สรุปงบล่าสุด TASCO
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) (TASCO) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 TASCO มีรายได้รวม 6,521 ล้านบาท ลดลง 28.3% เมื่อเทียบกับ 9,099 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 และเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับ 6,510 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2568 กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 180 ล้านบาท ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 735 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 75.5%) และ 400 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า (ลดลง 55.1%) สาเหตุหลักมาจากกำไรที่ลดลงของบริษัทย่อยในภูมิภาค เนื่องจากดัชนีราคาขายลดลง 20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ประกอบกับฝนที่ตกมากกว่าปกติ ทำให้ยอดขายลดลง โดยเฉพาะในประเทศไทยและเวียดนาม (หน้า 1)
สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 20,193 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.0% จาก 20,397 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% จาก 841 ล้านบาทในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้บันทึกการกลับรายการการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 79 ล้านบาทจากการรับชำระจากลูกหนี้ที่มียอดค้างชำระนาน (หน้า 1)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในเอกสาร)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขายและบริการ (ยางมะตอย):** ลดลง 30% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 เนื่องจากปริมาณการขายและราคาขายที่สูงกว่าปกติในปีก่อนหน้า จากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณในครึ่งปีแรกของปี 2567 (หน้า 1-2)
* **รายได้จากธุรกิจก่อสร้าง:** ลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 เนื่องจากการใกล้เสร็จสมบูรณ์ของโครงการก่อสร้างทางวิ่งที่ 3 และโครงการงานปรับปรุงคุณภาพดินบริเวณลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (หน้า 2)
* **ต้นทุนขายและบริการ:** คิดเป็น 93% ของรายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้นจาก 84% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากราคาขายยางมะตอยที่ลดลงตามดัชนีราคาขายในตลาดภูมิภาค นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีปริมาณความต้องการยางมะตอยในประเทศไทยสูงกว่าปกติ ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า (หน้า 2)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร:** ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* **กำไรขั้นต้น:** ลดลง 66.83% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 และลดลง 36.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 1)
* **กำไรสุทธิ:** ลดลง 75.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 และลดลง 55.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 1)
* **EBITDA:** ลดลง 59.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 และลดลง 33.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (หน้า 1)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 มีจำนวน 23,497 ล้านบาท ลดลง 292 ล้านบาทเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของลูกหนี้การค้าจากการชำระหนี้ที่เกินกำหนดชำระบางส่วน รวมถึงการบันทึกค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์ (หน้า 3)
* **หนี้สินรวม:** ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 มีจำนวน 8,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 556 ล้านบาทเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน (หน้า 3)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (D/E Ratio):** อยู่ที่ 0.54 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ที่ 0.48 (หน้า 3)
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (IBD/E Ratio):** อยู่ที่ 0.24 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ที่ 0.19 (หน้า 3)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* บริษัทฯ ได้หยุดการดำเนินงานของโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานและต้นทุน และได้บันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินทุนที่ 207 ล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบเฉพาะงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเฉพาะกิจการ (หน้า 2)
* โรงงานผลิตยางมะตอย Polymer Modified Asphalt ที่เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย ได้เริ่มการผลิตในเดือนกันยายน เพื่อรองรับความต้องการยางมะตอยเกรดพิเศษที่เพิ่มขึ้น (หน้า 3)
* รัฐบาลได้อนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงงบประมาณพิเศษสำหรับงานซ่อมบำรุงถนน คาดว่าจะทำให้ความต้องการยางมะตอยในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ (หน้า 3)
* บริษัทฯ ได้รับรางวัลโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Industry Award Level 5 หรือ GI5) สำหรับโรงงานนครราชสีมาและโรงงานสุราษฎร์ธานี (หน้า 4)
* บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับระดับ 5 ดาวหรือ “ดีเลิศ” จากรายงานการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2568 (หน้า 4)
(0.16%)
(28.33%)
(28.80%)
(62.07%)
(28.91%)
(47.09%)
(9.80%)
(19.85%)
(55.09%)
(75.51%)
(98.71%)
(24.84%)