สรุป OPPDAY หุ้น TTW
Oppday
สรุป OPPDAY
TTW โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรพุ่งทะยาน พร้อมลุยลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):TTW รายงานส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม (CK Power) ใน Q3/2568 ที่ 317.3 ล้านบาท เติบโต 6.7% หากรวม 9 เดือน รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 487.3 ล้านบาท เติบโตถึง 142.7% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากโครงการไซยะบุรี (เขื่อนพลังน้ำ) และโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ที่สปป.ลาว
ต้นทุนทางการเงินปรับลดลง 19.6 ล้านบาท (19.5% YoY) ภาระหนี้สินมีการปรับเพิ่มลด โดยมีเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น 1,400 ล้านบาทเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในพฤษภาคม และทยอยจ่ายเงินกู้ยืมไป 495 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 มีภาระหนี้ที่เป็นเงินกู้ 2,125 ล้านบาท
มีไถ่ถอนหุ้นกู้ 1,400 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 ชุด รวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 มีภาระหนี้ที่เป็นหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 1 ปีต่อจากนี้ มีเงินกู้ที่ครบกำหนดจ่าย 710 ล้านบาท
อัตรา DE Ratio ขยับเพิ่มขึ้นจาก 0.29 เท่า เป็น 0.43 เท่า และ Net DE เพิ่มขึ้นเป็น 0.4 เท่า
ต้นทุนขายและบริการปรับลดลง 50 ล้านบาท (4%) จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการส่งจ่ายน้ำประปา และการเปิดใช้โรงผลิตน้ำประปา กระทุ่มแบนอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริหารต้นทุนสารเคมีที่ดีขึ้น และค่า FT ที่ปรับลดลง
ค่าใช้จ่ายบริหารปรับเพิ่มขึ้น 83 ล้านบาท (6%) ส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนกิจกรรม CSR และสาธารณสังคมต่างๆ
มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 30 สตางค์ต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 1,197 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา earning per share 0.36 บาทต่อหุ้น และอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ 83.5% XD เมื่อ 10 กันยายน และจ่ายปันผลไปแล้วเมื่อ 26 กันยายน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):TTW เข้าซื้อหุ้นสามัญ 10% ในบริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด (LPCL) โดยเป็นการซื้อจาก บมจ. ช.การช่าง ด้วยวงเงินไม่เกิน 4,597 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินทุนจากการออกหุ้นกู้ 3 ชุด จำนวน 3,000 ล้านบาท
LPCL ดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ (เขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ) ที่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว มีทุนจดทะเบียน 41,868 ล้านบาท TTW เข้าซื้อหุ้นจำนวน 418,679,400 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 2,765 ล้านบาท จ่ายให้ช.การช่างในไตรมาส 3
ส่วนที่เหลือ 1,715 ล้านบาท จะเป็นการทยอยใส่เงินชำระทุนเพิ่มเติมในหุ้นที่ยังไม่เต็มมูลค่า จนกว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2572 ซึ่งอาจมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพิ่มเติม ส่วนนี้จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในครั้งหน้า
นอกจากนี้ ยังมีรายการเพิ่มทุนในกรณีที่เปิดทดสอบระบบแล้วรายได้ไม่เป็นไปตามประมาณการ (Standby Equity) 117.56 ล้านบาท ซึ่งประเมินแล้วโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย และส่วนที่อาจใช้ Financial Assistance แก่ผู้ถือหุ้น ในวงเงินไม่เกิน 1,100 ล้านบาท หากเงินในการพัฒนาโครงการไม่เพียงพอ ซึ่งโอกาสเกิดก็ไม่มากเช่นกัน
การลงทุนใน LPCL สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของบริษัทในการแสวงหาคุณค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน เป็นการ diversify ไปสู่ธุรกิจพลังงาน ลดความเสี่ยงจากธุรกิจน้ำประปาเพียงอย่างเดียว โครงการนี้มีสัญญาระยะยาว 35 ปี รายได้ค่อนข้างมั่นคงแน่นอน เป็นการต่อยอดการลงทุนใน Hydro Power ที่ TTW มีประสบการณ์อยู่แล้วผ่าน CK Power และเป็นโครงการพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในระยะยาวเนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่ถูกส่งกลับมา 100% ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):ไม่มีข้อมูลความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):ไม่มีข้อมูลวิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):TTW ยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจน้ำในประเทศ ทั้งการพัฒนาโอกาสในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ใน EEC และพัฒนาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในโครงการด้านน้ำที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน รวมถึงโครงการบำบัดน้ำเสียชุมชนต่างๆ ที่รัฐจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน หากเหมาะสมกับศักยภาพของบริษัทก็พร้อมที่จะลงทุน
ในต่างประเทศ TTW ยังมีความสนใจอยู่ในอาเซียน แต่จะมองความเสี่ยงที่น้อยที่สุดที่จะกระทบต่อผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน การเมือง ภัยธรรมชาติ การเก็บเงินจากลูกค้า และขนาดที่เหมาะสม รวมถึงแหล่งน้ำดิบที่เป็นหัวใจสำคัญ นอกจากนี้ ยังเป็นการ diversify เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจน้ำประปาเพียงอย่างเดียว
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): * เริ่ม Q&A Session นาทีที่ 42.52 * น้ำท่วมหาดใหญ่และภาคใต้กระทบ TTW หรือไม่ * TTW ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากธุรกิจหลักอยู่ในสมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานีรังสิต และนิคมอุตสาหกรรมในอยุธยา ชลบุรี และระยอง ไม่ได้ลงทุนในภาคใต้ * แผนงานปี 2569 มองการเติบโตไว้อย่างไร * คาดการณ์ยอดขายน้ำประปาเติบโตประมาณ 1-2% ธุรกิจน้ำประปาเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth จากฐานที่ใหญ่ การเติบโตของเมือง เศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ * โครงการภาครัฐ เช่น คนละครึ่งพลัส จะช่วยกระตุ้นการอุปโภคบริโภคและยอดผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม * หากมีโครงการช้อปดีมีคืน จะช่วยวางแผนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม * โครงการเหล่านี้จะส่งผลดีต่อยอดการใช้น้ำในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรม * ทิศทางผลงานไตรมาส 4/68 จะดีกว่าไตรมาส 3 หรือช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ * คาดการณ์ว่ายอดขายจะค่อยๆ ปรับดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี สนับสนุนจากการปรับปรุงสถานีเพิ่มแรงดัน การเปิดโรงผลิตน้ำประปาทุ่มแบน * อย่างน้อยที่สุดไตรมาส 4 จะไม่น้อยไปกว่าไตรมาส 3 และมีโอกาสเติบโตขึ้น 1-2% * ปี 2569 ค่าน้ำประปาน่าจะลดลง บริษัทจะบริหารจัดการอย่างไร * โครงการฝั่งปทุมธานีรังสิตใช้ CPI ภาคกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งติดลบ 0.7% อาจมีการปรับลดลงไปประมาณ 0.7% * TTW ใช้ CPI ภาคกลางเดือนธันวาคมและพฤศจิกายน ต้องรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ * คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อช่วงปลายปีอาจน้อยกว่าช่วงกลางปี * ค่าไฟฟ้าผันแปรในต้นปีหน้า (มกราคม-เมษายน) น่าจะอยู่ที่ 3.88 บาทต่อหน่วย ลดลงจากปลายปีนี้ (3.94 บาทต่อหน่วย) จะเป็นผลดีต่อ TTW เพราะใช้ไฟฟ้าในการผลิตค่อนข้างมาก (30-35% ของต้นทุนการผลิตรวม) * คาดว่าปี 2569 ปริมาณขายน้ำในแต่ละพื้นที่จะเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์ * คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 1-2% * ปี 2569 จะมีการชำระหุ้นกู้และเงินกู้เท่าไหร่ * หุ้นกู้ยังไม่มีครบไถ่ถอน * เงินกู้ที่จะถึงกำหนดชำระใน 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ 710 ล้านบาท * มีโอกาสที่ TTW จะเพิ่มสัดส่วนในโครงการหลวงพระบางในอนาคตหรือไม่ * พิจารณาจากความคุ้มค่าในการขายหรือลงทุนเพิ่ม * ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงิน ณ ช่วงนั้น และนโยบายการลงทุน ณ ตอนนั้น * ปัจจุบันยังไม่มีแผนการขายหรือเพิ่มสัดส่วน ยังคงอยู่ที่ 10% * TTW ที่มี U-rate สูงถึง 91% มีแผนที่จะเพิ่ม Capacity หรือไม่ ใครเป็นคนลงทุน * หลังปี 2563 (หมดสัญญาแบบเดิม) TTW โอนสินทรัพย์ทั้งหมดให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) แล้ว * ปัจจุบัน TTW มีหน้าที่แค่ O&M (ดำเนินการผลิตและบำรุงรักษา) * การเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กปภ. * TTW พร้อมที่จะ Support ในส่วนของการผลิตและบำรุงรักษา * แนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 4 มีทิศทางการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ * เติบโตจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก * เศรษฐกิจช่วงกลางปีไม่ดีเท่าที่ควร * ครึ่งปีหลังมีความชัดเจน เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น การส่งออกดีขึ้น ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้น้ำมากขึ้น * แผนการดำเนินงานปีหน้าจะมีการลงทุนอะไรเพิ่มบ้างและวางเป้าเติบโตไว้อย่างไร * การลงทุนปกติจะเป็น maintenance capex ประมาณ 70-80 ล้านบาท (TTW และ TTW annual) * LPCL ยังใส่เงินไม่ครบ ต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มอีกประมาณ 1,480 ล้านบาท * ทยอยชำระค่าหุ้น LPCL ที่ยังไม่เต็มมูลค่าอีก 1,715 ล้านบาท * อาจมีการกู้เงินเพิ่ม (ไม่ถึง 1,700 ล้าน) สักประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท * ปริมาณขายในแต่ละพื้นที่ของปี 2568 เติบโตเท่าไหร่ * น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1-2%สรุป TTW ยังคงมีรายได้และกระแสเงินสดที่มั่นคงจากการมีสัมปทานและสัญญากับภาครัฐระยะยาว พร้อมทั้งพยายามบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้ดีที่สุด เพื่อให้ Bottom Line ออกมาดีที่สุด TTW ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป