สรุป OPPDAY หุ้น TGE
Oppday
สรุป OPPDAY
โอ้โห! TGE โชว์วิสัยทัศน์ปี 2568, ปักหมุดขยายธุรกิจพลังงานสะอาดเต็มสูบ!
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):ผลกระทบเชิงบวก:
- ความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมพรและราชบุรีเป็นไปตามแผน
- การได้รับอนุมัติโครงการท่าจีน (โครงการที่ 5) ในการทำโรงไฟฟ้าขยะชุมชน
- การได้รับรางวัลต่างๆ ในโครงการของ ESG
ผลกระทบเชิงลบ:
- รายได้น้อยกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย (1.3%)
- Gross profit น้อยกว่าปีที่แล้ว (5.4%)
- EBITDA น้อยกว่าปีที่แล้ว (7.7%)
- Net profit น้อยกว่าปีที่แล้ว (9.5%)
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ:
- การระดมทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
- การขยายธุรกิจไปบริหารจัดการโรงไฟฟ้าชนิดอื่น (โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส)
- การเปลี่ยนแปลงตัวเชื้อเพลิงจากรากไม้เป็นขยะชุมชน
ตัวเลขทางการเงินและสถิติ:
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- กำลังการผลิตรวมของโรงไฟฟ้าชีวมวล: 29.7 เมกะวัตต์
- กำลังการผลิตรวมของโรงไฟฟ้าขยะที่กำลังพัฒนา: 46.8 เมกะวัตต์
- เป้าหมายกำลังการผลิตรวมในอนาคต: 76.5 เมกะวัตต์
- Gross Profit Margin: 35.4%
- Net Profit Margin: 25.2%
- Return on Assets: 6.5%
- Return on Equity: 8.5%
โอกาสทางธุรกิจ:
- การขยายโรงไฟฟ้าขยะชุมชนไปยังภูมิภาคต่างๆ
- การเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามแผน PDP ของภาครัฐ
- การจำหน่ายคาร์บอนเครดิตและ I-REC
- การเพิ่มมูลค่าของขี้เถ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชน
กลยุทธ์ในการคว้าโอกาส:
- การศึกษาและเปลี่ยนตัวเชื้อเพลิงเป็นขยะชุมชน
- การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการน้ำเสียและก๊าซมีเทน
- การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI
ตลาดใหม่/กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย:
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ต้องการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset)
- ผู้ประกอบการที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด
ความเสี่ยง:
- ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง
- ความล่าช้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐ
- การแข่งขันในตลาดพลังงาน
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
- ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น
- การรับรู้รายได้ล่าช้า
- ผลตอบแทนจากการลงทุนลดลง
แผนการรับมือกับความเสี่ยง:
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การทำสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงระยะยาว
- การบริหารจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
- การติดตามและปรับตัวตามนโยบายภาครัฐ
- การสร้างความแตกต่างและรักษาความสามารถในการแข่งขัน
วิธีการแก้ไขปัญหา:
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า
- การลดต้นทุนในการดำเนินงาน
- การขยายฐานลูกค้าและช่องทางการจำหน่าย
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
แผนการดำเนินการ:
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- การปรับปรุงกระบวนการผลิต
- การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
- การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
- การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา
แนวโน้มของธุรกิจ:
- การเติบโตของตลาดพลังงานหมุนเวียน
- ความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น
- การสนับสนุนจากภาครัฐและสังคม
วิสัยทัศน์และเป้าหมาย:
- การเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน
- การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
- การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เทคโนโลยีใหม่/นวัตกรรม:
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่มในนาทีที่ 33:22]
- การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการจัดการขยะ
- การพัฒนาคาร์บอนเครดิต
- การเพิ่มมูลค่าจากของเสีย
คำถาม 1: บริษัทมีแผนจะดำเนินธุรกิจอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และช่องทางการเติบโตหรือไม่?
คำตอบ: มีแผนที่จะเพิ่มมูลค่าของขี้เถ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชน และจำหน่ายคาร์บอนเครดิต
คำถาม 2: คาดการณ์โรงไฟฟ้าที่ชุมพรและราชบุรีจะเริ่มรับรู้รายได้ที่ไตรมาสไหน และใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเดินเครื่องได้ Capacity ที่ต้องการ?
คำตอบ: คาดว่าจะ COD ปลายปีหน้า (Q4) และใช้เวลาประมาณ 30 วันหลัง COD เพื่อเดินเครื่องเต็ม Capacity
คำถาม 3: ตอนรับรู้ Debt หนี้ของโรงไฟฟ้าแต่ละโรง จะรับเข้ามาประมาณเท่าไหร่?
คำตอบ: ประมาณ 60-70% ของเงินลงทุน โดยจะทยอยรับรู้เมื่อมีการก่อสร้างและมี Progress เกิดขึ้น
คำถาม 4: คาร์บอนเครดิตสามารถเข้ามาเป็นรายได้ที่มีนัยยะสำคัญกับรายได้ของ TGE ได้ไหม?
คำตอบ: มีศักยภาพที่จะเป็นรายได้ที่มีนัยยะสำคัญ แต่ปัจจุบันยังน้อย และบริษัทกำลังศึกษาและเพิ่มมูลค่าคาร์บอนเครดิต
ชื่อหัวข้อ Q&A:
- แผนธุรกิจใหม่และอนาคต
- คาดการณ์ COD และ Capacity
- การรับรู้ Debt และผลกระทบ
- ศักยภาพของคาร์บอนเครดิต
โดยสรุป, TGE ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเป็นหัวหอกสำคัญในการเติบโต นอกจากนี้, บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต และการเพิ่มมูลค่าของเสียจากกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว