SVI
บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุปสั้น

SVI ปี 67 กำไรสุทธิพุ่ง 49.2% แตะ 1,379 ล้านบาท แม้รายได้รวมลดลง 3.4% กำไรที่เติบโต มาจากการฟื้นตัวของลูกค้า การบริหารจัดการประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลง SVI มีแผนขยายตลาดสหรัฐฯ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม MST ลดคำแนะนำ SVI เป็น ขาย ลดราคาเป้าหมาย, เนื่องจาก GPM อ่อนแอลงและขาดปัจจัยกระตุ้นการเติบโต

KS แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท มองว่า SVI ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อลูกค้าเดิมและใหม่ และได้ประโยชน์จากการย้ายฐานผลิต MST คาดการณ์กำไรหลักปี 68 ลดลง 4% และโตเพียง 6% CAGR ในช่วง 67-72 MST ลดประมาณการ GPM ปี 68 เหลือ 9.4% MST ใช้ DDM ประเมินราคาเป้าหมาย โดยมี COE 10.4% และ g 7.5%

ข้อมูลล่าสุด: P/E 11.42 เท่า, Yield 3.27%, ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA 7.74 บาท, Upside 5.25% จากโบรกเกอร์ 7 แห่ง


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) (SVI) ปี 2567: การเติบโตของกำไรท่ามกลางความท้าทายของรายได้

บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี รายงานผลประกอบการปี 2567 ที่น่าสนใจ โดยมีการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย

**1. สรุปรายได้รวมและกำไรสุทธิ:**

* **รายได้รวมปี 2567:** 21,912 ล้านบาท ลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับปี 2566 (22,691 ล้านบาท)
* **รายได้รวมไตรมาส 4/2567:** 5,342 ล้านบาท ลดลง 4.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 (5,567 ล้านบาท) แต่เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 (5,286 ล้านบาท)
* **กำไรสุทธิปี 2567:** 1,379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% เมื่อเทียบกับปี 2566 (924 ล้านบาท)
* **กำไรสุทธิไตรมาส 4/2567:** 325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 (165 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 47.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 (220 ล้านบาท)

**ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของกำไร:**

* **การฟื้นตัวของความต้องการลูกค้า:** ลูกค้าเริ่มฟื้นตัวจากปัญหาสินค้าคงคลังล้นตลาดในช่วงต้นปี 2567 ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงปี 2568
* **ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน:** การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น
* **ค่าเงินบาทอ่อนค่า:** ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงตลอดปี 2567 ส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้และกำไรเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาท
* **การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่:** การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น
* **การรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน:** การรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

แม้ว่ารายงานจะไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียด แต่การฟื้นตัวของความต้องการของลูกค้าและการอ่อนค่าของเงินบาทบ่งชี้ถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่อการดำเนินงานของบริษัท นอกจากนี้ การจัดตั้งโรงงานใหม่ในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นถึงการขยายตลาดและการลงทุนในอนาคต ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐฯ

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **รายได้จากการขาย:** แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย แต่ยอดขายในไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ระบบควบคุมอุตสาหกรรม และยานยนต์ยังคงเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลัก
* **กำไรขั้นต้น:** กำไรขั้นต้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับปี 2566 และกำไรขั้นต้นไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้น 17.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และ 14.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 8.1% ในปี 2566 เป็น 9.9% ในปี 2567
* **กำไรจากการดำเนินงาน:** กำไรจากการดำเนินงานปี 2567 เพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 และกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้น 29.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 13,934 ล้านบาท ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของสินค้าคงคลัง
* **หนี้สินรวม:** หนี้สินรวมอยู่ที่ 6,274 ล้านบาท ลดลง 14.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของเงินกู้ยืมธนาคารและเจ้าหนี้การค้า
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** ลดลงจาก 0.37 เท่าในไตรมาสก่อนหน้า เป็น 0.29 เท่า แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของบริษัท

**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**

รายงานไม่ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินสดโดยละเอียด อย่างไรก็ตาม การลดลงของหนี้สินและสินค้าคงคลังอาจบ่งชี้ถึงการบริหารจัดการกระแสเงินสดที่มีประสิทธิภาพ

**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**

* **ปัจจัยความเสี่ยง:** ความเสี่ยงที่สำคัญอาจรวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาท การแข่งขันในตลาด และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
* **โอกาสในการลงทุน:** โอกาสในการเติบโตอาจมาจากการขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

**7. สรุป:**

โดยสรุป SVI ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำไรสุทธิในปี 2567 แม้ว่ารายได้จะลดลงเล็กน้อย การเติบโตของกำไรได้รับแรงหนุนจากความต้องการของลูกค้าที่ฟื้นตัว ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ลดลง การจัดการความเสี่ยง การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ และกลยุทธ์การเติบโต จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคตของ SVI

**หมายเหตุ:** บทวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ


รายได้รวม
5,381.16 ล้านบาท
213.81ล้านบาท
(3.82%)
ไตรมาสก่อนหน้า
84.98ล้านบาท
(1.60%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
494.75 ล้านบาท
71.53ล้านบาท
(16.90%)
ไตรมาสก่อนหน้า
60.64ล้านบาท
(13.97%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
9.19 ล้านบาท
1.63ล้านบาท
(21.56%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.99ล้านบาท
(12.07%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
228.82 ล้านบาท
11.66ล้านบาท
(5.37%)
ไตรมาสก่อนหน้า
22.66ล้านบาท
(10.99%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
4.25 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
324.99 ล้านบาท
160.20ล้านบาท
(97.21%)
ไตรมาสก่อนหน้า
103.78ล้านบาท
(46.91%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
6.04 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
0.82 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
563.59 ล้านบาท
324.54ล้านบาท
(36.54%)
ไตรมาสก่อนหน้า
355.82ล้านบาท
(171.26%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล