สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) (TAE) : ผลประกอบการไตรมาส 2/2567

บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) (TAE) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 รายได้รวม 771.50 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.67% เนื่องจากปริมาณการขายเอทานอลและสารปรับปรุงดินลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25.07 ล้านบาท หรือ 495.49% จากราคาจำหน่ายเอทานอลและสารปรับปรุงดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วัตถุดิบที่เก็บไว้ในโกดังสินค้าของบริษัทฯ ลุกไหม้ ส่งผลให้มีรายได้จากการขายวัตถุดิบจากเหตุการณ์ลุกไหม้เพิ่มเติม ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทผู้รับประกันภัย

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 2,976.97 ล้านบาท ลดลง 114.97 ล้านบาท หรือ 3.72% จากสิ้นปี 2566 โดยส่วนใหญ่มาจากสินทรัพย์หมุนเวียนที่ลดลง 36.85 ล้านบาท หรือ 7.55% และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ลดลง 78.12 ล้านบาท หรือ 3.00% บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 1,302.61 ล้านบาท ลดลง 135.64 ล้านบาท หรือ 9.43% จากสิ้นปี 2566 โดยส่วนใหญ่มาจากการชำระหนี้สินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 56.68 ล้านบาท และหนี้สินระยะยาว 78.70 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้น 20.67 ล้านบาท หรือ 1.25% จากสิ้นปี 2566 เนื่องจากมีกำไรสุทธิตามที่แจ้งข้างต้นแล้ว

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลแปลงสภาพ โดยมีเป้าหมายขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง และแนวโน้มการใช้เอทานอลในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น

## TAE : โอกาสลงทุนหรือไม่ ?

จากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 แม้รายได้ของ TAE จะลดลงเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ 12.02% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8.80% นอกจากนี้ ราคาหุ้น TAE ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผลประกอบการ โดย P/E ล่าสุดอยู่ที่ -100 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่ตื่นตัวกับกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทฯ ส่วน P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.43 ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง ทำให้ TAE มีราคาหุ้นที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม TAE มี D/E ที่ 0.87 แสดงถึงภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงหากบริษัทฯ ต้องการขยายขนาดของกิจการหรือลงทุนในโครงการใหม่ ๆ และแม้ว่าบริษัทฯ จะมีวงจรเงินสด (Cash Cycle) ที่ 41.25 วัน แต่การที่มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเพียง 690.86 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ 94.45 ล้านบาท อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของการลงทุนในอนาคต

## โอกาสและความเสี่ยง

**โอกาส**

* **ราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ** ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อได้ในราคาที่น่าสนใจ
* **กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น** แม้รายได้จะลดลง สะท้อนถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
* **ราคาเอทานอลปรับตัวสูงขึ้น** หนุนอัตรากำไรขั้นต้นให้เติบโต
* **แนวโน้มการใช้เอทานอลในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น** ช่วยผลักดันรายได้ในอนาคต

**ความเสี่ยง**

* **ภาระหนี้สินค่อนข้างสูง** อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจ
* **การลุกไหม้ในโกดังสินค้า** ส่งผลต่อความสามารถในการผลิต
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ** อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในการลงทุนในอนาคต

TAE เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีความอดทนสูง และมองหาโอกาสการเติบโตในอนาคตจากแนวโน้มการใช้เอทานอลในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด และประเมินความเสี่ยงจากภาระหนี้สินและการลงทุนในอนาคตอย่างรอบคอบ