สรุป OPPDAY

สรุป Oppday VL Enterprise ปี 2567: ทิศทางธุรกิจและโอกาสการเติบโตในอนาคต

VL Enterprise จัดงาน Oppday สรุปผลการดำเนินงานปี 2567 พร้อมนำเสนอทิศทางธุรกิจและโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยมีทีมผู้บริหารเข้าร่วมนำเสนอข้อมูล ได้แก่ คุณชุติภา กิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณทัศนีย์ ถาวรชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน, และคุณธเนศ ปรุงเจริญกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

VL Enterprise ประกอบธุรกิจบริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ทางทะเล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าหลักที่ขนส่ง ได้แก่ น้ำมันดิบ, น้ำมันเตา, น้ำมันใส, น้ำมันหล่อลื่น, และน้ำมันปาล์ม ปัจจุบันมีเรือที่ประกอบธุรกิจอยู่ 12 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 38,000 กว่าเดทเวทตัน อายุของกองเรือเฉลี่ย 17 ปี

• บริษัทมีสัญญาให้บริการ 3 ประเภท:
  1. สัญญา Contact of Afreightment (COA) ระยะยาว 1-13 ปี
  2. สัญญาเช่าเหมา (Time Charter) จ่ายรายเดือนเท่าๆ กัน
  3. สัญญารายเที่ยว (Spot Charter) ว่าจ้างเป็นเที่ยวๆ ไป
• จุดแข็งของ VL คือมาตรฐานความปลอดภัย, เรือเปลือกสองชั้น (Double Hull), การออกแบบป้องกันน้ำมันรั่วไหล, และเป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ในปีที่ผ่านมาไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
• VL ได้รับการยอมรับในระดับสากลตาม ISM Code และ IMO

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

VL ให้บริการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ การขนส่งในประเทศเป็นการขนส่งจากโรงกลั่นศรีราชา, ระยอง, กรุงเทพฯ ไปยังคลังสมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, สุราษฎร์ธานี, บ้านดอน, และสงขลา สินค้าที่ขนส่งคือน้ำมันดิบ, น้ำมันเตา, น้ำมันปิโตรเลียม, และน้ำมันหล่อ เรือที่ใช้มี 10 ลำ น้ำหนักบรรทุก 2,300-5,500 เดทเวทตัน อายุสัญญาเป็นแบบ COA และ Time Charter

การขนส่งระหว่างประเทศเป็นการขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย, เวียดนาม, พม่า สินค้าหลักคือน้ำมันปาล์ม, น้ำมันปิโตรเลียม, และน้ำมันหล่อ เรือที่ใช้มี 3 ลำ น้ำหนักบรรทุก 1,500-5,600 เดทเวทตัน สัญญาเป็นแบบ Spot Charter

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

อุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศมีการใช้พลังงานเฉลี่ย 155.49 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.1% สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราการใช้เบนซินลดลงเล็กน้อยเนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า แต่การใช้น้ำมันดีเซลยังคงเติบโตตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์น้ำมันปาล์มมีการผลิตในอินโดนีเซียและมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง แม้มีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มยังสูงในเอเชีย โดยเฉพาะจีนและเวียดนาม

การคาดการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2568 คาดว่าจะเติบโต 2-2.5% ต่อปี จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเติบโตของการค้าออนไลน์

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการ โดยขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางไปยังปลายทางโดยไม่ให้ปนเปื้อนหรือสูญหาย

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

• รายได้ค่าบริการขนส่งปี 2567 รวม 760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% โดยเพิ่มขึ้นในประเทศและลดลงระหว่างประเทศ
• ต้นทุนค่าบริการขนส่งปี 2567 รวม 658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากค่าน้ำมัน, ค่าพนักงาน, และค่าเสื่อมราคา
• กำไรขั้นต้นปี 2567 อยู่ที่ 102 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 เล็กน้อย
• กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เนื่องจากการดำเนินงานและกำไรจากการจำหน่ายเรือ
• สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1,664 ล้านบาท ลดลงจากการจำหน่ายเรือและสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียน
• อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นปี 2567 ลดลง แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น

แผนธุรกิจในอนาคต: VL จะมีเรือ 12 ลำในปี 2568, เพิ่มเป็น 13 ลำในปี 2569, และ 14 ลำในปี 2570 โดยจะมีการเปลี่ยนเรือเก่าเป็นเรือใหม่ และเพิ่มขนาดน้ำหนักบรรทุกอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้รับรางวัลด้านความปลอดภัยต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 50:23]

ไม่มีคำถามจากนักลงทุน

เนื่องจากไม่มีคำถามจากนักลงทุน ผู้บริหารจึงสรุปว่านักลงทุนน่าจะเข้าใจข้อมูลที่บริษัทได้ชี้แจงไปแล้ว

สรุป

VL Enterprise ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตและพัฒนาธุรกิจขนส่งทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย, คุณภาพการบริการ, และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีแผนที่จะขยายกองเรือและปรับปรุงเรือเก่าให้ทันสมัย เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ในภูมิภาค