สรุป OPPDAY หุ้น SPREME
Oppday
สรุป OPPDAY
SPRIME เผยกลยุทธ์ปี 2568: ขยายตลาด Smart City, เน้น Cloud Solutions, และรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมตั้งเป้า Recurring Income เพิ่มขึ้น
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):บริษัท Supreme Distribution จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งปี 2536 ทุนจดทะเบียน 370 ล้านบาท ประกอบธุรกิจจัดจำหน่าย, ออกแบบ, ติดตั้ง, และให้คำปรึกษาด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร (System Integrator: SI) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดปี 2566 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2567
บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 4 ประเภท ได้แก่ ISO 9001, ISO 14001, ISO 20000-1, และ ISO 37001 ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายติดตั้งอุปกรณ์, ธุรกิจงานบริการ (Maintenance Agreement), และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 611.37 ล้านบาท โดยมี Backlog คงเหลือประมาณ 2,100 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 อีก 930 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในงวดถัดไป
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2565-2567): รายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 1,025.40 ล้านบาท เป็น 1,152.61 ล้านบาท และ 1,256.32 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมี GPM (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 21.43%, 23.15%, และ 30.51% ตามลำดับ ในปี 2568 (9 เดือน) รายได้รวม 604.15 ล้านบาท มี GPM 26.64%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):บริษัทตั้งเป้าเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรม SI (System Integrator) ภายในประเทศ โดยมุ่งมั่นส่งมอบอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีคุณภาพ และให้บริการโดยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ บริษัทมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการเติบโตขององค์กรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้งานง่าย ยืดหยุ่น และปลอดภัย
บริษัทวางแผนขยายตลาดไปยัง Smart City และ Public Safety เนื่องจากองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และต้องการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในการบริหารเมืองในยุคดิจิทัล
บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของ Cloud Solutions เนื่องจากมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้นในองค์กรต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย Cloud Solutions ช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการข้อมูล
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):ผู้บริหารได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของรายได้, การชะลอตัวของโครงการบางส่วน, และการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):บริษัทจะมุ่งเน้นงานโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บริษัทตระหนักดีว่าการรับงานโครงการขนาดใหญ่อาจทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงบ้างเมื่อเทียบกับในอดีต
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):บริษัทคาดการณ์ว่าภัยคุกคามทางไซเบอร์จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้องค์กรหลายแห่งเริ่มปรับตัวนำ Cyber Security เข้ามาใช้ บริษัทมองว่า Cyber Security จะไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่องค์กรทุกองค์กรควรมี
บริษัทมีกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนของ Recurring Income หรือโครงการประเภทเช่า เพื่อให้สามารถ Forecast การเติบโตในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากโครงการซื้อขายอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นโครงการเช่ามากขึ้น
บริษัทวางแผนแบ่ง Customer Group ออกเป็น 2 กลุ่ม: หน่วยงานภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ (60%) และหน่วยงานภาคเอกชน (40%) และจะ Maintain สัดส่วนนี้ไว้ในปีต่อๆ ไป
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่ม นาทีที่ 34.52
- คำถาม: งบการเงินไตรมาส 3/2568 มีประเด็นสำคัญอย่างไรบ้าง เนื่องจากรายได้และกำไรปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว?
- คำตอบ: การชะลอตัวของโครงการบางส่วนทำให้การส่งมอบงานเลื่อนออกไปในไตรมาสถัดๆ ไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 อีก 930 ล้านบาท
- คำถาม: แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 มีทิศทางเป็นอย่างไร?
- คำตอบ: ยังมีทิศทางเป็นบวกและมีโอกาสฟื้นตัว เนื่องจากมี Backlog ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในสิ้นปีนี้อีก 930 ล้านบาท
- คำถาม: ภาพรวมทั้งปีและแนวโน้มรายได้จะเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่?
- คำตอบ: ยังดูแนวโน้มที่บริษัทจะมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้น เนื่องจากรายได้ Backlog ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในสิ้นปีนี้ และยังมั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ได้
- คำถาม: มีแผนประมูลงานมากน้อยแค่ไหน และมีโอกาสได้รับงานประเภทใด?
- คำตอบ: ยังมีแผนที่จะเข้าประมูลโครงการอีกหลายโครงการ โดยมีขนาดโครงการคละเคล้ากันไปตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ รวมถึงประเภทของโครงการที่หลากหลาย ทั้งซื้อขาย เช่า และงานบริการ
- คำถาม: แผนการดำเนินงานในปี 2569 มุ่งเน้นงานประเภทใด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน?
- คำตอบ: มุ่งเน้นการสร้าง Recurring Income มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากโครงการประเภทงานเช่า และจะพยายามขยายตลาดหรือโฟกัสงานโครงการที่เป็นโครงการเกี่ยวกับงานประเภทเช่ามากขึ้น
- คำถาม: หลังจากการได้รับอนุมัติเงินลงทุน 1,300 ล้านบาท จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในการประมูลงานอย่างไรบ้าง?
- คำตอบ: โครงการยังอยู่ในระหว่างการแข่งขันและดำเนินการ ซึ่งสถานะปัจจุบันยังเป็นไปตามแผนและกลยุทธ์ที่วางไว้
- คำถาม: ปีหน้าบริษัทจะยังมีการจ่ายปันผลอยู่หรือไม่?
- คำตอบ: การจ่ายเงินปันผลยังคงเป็นไปตามนโยบายที่บริษัทได้กำหนดไว้
- คำถาม: ลูกหนี้การค้าที่เกินกำหนดชำระมีจำนวนมาก บริษัทมีความกังวลหรือไม่?
- คำตอบ: ปัจจุบันไม่ได้มีความกังวล เพราะลูกหนี้เหล่านี้ยังมีการทยอยจ่ายอยู่เป็นระยะ และมีการติดตามงวดงานอยู่แล้ว
- คำถาม: แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ IT Solution Service ภาครัฐในปี 2568 มีความเสี่ยงหรือข้อจำกัดใดที่กระทบต่อตลาดนี้หรือไม่?
- คำตอบ: ส่วนที่กระทบของทางบริษัทไม่มี และไม่มีความเสี่ยงที่จะกระทบกับสิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการอยู่
- คำถาม: บริษัทจะมีมาตรการหรือแผนการบริหารต้นทุนและรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอย่างไร?
- คำตอบ: บริษัทจะมุ่งเน้นงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงไปบ้าง แต่ในส่วนของตัวเลขที่เป็นจำนวนเงินก็อาจจะสูงขึ้น
- คำถาม: รบกวนสอบถามกลุ่มลูกค้าของทางบริษัท ว่ามีแนวโน้มขยายตลาดไปในต่างประเทศบ้างหรือไม่?
- คำตอบ: ปัจจุบันยังไม่มีแผนขยายตลาดลูกค้าออกไปต่างประเทศ จะโฟกัสไปที่งานภายในประเทศเป็นหลัก
โดยสรุป Supreme Distribution มีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการขยายตลาดไปยัง Smart City และ Public Safety, พัฒนา Cloud Solutions, รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์, และเพิ่มสัดส่วน Recurring Income พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนและรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม