สรุปงบล่าสุด UP
บริษัท ยูเนี่ยนพลาสติก จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ยูเนียนพลาสติก จำกัด (มหาชน) (UP) : ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 บ่งบอกถึงแนวโน้มการฟื้นตัว
บริษัท ยูเนียนพลาสติก จำกัด (มหาชน) (UP) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เกิดจากยอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากลูกค้ารายหลักที่เพิ่มขึ้น ยอดขายแม่พิมพ์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายชิ้นงานพลาสติกเพิ่มขึ้น รวมถึงมียอดขายแม่พิมพ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการควบคุมต้นทุนและบริหารจัดการด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น กำไรจากเงินลงทุนในตราสารทุนมาจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน บริษัทฯ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายและกำไรให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 8.3 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม P/BV ที่ 0.71 บ่งบอกถึงราคาหุ้นที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี และ YIELD ที่ 6.82% ถือว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล D/E ของบริษัทฯ อยู่ที่ 0.26 แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง วงจรเงินสดที่ 12.1 สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสด และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 90.29 ล้านบาท บ่งบอกถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนที่ -23.97 ล้านบาท อาจบ่งบอกถึงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยรวมแล้ว บริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนที่เน้นรับเงินปันผล แต่ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น
- การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง
- ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
- ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
- ปัญหาทางเศรษฐกิจโลก
(8.19%)
(3.53%)
(33.02%)
(65.81%)
(23.03%)
(60.24%)
(4.61%)
(3.42%)
(1.94%)
(38.46%)
(92.69%)
(94.70%)