สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) (VIH): ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและความมั่นคงทางการเงิน

บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) (VIH) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ด้วยรายได้รวม 744.95 ล้านบาท เติบโต 1.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกําไรสุทธิ 93.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.89% แสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงพยาบาล โดยเฉพาะรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปและโครงการประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจและพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น การปรับปรุงพื้นที่ให้บริการ การเพิ่มศักยภาพการรักษาโรคเฉพาะทาง และ ศูนย์อุบัติเหตุของโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

ในแง่ของแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการลงทุนเพื่อการเติบโต ทั้งในด้านการขยายธุรกิจและการพัฒนาบริการใหม่ๆ บริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยอาศัยปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ความต้องการบริการด้านสุขภาพที่สูงขึ้น และนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง VIH ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของบริษัทฯ และรับเงินปันผล เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจ และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 383.58 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้น 138.77 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 ส่งผลให้เงินสดสุทธิปลายงวดอยู่ที่ 961.14 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการรักษาสถานะเงินสดที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ติดลบ ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ ในแง่ของผลตอบแทน VIH มี YIELD 1.84% แม้จะต่ำกว่า 4% แต่บริษัทฯ มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ P/E และ P/BV ของ VIH อยู่ที่ 18.54 และ 1.84 ตามลำดับ สะท้อนถึงการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น
- ความเสี่ยงจากการแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาล
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลด้านสาธารณสุข
- ความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ

โดยสรุป VIH ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ แต่ควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเสี่ยงจากการแข่งขัน และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล