สรุปงบล่าสุด SST

สรุปด้วย AI(O) BOT

**บทความสรุปผลประกอบการของ หุ้น SST บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 3 ปี 2568**

**1. สรุปรายได้รวม:**
บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประสบผลขาดทุนสำหรับงวดไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 276.23 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผลขาดทุน 134.30 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2567 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 106% ขาดทุนที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 157.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 93.86 ล้านบาทในปี 2567 หรือคิดเป็น 68% (อ้างอิง: หน้า 1)

รายได้จากการขายและให้บริการลูกค้าในส่วนงานต่างๆ มีดังนี้:
* ธุรกิจคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ: มีรายได้ 84 ล้านบาท ลดลง 10% จาก 93 ล้านบาทในปีก่อน
* ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม: มีรายได้ 470 ล้านบาท ลดลง 29% จาก 660 ล้านบาทในปีก่อน
* ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป: มีรายได้ 57 ล้านบาท ลดลง 19% จาก 70 ล้านบาทในปีก่อน
* รายได้อื่น ๆ: มีรายได้ 21 ล้านบาท ลดลง 22% จาก 27 ล้านบาทในปีก่อน (อ้างอิง: หน้า 1)

**2. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
ต้นทุนในการขายสินค้าลดลง 28% อยู่ที่ 218 ล้านบาท (จาก 302 ล้านบาทในปี 2567) สอดคล้องกับการลดลงของยอดขายในธุรกิจอาหาร สัดส่วนต้นทุนในการขายสินค้าต่อรายได้รวมอยู่ที่ 34.55% ในปี 2568 และ 35.57% ในปี 2567 ต้นทุนในการบริการลดลง 4% อยู่ที่ 55 ล้านบาท (จาก 57 ล้านบาทในปี 2567) โดยมีสัดส่วนต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 6.71% เป็น 8.72% (อ้างอิง: หน้า 1-2)

ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายลดลง 17% อยู่ที่ 341 ล้านบาท (จาก 410 ล้านบาทในปี 2567) เนื่องจากการลดลงของยอดขาย ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ค่าเช่า และค่าบริการลดลง สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 48.29% เป็น 54.04% ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 85% อยู่ที่ 102 ล้านบาท (จาก 55 ล้านบาทในปี 2567) เนื่องจากการตั้งด้อยค่าของสาขาที่ไม่ทำกำไร สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 6.48% เป็น 16.16% (อ้างอิง: หน้า 2)

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 82% อยู่ที่ 11 ล้านบาท (จาก 61 ล้านบาทในปี 2567) สัดส่วนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนต่อรายได้รวมลดลงจาก 7.18% เป็น 1.74% ค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 326% อยู่ที่ 145 ล้านบาท (จาก 34 ล้านบาทในปี 2567) ส่วนใหญ่มาจากการตั้งด้อยค่าและค่าใช้จ่ายในการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร สัดส่วนค่าใช้จ่ายอื่นต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 4.00% เป็น 22.98% (อ้างอิง: หน้า 2)

**3. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ลดลง 9% เหลือ 6,645 ล้านบาท (จาก 7,271 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567) เนื่องจากการนำเงินสดไปคืนหุ้นกู้และการเร่งเก็บหนี้และระบายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า หนี้สินรวมลดลง 4% เหลือ 4,617 ล้านบาท (จาก 4,809 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567) ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 18% เหลือ 2,028 ล้านบาท (จาก 2,462 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567) จากผลการดำเนินงานที่ขาดทุน อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (D/E Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 1.95 เท่า เป็น 2.28 เท่า (อ้างอิง: หน้า 2)

**สรุปประเด็นสำคัญ:**
บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) ประสบผลขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3 ปี 2568 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายในการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร แม้ว่าบริษัทฯ จะสามารถลดหนี้สินรวมลงได้ แต่การลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น (อ้างอิง: หน้า 1-2)