สรุปงบล่าสุด TOA

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TOA) และวิเคราะห์โอกาสการลงทุน (อัปเดตล่าสุด)
ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร รวมถึงผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวอื่นๆ สำหรับลูกค้าทั่วไป ในปี 2567 บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดยังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ เน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอื่นนอกเหนือจากสีทาอาคาร เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างและยิปซัมบอร์ด ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงและมีความต้องการใช้งานที่หลากหลาย ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินครั้งที่ 2 และผู้บริหารระดับสูงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและความโดดเด่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุดในไตรมาส 4 ปี 2567 รายได้จากการขายอยู่ที่ 5,232.3 ล้านบาท ลดลง 9.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 34.0% กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 450.7 ล้านบาท ลดลง 17.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับผลการดำเนินงานตลอดปี 2567 รายได้จากการขายอยู่ที่ 21,140.1 ล้านบาท ลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2,808.1 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 1,671.9 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ลดลงเหลือ 1,919.6 ล้านบาท ลดลง 25.3% เมื่อเทียบกับปี 2566 ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม พบว่า D/E Ratio ค่อนข้างคงที่ที่ 0.44 ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานหลักลดลงเป็น 10.6%
นอกจากนี้ ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงงานของ TOA ได้รับรางวัล "Industry Green World Awards 2024" จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงานที่สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการได้รับการรับรอง "สถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน
การพิจารณาว่า TOA เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านประกอบกัน ราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 อยู่ที่ 16.74 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ค่า P/E ล่าสุดอยู่ที่ 12.11 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 1.7 เท่า ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นอาจมีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ล่าสุดอยู่ที่ 5.13% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน TOA ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ได้แก่ ความผันผวนของเศรษฐกิจ ภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม และต้นทุนวัตถุดิบที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง
**โอกาส:**
* การเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างและยิปซัมบอร์ด ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง
* การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม)
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น
* การจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
* การให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) ทำให้บริษัทฯ มีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นที่สนใจของนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
**ความเสี่ยง:**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม อาจกดดันราคาและกำไร
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต
* ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากมีรายได้จากต่างประเทศ
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ
ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น TOA การพิจารณาแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ และความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินโอกาสในการลงทุน
(3.24%)
(9.02%)
(3.43%)
(9.59%)
(0.18%)
(0.65%)
(5.36%)
(3.22%)
(139.85%)
(17.19%)
(17.60%)
(23.83%)