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
15.18 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
24.60 ล้านบาท
11.34ล้านบาท
(85.56%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.52ล้านบาท
(2.17%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
4.44 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
25.64 ล้านบาท
10.05ล้านบาท
(28.16%)
ไตรมาสก่อนหน้า
14.41ล้านบาท
(128.32%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล