สรุป OPPDAY

สรุป Oppday บริษัท ไทย เอ็นจี จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2567: ทิศทางธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับท่านนักลงทุนทุกท่านเข้าสู่งานบริษัทจดทะเบียนพบปะนักลงทุนของบริษัท ทรีซัน ไทย เอ็นจี จำกัด มหาชน ประจำผลประกอบการปี 2567 หรือปี 2024 ค่ะ วันนี้เราก็มีผู้บริหารที่มาให้ข้อมูลกับเรา ได้แก่ คุณคทารัตน์ สุขแสวง Group CFO, คุณอัจฉริยา อังสธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ และคุณวุฒิชัย ครุพุฒิจิวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและวิเคราะห์การเงินส่วนกลาง

ข้อมูลที่เราจะให้ในวันนี้จะเริ่มจาก Company Overview, Financial Performance, Market Outlook และตามด้วย Q&A ค่ะ

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ไทย เอ็นจี จำกัด (มหาชน) เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ปี 1904 กว่า 100 ปีที่แล้ว และเข้า Listed ใน SET ในปี 1995 ใน 6 ปีที่ผ่านมา สามารถมี Performance ของ TCE Rate สำหรับกลุ่มธุรกิจชิปปิ้งได้ใน Top 5 ติดต่อกัน 6 ปี โดยปีล่าสุดปี 2023 ที่มีข้อมูลอยู่ Top 3

ธุรกิจของบริษัทมี Global Present ในมากกว่า 10 ประเทศและ 3 ภูมิภาค กลุ่มที่เป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทคือ ครอบครัวมหากิจศิริ ถือหุ้นอยู่ประมาณ 37.3% ณ สิ้นปี 2567

นอกจาก List ใน SET แล้ว ยังได้รับการจัดอันดับใน SET ESG Rating เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในส่วนของ Level Double A และได้รับการจัดอันดับในส่วนของ Credit Rating อยู่ที่ Triple B+ โดยมี Outlook Stable ในปี 2567 หรือปี 2024 ที่ผ่านมา

TTA สามารถแบ่งการลงทุนออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ๆ ได้ดังนี้:

1. กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ (Shipping): ถือหุ้นอยู่ 100% ในปี 2567 มีรายได้เป็นสัดส่วน 21% จากรายได้ทั้งหมด 32,260 ล้านบาท
2. ธุรกิจ Offshore Service: ให้บริการซ่อมบำรุงใต้ทะเล งานวางสายเคเบิล และงานรื้อถอนและงานติดตั้งนอกชายฝั่ง มีสัดส่วนรายได้ 57%
3. ธุรกิจเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร (Agrochemical): หลัก ๆ จะอยู่ในประเทศเวียดนาม สัดส่วนหลัก ๆ การขายจะเป็นตัวปุ๋ย สารกำจัดแมลง และการบริหารจัดการพื้นที่ให้เช่า สัดส่วนรายได้ 12%
4. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage): มี Pizza Hut และ Taco Bell สัดส่วนรายได้ 7%
5. การลงทุนอื่น ๆ: ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ, ธุรกิจบริหารพอร์ต, ธุรกิจขนส่งและจำหน่ายถ่านหิน, ธุรกิจอย่าง Skootar ให้บริการขนส่ง Delivery ตาม Request, และธุรกิจตัว EV มอเตอร์ไซค์ มีการลงทุนในบริษัท Energy เป็นบริษัท Oil and Gas ที่ทำงานใน นอร์ท อเมริกา

สัดส่วนนี้ Contribute ในส่วนของรายได้ 3%

ปี 2567 มี อยู่ที่ 4,340 ล้านบาท สัดส่วนหลัก ๆ มาจากธุรกิจหลักสองอย่างคือ ธุรกิจชิปปิ้งและธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง 58% และ 31% ส่วนธุรกิจเคมีคอล 7% Food & Beverage 6%

Financial Performance

สำหรับผลประกอบการปี 2024 บริษัทรายงานกำไรสุทธิหรือ Net Profit ที่ 1,323 ล้านบาท โดยหลักมาจาก 2 ธุรกิจคือ ธุรกิจ Shipping และธุรกิจ Offshore Net TCE Rate ของธุรกิจ Shipping อยู่ที่ 14,467 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน Outperform หรือทำได้ดีกว่าตลาดถึง 12% และมี Opex ที่ 4,324 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอยู่ 17%

ธุรกิจ Shipping มี Net Profit ให้กับ TTA อยู่ที่ 1,838 ล้านบาท ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่ทำกำไรให้กับ TTA สูงสุด รองลงมาคือธุรกิจ Offshore ซึ่งมีมูลค่าสัญญาให้บริการรอส่งมอบหรือ Backlog ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 787 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่า 449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะรับรู้ในปี 2025 นี้ โดยที่มี Net Profit ให้กับ TTA เป็นบวกปีที่ต่อเนื่องอยู่ที่ 278 ล้านบาท

ธุรกิจถัดไปคือธุรกิจ Agrochemical ให้กำไรสุทธิกับ TTA ที่ 103 ล้านบาท โดยหลักมาจาก Gross Profit Margin หรือกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและยอดขายที่แข็งแกร่งที่ 175 K ตัน ซึ่งเป็นบวก 3% ต่อปี

สำหรับปี 2024 มีรายได้จำนวน 32,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เทียบกับปีก่อน โดยมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง โดยหลักมาจากโครงการในการรื้อถอนงานขนส่งและติดตั้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Decommissioning บริษัทรายงาน Gross Profit หรือกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 14% ต่อปี โดยมีมูลค่า Gross Profit อยู่ที่ 6,638 ล้านบาท และรายงาน มีผลสูงขึ้น 17% เทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่าคือ 4,340 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น

บริษัทมีผลขาดทุนกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่จำนวนเงินคือ 251.9 ล้านบาท กรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่ TTA มีเงินกู้ยืมให้กับกิจการที่เกี่ยวข้องในสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจึงมีผลขาดทุนอยู่ที่ 251 ล้านบาท บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากรายการพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำจำนวน 136 ล้านบาท ซึ่งหลัก ๆ เป็นการกลับรายการด้อยค่าเรือของกลุ่มธุรกิจ Offshore

TTA รายงานกำไรสุทธิประจำปี 2024 ที่ 1,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับปีก่อน ซึ่งโดยหลักมาจากผลกำไรสุทธิที่เติบโตจากกลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม

บริษัทมีสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 12% เป็น 530 ล้านบาท ซึ่งโดยหลักการเพิ่มขึ้นมาจากลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาบริการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจ Offshore Service และสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายการก็คือสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายจำนวน 1,516 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในปี 2020 ในบริษัทแห่งหนึ่งที่ TTA เข้าไปลงทุน และคาดการณ์ว่าจะทำการขาย บริษัทจะได้รับกระแสเงินสดในปี 2025 นี้

หนี้สินที่เพิ่มขึ้น 23% โดยหลักมาจากการออกหุ้นกู้ใหม่ในต้นปี 2024 ที่ผ่านมา โดยสัดส่วนหุ้นกู้คิดเป็น 77% ของหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยทั้งหมด ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหนี้จากธนาคารและสถาบันการเงิน ส่วนของทุนเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งโดยหลักมาจากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในปีนั้น

การปรับปรุงการลงทุนที่กล่าวไปข้างต้นยังส่งผลให้กำไรสะสมและส่วนของผู้ถือหุ้นนั้นเพิ่มขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินของ TTA และกระแสเงินสดที่จะแข็งแรงขึ้นในปี 2025

อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญเนื่องจากกำไรเพิ่มขึ้น Book Value จึงเพิ่มขึ้นสอดคล้องกันอยู่ที่ 15.6 บาทต่อหุ้น Net IBD to Equity ยังอยู่ที่ต่ำกว่า 1 เท่า ที่ 0.09 เท่าเท่านั้น ในขณะที่ DE Ratio อยู่ที่ 0.57 เท่า ซึ่งหากเทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ที่ 1.19 เท่า ดังนั้น ทาง TTA ยังมี Leverage Ratio ที่ค่อนข้างต่ำ

ณ สิ้นปีบริษัทมีเงินสดและ Equivalent เนี่ยอยู่ที่ 8,521 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงรักษากระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากการดำเนินงานที่มีกระแสเงินสดเป็นบวกต่อเนื่องอยู่ที่ 2,527 ล้านบาท มีกิจกรรมที่ใช้เงินลงทุนไป 3,970 ล้านบาท จึงต้องมีการจัดหากิจกรรมหาเงินเพิ่มเติมที่ 1,358 ล้านบาท

ในปี 2024 TCE Rate ของบริษัทอยู่ที่ 14,467 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำ สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 12% ทั้งนี้ 14,467 ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เราจะแยกออกมาเป็นเรทของเรือที่กลุ่มธุรกิจเป็นเจ้าของ เราทำเรทได้อยู่ที่ 14,399 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำ และนำมาบวกกับกำไรจากเรือที่เป็น Charter in ที่ 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อลำ

ในส่วนของ Own Fleet หรือเรือที่บริษัทเป็นเจ้าของ บริษัทรักษา Utilization หรืออัตราการใช้อยู่ที่ 99.9% Opex อยู่ที่ 4,324 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมหรือทำได้ดีกว่า ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 5,208 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน นั่นแปลว่า Opex ของเรายังต่ำกว่าตลาดที่ 17% Break Even จะอยู่ที่ 8,364 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ทำให้บริษัทมี Net Margin สูงถึง 42%

ณ สิ้นปีบริษัทมีเรือทั้งหมด 24 ลำ โดยหลักจะเป็นเรือ Supermax 22 ลำ และมีเรือ Ultramax จำนวน 2 ลำ มี Average Size อยู่ที่ 55,913 Dead Weight ตัน และอายุเฉลี่ยที่ 16.7 ปี

ธุรกิจ Shipping มีรายได้ทั้งปี 2024 อยู่ที่ 6,773 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8% Y on Y เนื่องจากการที่เรือเช่า Charter In ที่ลดลง แต่อย่างไรก็ดีเรายังมีกำไรในส่วนของการที่เรา Charter In เข้ามาอยู่ดี อัตราค่าระวางเรือ Supermax มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 14,467 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน Outperform หรือดีกว่าตลาด 12% หรือตัว Gross Profit ที่ 2,724 ล้านบาท และมี ที่สูงขึ้นเช่นกัน 12% เทียบกับปีก่อน โดย ได้ที่ 2,531 ล้านบาท สรุป Shipping รายงาน Net Profit ให้กับ TTA จำนวน 1,838 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนถึง 20%

สัดส่วนรายได้ของปี 2024 มาจากธุรกิจ Decommissioning หรือการให้บริการรื้อถอนงานขนส่งและติดตั้ง โดยรายได้ส่วนนี้เป็นหลักมีสัดส่วนถึง 52% ตามด้วยส่วนที่ 2 ก็คือ Subsea IMR ซึ่งเป็นการให้บริการซ่อมแซมซ่อมบำรุงใต้ทะเล โดยมีสัดส่วน 36% และงานสุดท้ายก็คืองานวางสายเคเบิลใต้ทะเล หรือเรียกว่า Cable Laying มีสัดส่วนอยู่ที่ 15% ของรายได้รวม

จากกราฟสีเขียวอ่อนจะมีสัดส่วนโตขึ้นมามาก ซึ่งสัดส่วนนี้ก็คือสัดส่วนของ Decommissioning ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่มาบุกตลาด รายได้ส่วนนี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญคือมีการเติบโตถึง 235% เทียบกับปีก่อน โดยโตจาก 2,845 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้มาอยู่ที่ 9,524 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นโดยนัยยะมาจากการที่เราได้สัญญาบริการระยะยาวกับลูกค้า Oil and Gas รายใหญ่ในประเทศไทย

รายได้จาก Subsea IMR มีรายได้ที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน 20% เทียบกับปีก่อนจาก 5,387 เป็น 6,480 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นในส่วนของงานที่ใช้เรือที่กลุ่มธุรกิจเป็นเจ้าของและที่ไม่ได้เป็นเจ้าของและมาจากรายได้รายวันของเรือที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

โปรเจค Cable Lay รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันถึง 54% เทียบกับปีก่อนจากงานที่เพิ่มขึ้น รายได้จาก 1,396 ล้านบาท สูงขึ้นเป็น 2,145 ล้านบาท

ปี 2024 ทางกลุ่ม Offshore มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 18,149 ล้านบาท สูงขึ้น 88% เทียบกับปีก่อน จากทั้ง 3 ธุรกิจ หรือ 3 โปรเจค แต่เป็นการเพิ่มอย่างมีนัยยะจากงาน Decommissioning

กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 2,560 ล้านบาท โดยมี Gross Profit Margin ที่ 11% อาจจะลดลงจากปีก่อนสำหรับตัว Margin ที่เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์เนื่องจากกำไรขั้นต้นของโครงการงานของ Decommissioning เป็นโครงการแรกของบริษัท ทั้งนี้คาดการณ์ว่ากำไรขั้นต้นของโครงการ Decommissioning ในปี 2025 จะสูงขึ้นจากความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นและการระยะเวลาการทำงานของโครงการ นอกจากนี้จุดเด่นของโครงการนี้คือใช้เพียงเงินทุนหมุนเวียน ไม่ต้องใช้เงินลงทุนระยะยาว ที่ต้องใช้จำนวนมาก

บริษัท Offshore มี อยู่ที่ 1,362 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน บริษัทมีกำไรจากการกลับรายการด้อยค่าของเรือ มูลค่าคือ 337 ล้านบาท เนื่องจากอัตราการใช้ประโยชน์และอัตราค่าบริการรายวันของเรือที่สูงขึ้น จึงช่วยส่งเสริมศักยภาพในการสร้างรายได้และยังได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยที่มูลค่าตลาดของเรือนั้นสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี

กลุ่มธุรกิจ Offshore รายงานกำไรสุทธิที่ 491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% และมีกำไรสุทธิที่เป็นของ TTA อยู่ที่ 278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เทียบกับปีก่อน

ปริมาณการขายปุ๋ยเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่ 174.8 พันตัน โดยปริมาณการขายปุ๋ยในประเทศเวียดนามคิดเป็นสัดส่วน 87% ของปริมาณการขายปุ๋ยทั้งหมด เทียบกับปีก่อนปริมาณการขายในประเทศมีสัดส่วนที่ 82% ยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและราคาปุ๋ยที่มีความคงที่มากขึ้น สำหรับการส่งออกตลาดหลักยังคงเน้นไปกลุ่มประเทศก็คือฟิลิปปินส์

การวิเคราะห์เราสามารถวิเคราะห์นอกจาก Export ประเทศอาจจะวิเคราะห์ตามประเภทของปุ๋ยได้ด้วย ยอดขายโดยหลักมาจาก สูตรปุ๋ยเชิงผสม หรือ NPK Fertilizer โดยมีสัดส่วนเป็น 82% ของยอดขาย โดยมียอดขายที่ 142.7 พันตัน

สูตรถัดไปคือสูตร Single Fertilizer มีสัดส่วนอยู่ที่ 18% ครับ มีมีออดขายอยู่ที่ 32.1 พันตัน และนอกจากการขายปุ๋ย ยังมีรายได้จากการให้บริการการบริหารพื้นที่โรงงานที่เพิ่มขึ้นด้วย 15% เทียบกับปีก่อนโดยมีรายได้ที่ 126 ล้านบาท จากอัตราการใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่คลังสินค้า และนอกจากนี้เรายังมีรายได้จากกิจกรรมการคลังสินค้าที่สูงขึ้น

Financial Performance ของกลุ่มธุรกิจ รายงานรายได้อยู่ที่ 3,847 ล้านบาท นะเพิ่มขึ้น 2 เป็น เทียบกับปีก่อนสอดคล้องกับปริมาณการขายปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น กำไรขั้นต้นหรือ Gross Profit เพิ่มขึ้น 28% เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 602 ล้านบาท โดยหลักมาจากทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นและที่สำคัญก็คือ Gross Profit Margin ที่สูงขึ้น

Gross Profit Margin ในปี ก่อนอยู่ที่ 12% สามารถปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 16% ในปี 2024 จาก Gross Profit ที่เพิ่มทำให้ ด้า รายงานเพิ่มขึ้นด้วย 50% เทียบกับปีก่อนโดยรายงานจำนวนเงินได้ที่ 304 ล้านบาท และมี Net Profit ให้กับ TTA ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 159%

Pizza Hut มีสาขาทั้งหมด ณ สิ้นปี 2024 ที่ 196 สาขา ในขณะที่แบรนด์ Taco Bell อยู่ที่ 33 สาขาด้วยกัน นอกจากนี้ TTA ยังมีบริการการให้บริการการบริหารทรัพยากรน้ำและการบำบัดน้ำเสีย ผ่านบริษัทชื่อว่า AIM ที่บริษัท TTA ถือหุ้นอยู่ 92.5% โดยปัจจุบันบริษัท AIM ได้รับสัมปทานในการขายน้ำที่หลวงพระบางประเทศลาวและสไบเรียงประเทศกัมพูชา

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

Market Outlook สถานการณ์ตลาดเรือแห้งเทกองในปี 2024 ดัชนี BSI เฉลี่ยอยู่ที่ 1,241 ซึ่งจุดเพิ่มจาก 1,022 จุดปีที่แล้ว ปัจจัยหนุนหลักก็มาจากอุปสงค์แข็งแกร่ง การเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือและการเลี่ยงทะเลแดงและคลองปานามา

ค่าระวางเรือ Supermax ทำสถิติสูงสุดที่ 16,441 เหรียญสหรัฐต่อวันในเดือนเมษายน 2024 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 13,601 ดอลลาร์ต่อลำต่อวัน

การวิเคราะห์ Demand ในปี 2025 2026 ในปี 2025 คาดการณ์ว่าการเติบโตของ Demand จะอยู่ที่ 0.9 0.9% ในหน่วยของตันไมล์ ในขณะที่ Minor Bulk หรือสินค้าเทกองย่อย จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2.5% ซึ่งตรงนี้เป็น Segment หลักของ TTA ที่ใช้เรือ ในการขนส่ง ในส่วนของสินค้าเม็ดพันธุ์ธัญพืชคาดว่าอัตราเติบโตอยู่ที่ 1.5%

ถ่านหินแร่เหล็กชะลอตัวอาจจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 0.4% จากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัว อุตสาหกรรมจีนใช้ถ่านหินและแร่เหล็กลดลงเล็กน้อยคาดว่าจะลดลงประมาณ 0.2% ซึ่งจะกระทบตลาดของ ไดเบ ในปี 2026 คาดว่า ไดเบ Trade จะทรงตัวและอาจจะเติบโตต่ำกว่าปี 2025

คำสั่งต่อเรือยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 11% ถ้าเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ในเรื่องของมาตรการสิ่งแวดล้อม บังคับใช้เข้มขึ้นในส่วนของ EEXI หรือ C2 ซึ่งได้มีการลดปริมาณคาร์บอนที่ผลิตเนี่ยให้อยู่ที่ระดับ 5% ในปี 2023 และก็มีเป้าหมายที่จะลด 9% ในปี 2025 และ 11% ในปี 2026 Clarksons Research คาดการณ์ว่าการขยายกองเรือจะอยู่ที่ประมาณ 3% ในปี ทั้ง ปี 25 และ ปี 26

ในภาพรวมของ Demand และ Supply ในปี 25 Demand จะโตอยู่ที่ 0.9% ในขณะที่กองเรือขยายตัวอยู่ที่ 3% จะเห็นว่าตลาดจะมีอุปทานล้นตลาดอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ยังไงก็ตามถ้าดูในส่วนของ Minor Bulk ซึ่งเป็น Segment ของ เรือ Supermax ซึ่ง TTA อยู่ในกลุ่มนี้ ยังมีการอัตราเติบโตที่คาดว่าจะสูงอยู่ที่ประมาณ 2.5%

ถ้าเปรียบเทียบกับอัตราของ ตัว Minor Bulk Trade ที่จะเติบโตเปรียบเทียบกับปริมาณของ Supermax Frit ที่เติบโต จะเห็นว่า แก๊ป ของปี 2025 จะอยู่ในระดับเดียวกับปี 2023 และแม้กระทั่ง Gap ผลต่างของ อัตราการเติบโต ในปี 2026 ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับปี 23 ซึ่ง ในปี 23 เราจะเห็นว่าเรท จะอยู่ที่ Net Supermax เนี่ยจะอยู่ที่ 16,078 ในขณะที่ TTA เราก็ได้ 13,000 ก็คือ เราก็ Outperform มาตลอด

เรามี Model การทำธุรกิจที่ยืดหยุ่น ซึ่งเราเป็นทั้งเจ้าของเรือและก็เช่าเรือเข้ามาซึ่งเราสามารถทำให้เกิดมีประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงได้ดีแล้วก็สามารถที่จะ ให้บริการกับลูกค้าได้หลายกลุ่มสามารถทำให้เรามีความสามารถในการทำกำไรได้อย่างดีและต่อเนื่อง

เรามี In House Experience ทั้งในการบริหารจัดการทั้งในส่วนของ กองเรือ ทั้งในการจัดการในส่วนของ ชายฝั่งที่บริหารจัดการในเรื่องของ การบริหาร ทางด้านการขาย การให้บริการกับลูกค้าซึ่งในหลายๆ คู่แข่งของ ในธุรกิจเนี่ยเขาใช้ third party ในการบริหารจัดการก็คือเช่นจ้างบริษัทอื่นในบริหารจัดการกองเรือหรือมีการนำเอาเรือเข้าไปใน เพื่อให้กลุ่มเนี่ยช่วยบริหารจัดการในเรื่องของการขายแต่เราเองเนี่ยเรามีคนของเราเองที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานดังนั้นข้อ 2 เอง เนี่ยจากการที่เรามีคนของเราที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานทั้งบริหารจัดการในเรื่องของเรือแล้วก็บริหารจัดการเรื่องการขายมันส่งให้เราเองเนี่ยเราสามารถบริหารจัดการต้นทุนที่ต่ำ ซึ่ง ในปี 2024 เนี่ยเราต่ำต่ำกว่าท้องตลาดอยู่ที่ 17% และขณะเดียวกันการที่เรามีบุคลากรของเราเอง นะครับ ที่มีประสบการณ์น่ะทำให้ เรามีความสามารถ บริหารจัดการในเรื่องของรายได้นะครับ เหนือกว่าตลาดนะครับ ในปี 2024 เนี่ยเราเหนือตลาดกว่าที่อยู่ที่ 12% ซึ่งตรงนี้เนี่ยในขณะที่ขนาดของกองเรือเราเองเนี่ยเทียบเท่าเป็นเพียงแค่ 96% ของ มาตรฐานเรือ Supermax 58,000 Dead Weight ตันที่ใช้ในการเปรียบเทียบ

ในเรื่องของการบริหารจัดการทางด้านรายได้ TTA เองของเราเนี่ยติดอันดับ Top 3 นะครับติด ระดับ 3 ในปี 2523 นะครับ ซึ่ง TTA ของเราเองเนี่ยเป็นเพียงบริษัทเดียวนะครับที่สามารถ คงอยู่ในระดับ Top 5 ต่อเนื่องกัน 6 ปี ในเรื่องของ รายได้ต่อลำต่อวันสำหรับปี 2024 เนี่ยตอนนี้น่ะยังไม่ไปการประกาศออกมาจาก สํานัก ที่เขาทำในเรื่องของการ เซอร์เวย์ในเรื่องนี้นะครับ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ราคา น้ำมันในปี 2025 คาด ว่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 75 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ในขณะที่ต้นทุนการผลิตหรือเรียกว่า Lifting Cost นะครับ ในการผลิตน้ำมันนะครับ จะอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญ ถึง 45 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล นี่ก็ขึ้นอยู่กับในแต่ละท้องที่นะครับ ในส่วน ของ Middle East ในส่วนของ Asia นี่ก็จะถือว่าค่อนข้างอยู่ในต่ำถ้าไปเปรียบเทียบกับในในกลุ่มของทางด้าน นซ นะครับแต่ว่าต้นทุน Lifting Cost จะอยู่ที่ประมาณ 10.7- 45 นะครับ US ดอลลาร์ต่อบาเรล จะเห็น จะเห็นว่าก็ยังเป็น positive อยู่เพราะว่า ราคาขายยังสูงกว่าต้นทุนในการ Lifting นะครับ

เงินลงทุนในกลุ่ม Oil and Gas เนี่ยก็คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ในปี 2025 นะครับ ตลาด พลังงานที่สำคัญก็คือในกลุ่มของเอเชียตะวันออกกลางแล้วก็ยุโรป อุตสาหกรรม กำลังโฟกัสไปที่การขุดเจาะน้ำมันลึกพิเศษนะครับ หรือ ในขณะเดียวกันในตลาดแอฟริกาก็เป็นโอกาสเติบโตของทาง เป็น ของ ของเราเองนะครับ ซึ่งเราได้รับโครงการใหม่หลายโครงการในโมซัมบิกแอฟริกาและกานา

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

Backlog ของ Order Book ของเราเนี่ยจะ ณ ตอนนี้อยู่สูงอยู่ที่ 787 ล้านเหรียญ US ดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2024 ซึ่ง Backlog ตรงนี้เนี่ย จะรับรู้รายได้อยู่ที่ 449 ล้านเหรียญนะครับ ในปี 2025 นะครับและ ในปี 2026 เนี่ย จะรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 310 ล้านเหรียญนะครับ แต่ยังไงก็ตามเนี่ยเราก็จะมีการหางานเพื่อที่จะ fill ใน ใน Order Book ของเราอยู่เรื่อยๆ นะครับ

ส่วนของ CIM Service Order Book จะอยู่ที่ประมาณ 8 381 ล้านเหรียญสหรัฐนะครับซึ่งตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกาเป็นตัวนำตลาดนะครับ การ วางสาย Cable Lay เนี่ยมี Order Book อยู่ที่ 142 ล้านเหรียญสหรัฐนะครับขณะ ที่ตลาดแข็งแกร่งอยู่ยังอยู่ที่ตะวันออกกลางนะครับ ในส่วนของ T&I Decommissioning เนี่ยมี Order Book อยู่ที่ 265 ล้านเหรียญนะครับซึ่งตลาดหลักจะอยู่ที่ไทยนะครับ

เองยังให้ความสำคัญในเรื่องของกำกับ กิจการดูแลกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนนะครับ โดย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและคณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืนนะครับ เพื่อ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระและผู้สมัคร กรรมการในการประชุมสามัญ และ เองเนี่ยได้รับการต่ออายุรับรองสมาชิก CAC ตลอดจนได้รับการจัดอันดับ AA นะครับใน ESG Rating ซึ่งอยู่ในระดับดีเยี่ยม 5 ดาว ติดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 ปี

นอกจาก ธรรมภิบาล ดีเด่นแล้วเนี่ยเราก็ยังมีการพัฒนาในเรื่องของการศึกษานะครับ เองเนี่ยได้ลงนาม MOU กับสถาบันการศึกษา เพื่อ ที่จะส่งเสริมนะครับแล้วก็ในขณะเดียวกันเนี่ยเราก็มีเป้าหมายในการลดคาร์บอนนะครับลดก๊าซเรือนกระจก 5% ในปี 2026 แล้วก็ 2% ในปี 2527 28 นะครับขณะเดียวกันเนี่ยเราก็ได้มีการ ในเรื่องของ Cyber Security นะครับ PA Training แล้วก็ Compliance นะครับ

สรุปแล้วก็ เองเนี่ยเรา พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนนะครับ ทั้ง แข็งแกร่งในตลาดนะครับเหนือกว่าคู่แข่งและก็กลยุทธ์พร้อมรับ อนาคตนะครับ

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทได้มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุนและความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการมีโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น การมี In House Experience และการบริหารจัดการบุคลากรที่มีประสบการณ์ เพื่อให้สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 56:00]

ผู้บริหารได้ตอบคำถามจากผู้ถือหุ้นในประเด็นต่างๆ ดังนี้:

นโยบายการซื้อหุ้นคืน

ณ ตอนนี้คิดว่ายังไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้นะครับ อ่า ณ ขณะนี้เพราะว่า อ่า ทางเราเองเนี่ย อ่าถ้าทางตลาด ผู้ถือหุ้นยังทรัพย์อยู่เราได้มีการเตรียมการในการ อ่า ออกหุ้นเพิ่มทุนมากกว่านะครับ ณ ตอนนี้นะครับ

การถือ Bitcoin

กี่ Bitcoin ครับอันนี้ต้องเรียนบอกว่า อ่า เราคงไม่สามารถที่จะบอกได้เพราะว่ามันถือว่าพูด หุ้นที่เขา รับ ฟัง เนี่ยอาจจะได้เปรียบในเรื่องของข้อมูลนะครับแต่ว่าผมแนะนำว่าลองเข้าไปดูในงบการเงินนะครับว่าเราได้ถือ Digital asset ในช่วงไหนอะไรยังไงซึ่งยัง ซึ่งจะสามารถบอกท่านได้ว่าเราเนี่ยถือ ฟอง มากน้อยแค่ไหนยังไงนะครับ

TCE Rate ในปี 2568

ก่อนหน้านี้เรทปรับตัวลงมาอย่าง อย่างมากนะครับบริษัทมองว่าเรทในปี 2525 จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ ในภาพใหญ่ๆอย่างที่ผมเรียนบอกว่า อ่าตลาดในปี 25 นะก็ต้องบอกว่า อ่า ถ้าเปรียบเทียบกับปี 2524 เนี่ยตลาดก็จะต้องปรับ ตัวอ่อนลงนะครับในเรื่องของ Demand ที่ต่ำกว่า Supply นะครับแต่ยังไงก็ตามเนี่ยถ้ามอง ในเรื่องของ อ่า ภาพของในเชิงลึก นะครับ จะเห็นว่าใน ที่ 1 เนี่ยโดยปกติ นะครับของเราเนี่ยจะถือว่า อ่า performance อ่า Shipping ของ ทั่วไปตลาดเนี่ยจะอยู่ภาวะต่ำสุดนะครับเพราะ หลักๆเป็นเรื่องของ อ่า ต่อเนื่องจากการหยุด สิ้น ปีแล้วก็ในช่วงของเทศกาลวันหยุดยาวของจีนนะครับ ซึ่งเตอร์ 1 เนี่ยจะถือว่าต่ำสุด นะครับ คอร์เตอร์ 2 จะสูงขึ้นมาจาก คอร์เตอร์ 1 นะครับ คอร์เตอร์ 3 จะสูงสุดแล้ว คอร์เตอร์ 4 เนี่ยจะต่ำกว่า คอร์เตอร์ 2 คอร์เตอร์ 3 นะครับแต่ว่าในช่วงของ คอร์เตอร์ 1 ที่ผ่านมา อ่าถึง แม้ว่าสภาวะของ อ่าถ้าเราดู อาจจะไม่ได้ อ่าสูงมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2024 นะครับแต่ว่า แต่ดูๆแล้วเนี่ยยังไงก็ตามมันก็ยังไม่ได้ถึงขนาดต่ำไปจนถึงจุดที่เรียกว่าในปี 2000 อ่า 10 20 หรือ 2010 10 16 10 16 ในช่วงนั้นนะครับซึ่งดังนั้นเนี่ยก็จะเห็นว่าในขณะเนี้ยยังไงก็ตามเนี่ยในส่วนของ ของเราเองเนี่ยเราก็ต้องบอกว่าเราอย่างที่ผมเรียนบอกไปว่าเรามี ที่เรา อ่า สามารถ ขาย มีความสามารถในการขายบริหารจัดการในเรื่องของการขายได้รับ รายได้ต่อลำต่อวันน่ะที่สูงกว่าตลาดมาตลอดแล้วเราก็มีต้นทุนใน การบริหารจัดการ Opex เนี่ยต่ำกว่าท้องตลาดมาตลอดดังนั้นเราเองเนี่ยเราจะถือว่าเราเองเนี่ยค่อนข้างที่สภาวะการตลาดข้างนอกเราอาจจะควบคุมไม่ได้แต่ภายในเนี่ยเรา เราถือว่าเราเป็น best in class นะครับใน การที่จะ อ่า บริหารจัดการในตัวนี้นะครับ ยังไงก็ตามเนี่ย ณ วันเนี้ยเราจะเห็นว่าอย่าง ตอนเนี้ย Supermax Index ก็อยู่ตรงที่ประมาณ 9,000 นะครับซึ่งยังไงก็ถือว่าสูงกว่า ต้นทุน Break Event ของเราที่ 8,000 กว่านะครับ

งบลงทุนปี 2568

ในปี 2568 เนี่ยเราได้ตั้งงบลงทุนไว้จำนวนเท่าไหร่อะไรยังไงนะครับ บริษัทเราเองเนี่ย อ่า มีกลยุทธ์ในการที่เราจะขยายกิจการ นะครับเราได้มีการตั้งงบลงทุนไว้นะครับประมาณปีละ 2-3,000 ล้านบาทตลอดอ่ะนะครับอย่างคร่าวๆนะครับแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ อ่าสภาวะแวดล้อมและปัจจัยในการที่จะตัดสินใจในการลงทุนนะครับ หลักๆแล้วงบลงทุนหลักๆก็คงจะมีการพิจารณาในเรื่องของการซื้อ เรือนะครับเพราะ ว่าอย่างที่บอกว่าเนื่องจากว่า อ่าธุรกิจทางด้าน อ่าขนส่ง เลื่องแห้งเทกอกเนี่ยเป็นธุรกิจหลักของเราที่ อ่า ทำกำไร ได้ เป็นส่วนใหญ่ของ อ่ากลุ่มของธุรกิจบริษัทนะครับแล้วเราก็มี อ่า ความสามารถในการ บริหารต้นทุนที่ต่ำกว่าท้องตลาดแล้วก็ความสามารถในการทำรายได้ต่อลำต่อวันที่สูงกว่าดังนั้นเนี่ยเราเองเรายังมีนโยบายอย่างต่อเนื่องนะครับที่จะ อ่า พิจารณาในการซื้อเรือใหม่เข้ามานะครับเพียงแต่ ว่าจะต้องดูจังหวะและโอกาสนะครับในเรื่องของราคาเรือนะครับ

Digital Asset

คำถามต่อไปนะครับ Digital asset เองเนี่ย ณ ตอนเนี้ยราคา Bitcoin ลดลงต่ำลงนะครับจากเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้วจากอยู่ ที่ประมาณ 100,000 เหรียญ อ่าตอน นี้ลดลงเถ 80,000 กว่า เหรียญสหรัฐ ต่อคอยนะครับ บริษัทคิดว่ายังไงนะครับ ก็อย่างที่ผมเรียนบอกว่าจริงๆ แล้วแม้กระทั่งถึงแม้ว่าการที่ราคามันลดลงจาก 100,000 จน 80,000 กว่า 80,000 กว่าที่ผมว่าก็ถือว่าสูงมากนะครับเพราะ ว่าจากการคาดการณ์ของตลาดถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนเมษายนยนของปี 2524 นะ ครับซึ่งตอนนั้นเป็นจุดที่เรียกว่า เป็นจุดที่เรียกว่าการขุด Bitcoin ได้น้อยลง ณ วันนั้นเนี่ยอัตรา ของ เหรียญอยู่ที่ประมาณ 60,000 กว่านะครับ ซึ่งย้อนกลับไปตรงนั้นก็ต่ำกว่า 60,000 กว่านะครับดังนั้น ตลาดเนี่ย ณ ในช่วงนั้นนะคาดการณ์ว่า สูงสุดเนี่ย 100,000 เหรียญ เนี่ยถือว่าสูงสุด สูงสุด สุดแล้วนะครับซึ่ง ซึ่งจะคาดว่าจะใช้เวลาประมาณหลังจาก วิ่ง นี่อย่างน้อยก็ประมาณเกือบ ปี ครึ่งนะครับแต่ว่ามันบรรลุ 100,000 เหรียญได้ไวกว่าปกติอีกซ้ําไปใช้เวลาประมาณ 8 เดือนนะครับดังนั้นการที่ Bitcoin ราคาปรับตบลงมาที่ 85,000 บาทเราคิดว่ามันยังเป็นอะไรที่อัตราที่สูงนะครับและณะ ขณะนั้นน่ะต้นทุนของเราต่ำมากนะครับดังนั้น อ่า ความเสี่ยงของเราถือว่าต่ำครับ

การปรับงบการเงินย้อนหลัง

คำถามอีกต่อไปครับ อ่าบริษัทมีการปรับงบการเงินย้อนหลังเนื่องจากสาเหตุอะไรนะครับ อย่าง ที่คุณ อชิ ชริยา อ่าอธิบายไปนะครับว่ามันเป็นการปรับ อ่า ในเรื่องของการตีมูลค่าเงินลงทุนของเรานะครับเพื่อให้ สะท้อนในราคาที่ fair value นะครับซึ่ง ต้องบอกว่าถ้าพูดถึงเรื่องของการปรับงบการเงินโดย ย้อนหลังเนี่ยฟังดูแล้วมันเหมือนกับเป็นสิ่ง ที่น่าตกใจนะครับแต่ว่าเป็นปกติเนี่ย ถ้าเป็นการปรับแล้วทำให้เกิดบริษัท อ่าเรียกว่ามีการปรับแล้วเกิดแล้ว สิ่งตรงนั้นเกิดให้ขาดทุนย้อนหลังเนี่ยอันนั้นน่ะเป็นสิ่งที่น่าตกใจนะครับแต่เนื่องจากว่าการปรับตรงนี้เป็นการเพิ่มกำไรสะสมเป็น เป็นการตีมูลค่าเพิ่มขึ้นย้อนหลังนะครับซึ่งจะเห็นว่าจริงๆแล้วบริษัทเราเองเนี่ย very เลยนะครับ นั้นการปรับงบการเงินย้อนหลังแล้วทำให้กำไรสะสมเพิ่มขึ้นน่ะผมว่ามองว่าใน ใน นัยะหนึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ อ่า น่าจะเป็นสิ่งที่เป็น positive ต่อตัวบริษัทด้วยซ้ำไปในแง่ของทำให้ ชี ของเรางขึ้นนะครับแล้วเราคาดว่า อ่าไอ้ตัว สิน ตัวเงินลงทุนเหล่านี้ อ่าหลังจากนั้นจะได้มีการขายหลังจากสิ้นปี 2524 นะ ครับซึ่งจริงๆแล้ว มองในภาพที่ดีคือจะทำให้มีกระแสเงินสดเข้ามาใน อ่า บริษัท

โดยสรุป, การประชุม Oppday ของบริษัทไทย เอ็นจี จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2567 ได้เน้นย้ำถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง, กลยุทธ์การเติบโตที่ยั่งยืน, และความมุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป