TMT
บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ TMT มีผลขาดทุนสุทธิ 135.90 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งลดลง 268.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่ลดลง 0.87% เนื่องจากราคาเหล็กในประเทศจีนลดลง ซึ่งส่งผลต่อราคาขายเฉลี่ยในประเทศไทย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 6.25% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนเหลือเพียง 1.83% ในไตรมาส 3/2567 แม้ว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มปริมาณขายได้ 5.03% แต่การลดลงของราคาขายที่เกิดจากการแข่งขันกับเหล็กนำเข้าจากประเทศจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมต้นทุน

ในอนาคต บริษัทวางแผนที่จะเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุนและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัย และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น และเพิ่มผลกำไรให้สูงขึ้นในอนาคต

การวิเคราะห์โอกาสการลงทุนใน TMT จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พบว่าบริษัทมี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 15.55 P/BV อยู่ที่ 1.02 และ YIELD อยู่ที่ 7.69% ราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ประมาณ 4.52 บาท เมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัทมี D/E เท่ากับ 1.68 ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในระดับสูง แต่บริษัทมีวงจรเงินสดเป็นบวก แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ได้ แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ หมายถึง บริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี และมีการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง TMT จึงเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการรับเงินปันผล และคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของบริษัทได้

**โอกาส**
- บริษัทมีการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี และมีการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
- บริษัทมีการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
- บริษัทมีการพัฒนาบุคลากร และส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
- บริษัทมีวงจรเงินสดเป็นบวก แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้ได้

**ความเสี่ยง**
- ราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของบริษัท
- การแข่งขันในอุตสาหกรรมเหล็กที่รุนแรง อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท


รายได้รวม
5,070.72 ล้านบาท
308.22ล้านบาท
(6.47%)
ไตรมาสก่อนหน้า
45.38ล้านบาท
(0.89%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
92.62 ล้านบาท
172.46ล้านบาท
(65.06%)
ไตรมาสก่อนหน้า
225.81ล้านบาท
(70.91%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
1.83 ล้านบาท
3.74ล้านบาท
(67.15%)
ไตรมาสก่อนหน้า
4.39ล้านบาท
(70.58%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
225.50 ล้านบาท
32.12ล้านบาท
(16.61%)
ไตรมาสก่อนหน้า
32.49ล้านบาท
(16.83%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
4.45 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
-135.42 ล้านบาท
177.31ล้านบาท
(423.30%)
ไตรมาสก่อนหน้า
216.16ล้านบาท
(267.75%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
-2.67 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
2.09 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
-149.82 ล้านบาท
89.45ล้านบาท
(37.38%)
ไตรมาสก่อนหน้า
698.67ล้านบาท
(82.34%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล