SYNEX
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

SYNEX โชว์ผลงาน Q3/2568 ทะยาน! เจาะลึกกลยุทธ์และโอกาสเติบโตในอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมผลการดำเนินงานของ SYNEX ในไตรมาส 3 ปี 2568 เป็นไปในทิศทางบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจาก:

  1. การเติบโตของรายได้ (Revenue) ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ (Quarter High) แตะ 12,116 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13%
  2. แรงขับเคลื่อนหลัก (Growth Engine) มาจากกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ (Phone) และอุปกรณ์สวมใส่ (Variable) ซึ่งเติบโตถึง 67% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
  3. การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ (Cost Efficiency) ส่งผลให้ SG&A (Selling, General and Administrative Expenses) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Quarter-to-Quarter) อยู่ที่ 2.2%
  4. ผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัทลูก (Profit Sharing) ที่เป็นไปในทิศทางบวก
  5. การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ (Kick-Off) ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม (Environment) เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Health Section)

แม้ว่าภาพรวมจะเป็นบวก แต่มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ กลุ่มสินค้า Consumer มีการเติบโตที่ลดลงเล็กน้อย (ติดลบ 2%) เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

ตัวเลขสำคัญ:

  1. รายได้รวม (Revenue): 12,116 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13%)
  2. SG&A: 2.2%
  3. การเติบโตของกลุ่มสินค้า Phone และ Variable: 67%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

SYNEX มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในหลายด้าน:

  1. การเติบโตของตลาดสินค้า Apple: SYNEX ยังคงเป็น Key Engine หลักในการเติบโตของรายได้
  2. การขยายตลาดไปยังกลุ่มสินค้า Non-Phone: เช่น MacBook, iPad, และอุปกรณ์เสริม (Accessories)
  3. การเติบโตของตลาด Gaming: โดยเฉพาะหลังจากที่ SYNEX ได้เป็น Exclusive Distributor ของ Nintendo Switch ในประเทศไทย
  4. การเติบโตของตลาด Solution: ทั้ง IT Commercial และ Enterprise Solution โดยเฉพาะกลุ่ม Energy Solution และ Cloud
  5. การลงทุนใน Infrastructure: เพื่อปรับปรุง Process และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

SYNEX กำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:

  1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว: ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Consumer
  2. ปัญหา Supply Chain: โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า VGA Card และ Storage ที่มีความต้องการสูงจาก Data Center
  3. ความผันผวนของค่าเงินบาท: มีผลกระทบต่อต้นทุนนำเข้าสินค้า
  4. การเปลี่ยนผ่านของรัฐบาล: อาจส่งผลกระทบต่อ Project ในกลุ่ม IT Commercial
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

SYNEX มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:

  1. การปรับ Portfolio สินค้า: มุ่งเน้นสินค้าที่มี Growth Momentum และตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
  2. การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ: ควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A และเพิ่ม Profit Sharing จากบริษัทลูก
  3. การทำ Supply Planning ล่วงหน้า: เพื่อให้มั่นใจว่ามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
  4. การทำ Natural Hedge: ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท
  5. การขยายตลาดไปยัง Private Sector: ลดผลกระทบจากความล่าช้าของ Project ภาครัฐ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

SYNEX มองเห็นแนวโน้มและโอกาสในอนาคตดังนี้:

  1. การเติบโตของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Health and Wellbeing: เช่น Smartwatch ที่สามารถ Pull-In Data ด้านสุขภาพ
  2. การเติบโตของตลาด 3D Printing: ทั้งในภาคเอกชนและ End User ทั่วไป
  3. การเติบโตของ Smart and Sustainability Living: โดยการ Integrate Smart Home, Security, และ Energy Solution
  4. การเติบโตของ Gaming and Creator Section: จากอาชีพใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น YouTuber และ Content Creator
  5. การเติบโตของ Cloud Infrastructure: รองรับการมาของ Hyper Scaler และการทำ Remodernization Data Center ขององค์กรต่าง ๆ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 40:00]
  1. Q: กำไรสุทธิในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 17.3% สาเหตุหลักมาจากอะไร และมีสินค้าหรือกลุ่มใดที่เติบโตโดดเด่น?

    A: การเติบโตมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและผลประกอบการที่ดีขึ้น รวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมที่ทำให้ Net Profit เพิ่มขึ้น

  2. Q: เทรนด์ AI, Smart Device, Cloud มีบทบาทในผลประกอบการอย่างไร และมีแผนผลักดันอย่างไรในอนาคต?

    A: เทรนด์เหล่านี้อยู่ใน Pillar หลักที่ SYNEX ขับเคลื่อนในปี 2568-2569 และ SYNEX จะยังคงสร้าง Platform Solution ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

  3. Q: ไตรมาส 4 เป็นช่วง High Season ของตลาด IT และ Smartphone, SYNEX รับมืออย่างไร และมีมาตรการกระตุ้นการขายเพิ่มเติมหรือไม่?

    A: SYNEX ทำงานร่วมกับ Partner อย่างใกล้ชิดเพื่อออก Campaign ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัด Clearance Sale และ Festive Campaign นอกจากนี้ SYNEX ยัง Monitoring Supply อย่างใกล้ชิด

  4. Q: ไตรมาส 4 นี้มีความท้าทายหรือมีผลกระทบอย่างไร?

    A: ไตรมาส 4 เป็นช่วง High Season และคาดว่าจะเติบโตมากกว่าไตรมาส 3

  5. Q: บริษัทมีแผนการขยาย After Sale Service Solution หรือนวัตกรรมอื่น ๆ หรือไม่?

    A: SYNEX เป็นบริษัทแรก ๆ ในการ Promote Campaign ภายใต้สินค้า Trusted by SYNEX และกำลังทำ Re-amp Campaign Customer Relationship Management ซึ่งจะ Low Out ในช่วงต้นปีหน้า

  6. Q: มีมาตรการหรือการร่วมมือกับ Partner ใหม่ ๆ อย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน?

    A: SYNEX ยังคงหา Partner ใหม่ ๆ ตาม Pillar ที่จะเติบโตทั้ง 4 เรื่องหลักอย่างต่อเนื่อง

  7. Q: แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 เป็นอย่างไร โดยรวมแล้วมีปัจจัยอะไรบ้าง?

    A: ในไตรมาส 4 ยังคงจะมีการเติบโตมากกว่าไตรมาส 3 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ

  8. Q: แนวโน้มสินค้า ราคา สินค้าบางที่ที่น่าจะขึ้น มี Stock รองรับไว้มากแค่ไหน และราคาขึ้นแรงจะปรับราคาแบบ Cost Plus ได้ไหม?

    A: SYNEX มีการบริหาร Stock Level ที่เหมาะสม และทำ Supply Planning กับผู้ผลิตล่วงหน้า นอกจากนี้ SYNEX จะใช้ระบบ Cost Plus ในการปรับราคาตาม Demand และ Supply ที่เกิดขึ้นใน Market

  9. Q: ช่วงนี้การ์ดจอและ Notebook เริ่มขาดตลาด ในไตรมาส 4 Margin จะดีขึ้นหรือไม่?

    A: สินค้าในกลุ่มการ์ดจอ, Notebook, และ Hard Drive เริ่มมีภาวะ Short Trade ซึ่งจะทำให้ Margin Improve ขึ้นใน Category เหล่านั้น

  10. Q: ขอสอบถามมุมมองของบริษัทต่อเทรนด์ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีจากจีน โดยเฉพาะมือถือที่กำลังมีสัดส่วน Market Share เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ?

    A: SYNEX มองว่าผู้ผลิตจากจีนมีความล้ำหน้าในเชิงเทคโนโลยี และหลายรายก็เป็น Partner ของ SYNEX อยู่แล้ว SYNEX จะพูดคุยกับ Partner เหล่านั้นอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษา Market Share และทำหน้าที่เป็น Value Added Distributor อย่างต่อเนื่อง

  11. Q: ปัญหาการขาดตลาดของการ์ดจอ เพิ่ม GPM และ Net Profit ให้กับ SYNEX ในไตรมาส 4 หรือไม่?

    A: จะมีสัดส่วนที่จะเพิ่ม Profit ให้กับ SYNEX แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Portion ของสินค้า และ Market Demand กับ Supply

  12. Q: ขอ Guidance ของปี 2026?

    A: SYNEX อยู่ในช่วงของการเตรียมการทำ Budgetting ปีหน้า และคุณ สุธิดา จะมาให้ Guidance ด้วยตัวเองในการรายงานรอบถัดไป

  13. Q: ในภาพรวม กรณีที่ค่าเงินบาทแข็งหรืออ่อน จะ Favor ต่อบริษัทมากกว่า?

    A: ในฐานะที่เป็นบริษัทนำเข้า หากค่าเงินบาทแข็งก็จะมีผลบวกกับทางบริษัทมากกว่า

  14. Q: ในหมวดของ Variable และ Smartphone แยกเป็น Variable และ Phone สัดส่วนเป็นอย่างไรบ้าง?

    A: หาก Set Aside ตัว Apple Business ออกไป สัดส่วนของตัว Variable จะมากกว่า 60%

  15. Q: ตัว Smartwatch เริ่มอิ่มตัวหรือยัง?

    A: Smartwatch ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ที่เอาไว้ดูนาฬิกาอย่างเดียวอีกต่อไป

  16. Q: ใน Q4 คาดว่า iPhone 17 จะมีผลต่อบริษัทเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์?

    A: SYNEX ยังคิดว่ายังเป็นไปตามที่ให้ Commitment ไว้กับทางตลาดอยู่

  17. Q: ปีนี้ที่ Smartphone เราโตเยอะ ๆ เป็นเพราะโปรแกรมผ่อนต่าง ๆ ที่มีเข้ามามากน้อยแค่ไหน?

    A: โปรแกรมผ่อนมีบทบาทอยู่แล้วในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ปัจจัยที่สำคัญมาจากการ Refresh Technology ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยน Application ต่าง ๆ

  18. Q: สินค้าขาดแคลนสินค้า Memory ส่งผลอย่างไรต่อเราบ้าง?

    A: SYNEX คงต้อง Balance Demand Supply ให้ดี และตอนนี้ยังส่งผลในเชิงบวกอยู่ เนื่องจาก Demand Supply ยังค่อนข้างใกล้เคียงกัน

  19. Q: SYNEX ได้เป็น Exclusive ของ Distributor ในเมืองไทยหรือไม่ และผ่านช่องทางใดบ้าง?

    A: SYNEX เป็น Main Distributor ของทาง Nintendo โดย Nintendo Work ทำงานคู่กับ SYNEX อย่างเป็น Official

โดยสรุป SYNEX ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปี 2568 และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มสินค้า Phone และ Variable, การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ, และการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม SYNEX ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ เช่น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหา Supply Chain ซึ่ง SYNEX มีแผนการรับมือและปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง