สรุปงบล่าสุด TRUBB
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB)
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) ประกอบธุรกิจยางพาราครบวงจร ตั้งแต่การปลูกสวนยางพารา ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบจากยางพารา เช่น น้ำยางข้น ยางแท่ง ไปจนถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืด ถุงมือยางทางการแพทย์ และที่นอนยางพารา ในไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 5,528.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 720.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาของยางพาราในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจาก 44.09 บาท/กก. ในไตรมาส 3/2566 เป็น 67.04 บาท/กก. ในไตรมาส 3/2567 ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพยางพาราให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการเติบโตของคำสั่งซื้อในอนาคต
บริษัทวางแผนที่จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการจัดการต้นทุน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน รวมถึงปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และพัฒนากระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศและเน้นการผลิตสินค้าประเภทน้ำยางข้นและถุงมือยาง ที่มีอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้น บริษัทคาดว่าราคาขายเฉลี่ยของยางพาราจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปี 2568 ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง แม้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้น แต่กำไรสุทธิกลับติดลบ 97.31 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูง อัตราส่วน D/E ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 0.46 สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทมีอัตราส่วนการหมุนเวียนของเงินสด (วงจรเงินสด) เท่ากับ 91.77 วัน สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้อย่างรวดเร็ว เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน อยู่ที่ -134.12 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน อยู่ที่ -276.86 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทนำเงินสดไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ
TRUBB อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนในระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างกำไรสุทธิได้ในอนาคต
**โอกาส:**
* ราคาของยางพาราในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
* บริษัทมีแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
* บริษัทมีอัตราส่วน D/E ที่ต่ำ สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท
* วงจรเงินสดต่ำ แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสด
* บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพยางพาราให้ได้มาตรฐาน
**ความเสี่ยง:**
* อุตสาหกรรมยางพารายังคงเผชิญกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบและอัตราแลกเปลี่ยน
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูง อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ
* สภาวะเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการยางพารา
* บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ แสดงว่าบริษัทอาจต้องพึ่งพาเงินกู้เพื่อดำเนินธุรกิจ
**หมายเหตุ:** การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล และไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
(16.66%)
(26.18%)
(58.82%)
(42.58%)
(64.75%)
(12.88%)
(8.81%)
(16.59%)
(270.89%)
(28.45%)
(166.77%)
(6.83%)