สรุปงบล่าสุด VRANDA

บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ หุ้น VRANDA ปี 2567: ฟื้นตัวแข็งแกร่ง และเดินหน้าสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
**ภาพรวมผลประกอบการปี 2567**
บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยมี **รายได้รวมอยู่ที่ 1,537 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ **กำไรสุทธิอยู่ที่ 51 ล้านบาท** และ **กำไรปกติอยู่ที่ 68 ล้านบาท**
**โครงสร้างรายได้**
* **ธุรกิจโรงแรม:** คิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้รวม
* **ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์:** คิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้รวม
* **ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม:** คิดเป็นสัดส่วน 1% ของรายได้รวม
**ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต**
* การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม
* การโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาริมทรัพย์: การโอนกรรมสิทธิ์โครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน และ วีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
* การยุติกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ขาดทุน: การยุติการดำเนินงานร้าน Gram Pancakes และ Pablo Cheesetart ช่วยลดผลขาดทุนโดยรวมของบริษัท
**ผลการดำเนินงานรายไตรมาส**
**ไตรมาส 4 ปี 2567:** รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจโรงแรมเติบโต 14% แต่ถูกชดเชยด้วยรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง 85% **กำไรสุทธิอยู่ที่ 9 ล้านบาท** และ **กำไรปกติอยู่ที่ 26 ล้านบาท**
* **รายได้จากกิจการโรงแรม:**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน
* ไตรมาส 4/2567: เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
* ปัจจัยหลัก: อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (Average Daily Rate: ADR) ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในโรงแรมในกรุงเทพฯ สมุย และหัวหิน
* **กำไรขั้นต้นจากกิจการโรงแรม:**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 55%
* ไตรมาส 4/2567: เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 58%
* ปัจจัยหลัก: การบริหารจัดการต้นทุนห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงค่าสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น
* **รายได้จากกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์:**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 83% จากปีก่อน
* ไตรมาส 4/2567: ลดลง 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
* ปัจจัยหลัก: การโอนกรรมสิทธิ์โครงการ วีรันดา พูลวิลล่า หัวหิน ชะอำ และ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน
* **กำไรขั้นต้นจากกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์:**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 118% จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24%
* ไตรมาส 4/2567: ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 47%
**การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนและค่าใช้จ่าย**
* **ค่าใช้จ่ายในการขาย:**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้จากธุรกิจโรงแรม
* ไตรมาส 4/2567: เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:**
* ปี 2567: ลดลง 27% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการบันทึกด้อยค่าในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียวในปี 2566
* ไตรมาส 4/2567: ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
* **ค่าใช้จ่ายพิเศษ:** ในปี 2567 มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อนการเปิดโรงแรม วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต (The Gulu) จำนวน 10 ล้านบาท (7 ล้านบาทในไตรมาส 4) และการตั้งประมาณการหนี้สินจากคดีความ 21 ล้านบาท
* **ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย:**
* ปี 2567: ลดลง 8% จากปีก่อน
* ไตรมาส 4/2567: ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการยุติกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม
* **ค่าใช้จ่ายทางการเงิน:**
* ปี 2567: ลดลง 18 ล้านบาท จากปีก่อน
* ไตรมาส 4/2567: ลดลง 13 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ปรับลดลง
**กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)**
* ปี 2567: เพิ่มขึ้น 85% จากปีก่อน โดยมี EBITDA ปกติเพิ่มขึ้น 22%
* ไตรมาส 4/2567: เพิ่มขึ้น 106 ล้านบาท โดยมี EBITDA ปกติเพิ่มขึ้น 19%
**สถานะทางการเงิน**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 5,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากสินทรัพย์โครงการ วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 3,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้า และการเบิกเงินกู้ยืมระยะยาว
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 1,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51 ล้านบาท จากปีก่อนหน้า
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 2.05 เท่า
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E Ratio):** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 1.52 เท่า
**ความยั่งยืน (ESG)**
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน และจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นฉบับแรกสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567
**ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับคดีความ**
บริษัทฯ มีการตั้งประมาณการหนี้สิน 21 ล้านบาท สำหรับพื้นที่สระว่ายน้ำริมทะเล ร้านสกู๊ป บีช คาเฟ และร้านเพจ บีชบาร์ ของโรงแรม เวอโซ หัวหิน ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะพิจารณาใช้สิทธิอุทธรณ์/ฎีกาต่อไป
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
* **ความเสี่ยง:** ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน, การแข่งขันในธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ที่สูง, การเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบภาครัฐ, คดีความที่อาจมีผลกระทบต่อสินทรัพย์ของบริษัท
* **โอกาส:** การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว, การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป, การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
**แนวโน้มอนาคต**
VRANDA มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ การเปิดตัวโรงแรม วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต (The Gulu) ในช่วงปลายปี 2567 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และการแข่งขันที่สูง รวมถึงความไม่แน่นอนจากคดีความที่ยังอยู่ในกระบวนการทางศาล
**สรุปความสัมพันธ์ของตัวแปรสำคัญ**
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการยุติกิจการที่ไม่ทำกำไร ช่วยลดผลขาดทุนและเพิ่มกำไรโดยรวม อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายพิเศษบางรายการ และความไม่แน่นอนจากคดีความ อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิโดยรวม
**ภาพรวมที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย**
VRANDA สามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ได้อย่างน่าประทับใจ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรได้ แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคต โดยเฉพาะความเสี่ยงจากคดีความที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล
(2.97%)
(0.56%)
(34.48%)
(28.17%)
(38.61%)
(27.46%)
(46.38%)
(23.39%)
(79.51%)
(108.10%)
(124.10%)
(459.36%)