สรุปงบล่าสุด VIBHA
บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA มีผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 23.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 6.65% เป็น 2,303.65 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโรงพยาบาลวิภาวดี 821.34 ล้านบาท และรายได้จากบริษัทเชียงใหม่ราม ธุรกิจการแพทย์ 1,430.89 ล้านบาท บริษัทฯ มีเงินปันผลรับลดลงจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 14.55 เนื่องจากมีการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทย่อยบางแห่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนถึง 703.89% ทำให้กำไรสุทธิโดยรวมสูงขึ้น
บริษัทฯ มีแผนธุรกิจในอนาคตคือ การขยายสาขาเพิ่มเติม เน้นการรักษาพยาบาลแบบครบวงจร พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการบริหารจัดการและการรักษาพยาบาล โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ โดยคาดการณ์ว่าปี 2568 รายได้จากการรักษาพยาบาลจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันกับโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆ ในอนาคต
การวิเคราะห์จากผลประกอบการล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัท VIBHA มีความน่าสนใจในฐานะโอกาสการลงทุน โดยมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 26.15 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับปานกลาง P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 2.1 แสดงถึงมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทในระดับปานกลาง ย้อนหลังกลับไป บริษัทมี YIELD เฉลี่ยอยู่ที่ 2.28% ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 5 บาท บ่งชี้ถึงการเติบโตของบริษัท D/E ปัจจุบันอยู่ที่ 0.7 น้อยกว่า 1 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง วงจรเงินสดของบริษัทในปี 2566 อยู่ที่ 4.83 ซึ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็ว เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน ในปี 2566 อยู่ที่ 1818.665817 ล้านบาท และ -318.437586 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแสดงถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจ
**โอกาส**
* การขยายสาขาเพิ่มเติม
* การเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
* การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการบริหารจัดการและการรักษาพยาบาล
* ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง
* ความผันผวนของเศรษฐกิจ
* ความเสี่ยงด้านการแพทย์ เช่น โรคระบาด
บริษัท VIBHA เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจและการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม
(11.59%)
(5.62%)
(37.37%)
(10.15%)
(23.10%)
(4.28%)
(13.28%)
(17.09%)
(156.15%)
(0.21%)
(133.66%)
(25.98%)