สรุปงบล่าสุด STECH

บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการบริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (STECH) ปี 2567 และการวิเคราะห์ (ปรับปรุงข้อมูล)
บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า "STEC" รวมถึงให้บริการขนส่งและรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 โดยมีรายได้รวม 2,096.15 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.31 ล้านบาท ฝ่ายจัดการชี้แจงว่ารายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13.84% มาจากการส่งมอบงานในปริมาณที่สูงเมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักจากยอดสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือ ขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างโครงการลดลง 75.92% เนื่องจากงานโครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 และ 4 ทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากงานโครงการลดลงเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 20.85% จากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6.10% จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนพนักงาน และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 85.45% จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 5.72% เป็น 3,201.66 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,508.04 ล้านบาท หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.42% เป็น 1,693.62 ล้านบาท วงจรเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 97 วัน จากระยะเวลาเก็บหนี้และระยะเวลาขายสินค้าที่นานขึ้น อัตรากำไรสุทธิลดลงเป็น 5.60% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการจัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายบริหาร และต้นทุนทางการเงิน
STECH มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะรักษาระดับรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยเป้าหมายรายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน ฝ่ายจัดการยังคงระมัดระวังในการคาดการณ์เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก บริษัทมีนโยบายการเงินที่ระมัดระวัง โดยรักษาระดับหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ไว้ที่ 1.27 เท่า เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินและรองรับการลงทุนในอนาคต
การพิจารณา STECH เป็นโอกาสในการลงทุน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านประกอบกัน แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ แต่กำไรสุทธิกลับลดลงเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หุ้น STECH มีค่า P/E ล่าสุดที่ 5.59 และ P/BV ที่ 0.5 ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาหุ้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกำไรและมูลค่าทางบัญชีของบริษัท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีความผันผวนตามโครงการที่ได้รับและสภาพเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท
**โอกาส:**
* การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สนับสนุนความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีต
* STECH มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนาน ทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน
* ราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำ อาจเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
**ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ เช่น ปูนซีเมนต์และเหล็ก อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมคอนกรีต อาจกดดันราคาขาย
* ความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ อาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากงานก่อสร้างโครงการ
* ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีต
* อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินและกำไรสุทธิของบริษัท
(9.53%)
(7.31%)
(3.25%)
(6.83%)
(6.97%)
(15.24%)
(19.02%)
(22.65%)
(45.83%)
(45.88%)
(348.20%)
(1,289.73%)