สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) (TNITY) มีผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ขาดทุนสุทธิ 9.01 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน 74.16 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 25.95 ล้านบาท เป็น 144.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 456.30 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากรายได้ธุรกิจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นจาก 2.69 ล้านบาท เป็น 13.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 384.76 เป็นผลจากการเพิ่มบุคลากรเพื่อให้บริการลูกค้าด้านการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

บริษัทวางแผนที่จะขยายธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจ และ ธุรกิจการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) เพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทมุ่งเน้นที่จะให้บริการแก่ลูกค้าที่มีความต้องการด้านการลงทุน และ บริการที่เกี่ยวข้องกับการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายย่อย ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตในอนาคต

TNITY มีราคาหุ้นเฉลี่ยในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 3.95 บาท ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนของตลาดและความเสี่ยงของธุรกิจ P/E ล่าสุดอยู่ที่ -100 และ P/BV อยู่ที่ 0.65 แสดงถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของธุรกิจ TNITY ในปัจจุบัน ผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และอัตราส่วนทางการเงินที่ต่ำ ส่งผลให้หุ้น TNITY มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความอดทนสูง และพร้อมรับความเสี่ยง การลงทุนใน TNITY ควรอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเน้นการเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่อาจจะผันผวนในระยะสั้น

**ข้อมูลเพิ่มเติม:**

* **สินทรัพย์รวม** ลดลงจากเมื่อสิ้นปี 2566 ที่มีจำนวน 800.32 ล้านบาท โดยแบ่งได้ดังนี้
* **เงินลงทุนชั่วคราว** จํานวน 287.60 ล้านบาท ลดลงจาก 429.88 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2566
* **เงินลงทุนระยะยาว** จํานวน 240.14 ล้านบาท ลดลงจาก 293.85 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2566
* **เงินลงทุนในการร่วมค้า** ซึงได้บันทึกโดยวิธีส่วนได้เสียจํานวน 57.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 50.12 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2566
* **เงินลงทุนในบริษัทร่วม** ซึงได้บันทึกโดยวิธีส่วนได้เสียจํานวน 25.80 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก 26.647 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2566
* **เงินให้กู้ยืมระยะสั้นอื่น** ของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีจำนวน 902.26 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.64 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อสิ้นปี 2566 ที่มีจำนวน 872.38 ล้านบาท
* **หนี้สินรวม** ลดลงจากหนี้สินรวมเมื่อสิ้นปี 2566 ที่มีจำนวน 4,120.90 ล้านบาท โดยหลักมาจากเงินกู้ยืมรวมลดลงจาก 3,617.80 ล้านบาทเมื่อสิ้นปี 2566 เป็น 3,156.60 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ซึงรวมเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจํานวน 1,235 ล้านบาท หุ้นกู้ระยะสั้นจํานวน 1.919.60 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการชําระราคา เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และเงินให้กู้ยืมอื่นในระหว่างไตรมาส
* **อัตราส่วนทางการเงิน**
* หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity) = 15.13 เท่า
* หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อกําไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่า ตัดจําหน่าย (Interest bearing debt to EBITDA ratio) = 19.67 เท่า
* ความสามารถในการชําระดอกเบี้ย (Interest Coverage ratio) = 1.77 เท่า
* ความสามารถในการชําระภาระผูกพัน (Debt Coverage ratio) = 0.08 เท่า

**สรุปโอกาสการลงทุน:**

จากข้อมูลที่สรุปได้ TNITY เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความอดทนสูง และพร้อมรับความเสี่ยง การลงทุนใน TNITY ควรอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยเน้นการเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่อาจจะผันผวนในระยะสั้น

**ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุน:**

* ผลประกอบการของบริษัทที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
* อัตราส่วนทางการเงินที่ต่ำ
* ความเสี่ยงจากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสูง
* ความผันผวนของตลาดหุ้น
* ความเสี่ยงจากการฟ้องร้องคดีลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระ

**คำแนะนำ:**

ควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใน TNITY