สรุปงบล่าสุด SUPER
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER): ภาพรวมผลประกอบการและฐานะทางการเงิน ไตรมาส 3 ปี 2567
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) มีผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,251.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 526.28 ล้านบาท การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากรายการพิเศษอย่างการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย จำนวน 2,132.33 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากความสำเร็จในการมีพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศไทย กำลังการผลิตรวม 139.40 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 90% นอกจากนี้ บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท เพื่อรองรับการดำเนินงานในอนาคต ได้แก่ บริษัท เพชรบุรี กริน โฮลดิง จำกัด (เพชรบุรี) และ บริษัท ชะอํา กริน เอ็นเนอร์จี จำกัด (ชะอํา) โดยทั้งสองบริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานขยะ
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 74,064 ล้านบาท ลดลงจากสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จํานวน 7,640.56 ล้านบาท หรือลดลง 9.35% ส่วนใหญ่เกิดจากการนําเงินจากการขายหุ้นสามัญของกลุ่ม ธบพธินอพฟิจ ไปชําระคื่นหนี้สถาบันการเงิน ทำให้จํานวนเงินฝากที่ใช้เป็นหลักประกันลดลง นอกจากนี้ บริษัทมีหนี้สินรวม 50,993.15 ล้านบาท ลดลง 8,764.38 ล้านบาท หรือลดลง 14.67% เมื่อเทียบกับ ณ วันทิ 31 ธันวาคม 2566 ส่วนใหญ่เกิดจากการนําเงินจากการการขายเงินลงทุนใน ธบมอินอพชิด จ่ายชําระคืนเงินคู้และภาระหนีของกลุ่ม ธบพมหิน๐พยิจ ทีจะไม่ถูกนํามารวมในงบการเงินรวมของบริษัท ทำให้รายการเงินกุ้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินลดลง 6,299.27 ล้านบาท หรือ 23.70% ส่งผลให้โครงสร้างทางการเงิน ณ วันทิ 30 กันยายน 2567 อัตราส่วนหนี้สินต่อล่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 2.21 เท่า ซึงลดลงจากเดิม เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทีมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 2.72 เท่า ซึงยังเป็นไปตามเงื่อนไขทิบวิษัทให้ไว้แก่สถาบันการเงิน
บริษัทมีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตและเสถียรภาพด้านพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีเป้าหมายในการขยายกำลังการผลิตจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งการเติบโตของรายได้และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง โดยบริษัทได้เน้นลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนจากขยะ จากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20-25 ปี บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเรื่องโครงสร้างเงินทุน ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อลดภาระของดอกเบี้ยกลุ่มบริษัท สร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ สำหรับใช้ในการพัฒนาโครงการของกลุ่มบริษัท บริษัทมีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับบริษัทเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนควบคู่ไปด้วย
ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 ของ SUPER ถือเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัท แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) จะยังอยู่ในระดับสูงที่ 2.21 เท่า แต่บริษัทสามารถเพิ่มกำไรสุทธิได้อย่างมาก ในขณะที่ D/E ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่บริษัทก็สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ โดยบริษัทมีแผนที่จะควบคุมการก่อหนี้สินในอนาคตและลด D/E ให้ต่ำลง อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างมากของรายได้ กำไรสุทธิ และการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว ถือเป็นปัจจัยบวกที่แสดงถึงศักยภาพของบริษัทในอนาคต โอกาสการลงทุนใน SUPER จึงขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและโอกาสต่อไปนี้:
**โอกาส:**
* บริษัทมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนจากขยะ
* บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรมีความมั่นคง
* บริษัทมีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับบริษัทเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
* บริษัทมีการควบคุมต้นทุนทางการเงินได้ดี
**ความเสี่ยง:**
* อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ยังคงอยู่ในระดับสูง
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
* การแข่งขันในตลาดพลังงานทดแทนที่รุนแรง
* การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
SUPER เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนที่สนใจในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนอย่างรอบคอบ
(17.82%)
(14.21%)
(26.17%)
(15.39%)
(10.14%)
(1.37%)
(92.58%)
(948.56%)
(797.79%)
(578.71%)
(115.72%)
(130.28%)