สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 66.92 ล้านบาท ลดลง 15.83 ล้านบาท จากไตรมาส 3/2566 หรือลดลงร้อยละ 19.13 สาเหตุหลักมาจากการขาดรายได้จากงานโครงการสร้างสะพานเหล็กในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 27.21 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ที่ทำกำไรสุทธิ 42.37 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 279.49 ซึ่งเกิดจากการขาดทุนจากงานโครงการโรงงานคัดแยกขยะ 200 ตัน/วัน กับบริษัท อู่ทอง พลาสม่า เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จำนวน 20.38 ล้านบาท และผลขาดทุนจากบริษัท ปาลมายร่า บีอิง จำกัด จำนวน 3.90 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินกิจการคลินิก

บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการนำวัสดุเหลือทิ้งจากครัวเรือนและภาคการเกษตรมาสร้างนวัตกรรม ที่มุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โดยการร่วมมือกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์ ในการผลิตสินค้าต้นแบบ เช่น เครื่องผลิตน้ำมันไพโรไลซิสจากขยะพลาสติก เตาเพื่อผลิตไบโอชาร์ และเครื่องย่อยเชื้อเพลิงอัดแท่ง บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการ สำหรับปี 2568 อยู่ที่ 400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

การพัฒนาธุรกิจใหม่ และการร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์ สร้างโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 จะขาดทุนสุทธิ แต่หากพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง พบว่า D/E ต่ำกว่า 1 หรือ 0.19 แสดงถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง P/E ล่าสุดอยู่ที่ 47.74 สูงกว่า 35 สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนที่สูงต่อการเติบโตของธุรกิจ และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.87 ซึ่งต่ำกว่า 1 บ่งชี้ว่าราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสต่อไปอย่างใกล้ชิด และพิจารณาถึงความเสี่ยง ดังนี้:

- **ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน:** ตลาดเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค มีความแข่งขันสูง บริษัทฯ อาจเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ
- **ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี:** เทคโนโลยีด้านเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ อาจต้องปรับตัวและลงทุนเพื่อติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ
- **ความเสี่ยงด้านการลงทุน:** บริษัทฯ มีการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยง และอาจไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

โดยสรุปแล้ว TMC เป็นหุ้นที่มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในระยะยาว พร้อมรับความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่สนใจธุรกิจนวัตกรรม และธุรกิจสีเขียว