สรุปงบล่าสุด SPVI

บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ SPVI: ไตรมาส 4/2567 และภาพรวมปี 2567
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI ในไตรมาส 4/2567 (ตุลาคม-ธันวาคม) และภาพรวมผลการดำเนินงานตลอดปี 2567 โดยเน้นในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเทคโนโลยี
**1. สรุปรายได้รวมและกำไรสุทธิ**
* **รายได้รวม:** ในไตรมาส 4/2567 SPVI มีรายได้รวม 1,862.71 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1,898.41 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ภาพรวมทั้งปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,831.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.91% จากปี 2566 (6,770.05 ล้านบาท)
* **กำไรสุทธิ:** ไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 13.26 ล้านบาท ลดลง 29.43% จากปีก่อน (18.79 ล้านบาท) ส่วนภาพรวมทั้งปี 2567 มีกำไรสุทธิ 48.39 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 51.70% จากปี 2566 (100.19 ล้านบาท)
**ปัจจัยที่มีผลต่อรายได้และกำไร:**
* **การเติบโตของรายได้:** ถึงแม้รายได้รวมทั้งปีจะเติบโตเล็กน้อย แต่การเติบโตหลักมาจากช่องทาง iStudio และออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ iPhone ที่ยังคงได้รับความนิยม
* **การลดลงของรายได้:** รายได้ในไตรมาส 4 ลดลงเนื่องจากขาดงานโครงการขนาดใหญ่ในช่องทาง B2B (Business-to-Business) เมื่อเทียบกับปีก่อน
* **ผลกระทบต่อกำไร:** อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเนื่องจากสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ iPhone เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา, การเช่าสำนักงานใหญ่แห่งใหม่, และค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สูงขึ้นจากการเติบโตของยอดขายออนไลน์
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในบทความที่ให้มา)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **รายได้จากการขาย:** รายได้จากการขายเป็นส่วนใหญ่ของรายได้รวม (98.97% ในปี 2567) และเพิ่มขึ้น 1.45% เมื่อเทียบกับปีก่อน
* **รายได้จากการบริการ:** รายได้จากการบริการมีสัดส่วนน้อย (0.34% ในปี 2567) และลดลงอย่างมากถึง 63.77% เมื่อเทียบกับปีก่อน
* **ต้นทุนขาย:** ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 1.55% สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 11.47% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรสุทธิลดลง
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 10.09% ในปี 2566 เป็น 9.92% ในปี 2567
* **อัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 1.48% ในปี 2566 เป็น 0.71% ในปี 2567
**สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง:**
* **การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย:** ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อกำไรอย่างชัดเจน
* **ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ (Product Mix):** สัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ (iPhone) ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลง
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์รวม:** สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อยจาก 1,231.66 ล้านบาท (สิ้นปี 2566) เป็น 1,213.33 ล้านบาท (สิ้นปี 2567)
* **หนี้สินรวม:** หนี้สินรวมลดลงเล็กน้อยจาก 651.62 ล้านบาท (สิ้นปี 2566) เป็น 644.27 ล้านบาท (สิ้นปี 2567)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 580.04 ล้านบาท (สิ้นปี 2566) เป็น 569.06 ล้านบาท (สิ้นปี 2567) สาเหตุหลักมาจากการจ่ายเงินปันผล
* **สินค้าคงเหลือ:** สินค้าคงเหลือลดลงอย่างมาก
* **ลูกหนี้การค้า:** ลูกหนี้การค้าลดลง
* **D/E Ratio:** ไม่ได้ระบุไว้ในข้อมูล
**ความแข็งแกร่ง/อ่อนแอของฐานะการเงิน:**
* **การลดลงของสินค้าคงเหลือและลูกหนี้การค้า:** อาจบ่งบอกถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์หมุนเวียนที่ดีขึ้น
* **การเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์และสินทรัพย์สิทธิการใช้:** แสดงถึงการลงทุนในการขยายธุรกิจ
* **การลดลงของหนี้สินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน:** อาจบ่งบอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินสดในบทความที่ให้มา)
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในบทความที่ให้มา)
**7. สรุปสั้นท้ายสุด**
SPVI มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2567 แต่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเนื่องจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการบริหารจัดการสินทรัพย์หมุนเวียนที่ดีขึ้นและการลงทุนในการขยายธุรกิจ แต่ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การจัดการความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายและการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SPVI ในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต
(25.12%)
(1.88%)
(27.09%)
(0.74%)
(1.55%)
(2.72%)
(22.97%)
(7.00%)
(158.73%)
(29.43%)
(100.08%)
(99.82%)