สรุปงบล่าสุด TWPC
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บมจ. ไทยวา (TWPC) ไตรมาส 3/2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3/2568, TWPC มีรายได้รวม 2,266.3 ล้านบาท ลดลง 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิ 17.7 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 73.6 ล้านบาทในไตรมาส 3/2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 8.3% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 19.8% จาก 11.2% ในปีก่อนหน้า การเติบโตของยอดขายแป้งมันสำปะหลังเพิ่มมูลค่า (HVA) ที่ 17.7% และธุรกิจอาหารที่ 2.7% มีส่วนช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาตลาดแป้งมันสำปะหลังที่ยังอยู่ในช่วงขาลงตามวัฏจักรของอุตสาหกรรม (หน้า 2)
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568, TWPC มีรายได้จากการขายรวม 6,866.0 ล้านบาท ลดลง 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 156.0 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ 67.7 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.8% (หน้า 2)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ในไตรมาส 3/2568 ตลาดมันสำปะหลังเข้าสู่ช่วงฤดูผลผลิตต่ำเต็มรูปแบบ (Full Low-Season Period) ทำให้ราคาหัวมันสดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.0 – 2.1 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาขายแป้งมันสำปะหลังในประเทศยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 13.4 – 13.8 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาexport แป้งมันสำปะหลัง (FOB) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 430 – 440 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน (หน้า 6)
นอกจากนี้ นโยบายภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) สำหรับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศไทยที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ที่ระดับ 19% มีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ลดลงจากอัตราเดิมที่ 36% ซึ่งส่งผลให้สินค้าจากประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาค (หน้า 7)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 19.8% จาก 11.2% ในไตรมาส 3/2567 เนื่องจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและสัดส่วนพอร์ตผลิตภัณฑ์ที่เอื้อต่อการทำกำไร แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง 5.8% (หน้า 2)
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 21.8% จาก 14.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์บริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่องทั้งด้านต้นทุนวัตถุดิบและประสิทธิภาพการผลิต ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมในกลุ่มธุรกิจอาหาร (หน้า 4)
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้น 9.2% ในไตรมาส 3/2568 และ 11.0% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 โดยส่วนใหญ่มาจากการลงทุนด้านการตลาดเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอาหาร (หน้า 3)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,409.5 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากสิ้นปี 2567 และมีหนี้สินรวม 2,813.0 ล้านบาท ลดลง 16.2% จากสิ้นปี 2567 ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 5,596.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากสิ้นปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) อยู่ที่ 0.25 เท่า (หน้า 3)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* **ธุรกิจอาหาร:** มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (RTE) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการขยายตลาดส่งออก (หน้า 3)
* **กลุ่มแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA):** มีการเติบโตของปริมาณขายแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายส่งออกที่เพิ่มขึ้นและการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ ๆ (หน้า 3)
* **การบริหารต้นทุน:** บริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัยและการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ (หน้า 3)
* **ความยั่งยืน:** บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (หน้า 18)
(1.32%)
(5.16%)
(8.71%)
(66.86%)
(7.50%)
(75.96%)
(0.02%)
(9.20%)
(73.82%)
(124.06%)
(47.31%)
(73.71%)