TASCO
บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

TASCO ฝ่าพายุฝน! สรุป Oppday Q3/2566: โอกาสและความท้าทายในตลาดยางมะตอย

สรุปผลการดำเนินงานและแนวโน้มธุรกิจของ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ในไตรมาส 3 ปี 2566 พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ผลกระทบเชิงลบ:
    • ช่วง Low Season ในตลาดในประเทศ: ความต้องการยางมะตอยลดลงเนื่องจากฝนตกหนักในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม
    • ราคา Index Price ในตลาดต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง: ทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง
    • การแข่งขันด้านราคาในตลาดต่างประเทศ: คู่แข่งลดราคาเพื่อเคลียร์สต็อกเก่า
  • ผลกระทบเชิงบวก:
    • ธุรกิจก่อสร้างยังไปได้ดี: มี Backlog รวมกันอยู่ที่ 6,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างถนน
  • ตัวเลขทางการเงินและสถิติ:
    • ยอดขายยางมะตอยในไตรมาส 3 ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน
    • รายได้จากการขายยางมะตอยลดลง 30% ถ้าเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน
    • Operating Gross Profit ลดลง 67% ถ้าเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • อานิสงส์จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล: จำนวน 47,500 ล้านบาท ทำให้มีความต้องการยางมะตอยเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3
  • ตลาดต่างประเทศน่าจะ Rebound กลับมาได้: โดยเฉพาะตลาดเวียดนามและกัมพูชา
  • การทำ Solar Roof ที่โรงงานในประเทศ: ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจาก Grid ได้ประมาณ 40%
  • การได้รับรางวัล Green Industry ระดับ 5: แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ความเสี่ยงด้านการตลาด: ฝนตกต่อเนื่องทำให้ความต้องการยางมะตอยชะลอตัว และราคาปรับตัวลดลงตามราคาตลาด
  • ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน: การแข่งขันด้านราคาจากคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ
  • ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน: รายได้ที่ลดลงจากกลุ่มธุรกิจยางมะตอยและกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • การจัดหาน้ำมันดิบ: พยายามจัดหาน้ำมันดิบให้ได้ 1 Cargo ก่อนสิ้นปี เพื่อลดต้นทุน
  • การหา Supplier รายใหม่: หา Supplier ยางมะตอยจากที่อื่นเพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
  • การโฟกัส Premium Product: เน้นการขายสินค้า Premium ในตลาดในประเทศและต่างประเทศ
  • การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย: ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างเข้มงวด

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • ปีหน้ายังอยู่ใน Cycle ปกติ: ยังไม่เห็นเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในตลาดในประเทศ
  • การเลือกตั้ง: ต้องติดตามการยุบสภาและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ
  • ตลาดต่างประเทศน่าจะดีขึ้น: โดยเฉพาะเวียดนามยังมีโครงการต่อเนื่องในการสร้างทางด่วน
  • การขยายตลาด Premium Product: ใน Retail ประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 27.38]

  1. Utilization Rate ของโรงกลั่น:
    • ปัจจุบัน: 20-25%
    • Economy of Scale: ต้อง 60%
  2. ค่าเสื่อมราคาโรงกลั่น:
    • 15-30 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภท Machine หรือหอกลั่น)
  3. อัปเดตการซื้อน้ำมันดิบ:
    • เจรจาอยู่ คาดว่าจะได้น้ำมันดิบ อาจจะได้จากเอกวาดอร์ หรือที่อื่น
  4. Backlog ในงานก่อสร้าง:
    • 6,600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีละ 2-3 พันล้านบาท
  5. การหยุดดำเนินการโรงงานในไทย:
    • โรงงานที่ระยอง หยุดถาวร อยู่ใน Stage ของ Winding Down
    • คาดว่าจะไม่มีการด้อยค่า หรือถ้ามีก็ไม่ Material
  6. แนวโน้ม GP ไตรมาส 4:
    • น่าจะดีกว่าไตรมาส 3 เพราะไตรมาส 3 ฝนตก Demand น้อย
  7. ผลกระทบจากกัมพูชา:
    • มีผลกระทบบ้าง แต่ยังขายได้อยู่ ไม่เยอะ
  8. รายได้เพิ่มเติมจากโรงงานอินโดนีเซีย:
    • หลักร้อยล้าน (ถ้าทำได้ตามแผน)
  9. สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ (Top 5 Customers):
    • นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, กัมพูชา
    • รวมกันประมาณ 30%
  10. เรือบรรทุกน้ำมันลำใหม่:
    • คาดว่าจะได้ Q3 ปีหน้า ค่าใช้จ่ายไม่น่าจะเพิ่ม
    • ลำใหญ่ขึ้น ปริมาณการขนส่งเหมาะสม ประหยัดต้นทุนต่อตันมากขึ้น
  11. ทิศทางธุรกิจปีหน้า:
    • ตลาดในประเทศ: Cycle ปกติ ยังไม่เห็นงบกระตุ้น (อาจจะไม่ดีเท่าปีนี้)
    • ตลาดต่างประเทศ: น่าจะดีขึ้น (เวียดนามมี Project ต่อเนื่อง)
    • อินโดนีเซีย: Budget Delay คาดว่าจะเริ่ม Q1 ปีหน้า
    • กัมพูชา/ลาว: ยังขายได้อยู่
  12. การแข่งขันด้านราคา:
    • น้ำมันดิบ: ช่วยให้มีความสามารถในการทำกำไร
    • Supplier: หา Supplier รายใหม่
    • Premium Product: โฟกัส Premium Product
    • R&D: ทำ R&D เพื่อลดต้นทุน
  13. ปัจจัยที่มีผลต่อราคายางมะตอย:
    • น้ำมันดิบ, น้ำมันเตา (Alternative)
    • งบประมาณของแต่ละประเทศ
    • การเมือง
    • แผนเศรษฐกิจ 5 ปี
  14. สนามบินอู่ตะเภา:
    • มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขาย (ถ้าผู้ชนะประมูลสนใจร่วมงาน)

โดยสรุป TASCO ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศและราคาตลาด แต่บริษัทก็มีโอกาสในการเติบโตจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการใหม่ๆ และการขยายตลาด Premium Product การบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในอนาคต