SPRC
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

SPRC สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 และแผนการเติบโตในอนาคต

สวัสดีครับท่านนักลงทุนทุกท่าน ทางบริษัท SPRC ขอสรุปผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

SPRC ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจากปัจจัยหลายด้านในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ปัจจัยภายนอกที่สำคัญคือราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 66.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 70.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3 เนื่องมาจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางและการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก

อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศลดลงเนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวต่ำ ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มสัดส่วนการขายผ่าน Third-Party เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาในตลาดค้าส่ง ถึงแม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมจะลดลง แต่ SPRC ยังคงสามารถเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันในประเทศได้ถึง 19% โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านสถานีบริการน้ำมัน Caltex ที่มีจำนวน 530 สถานี

ผลการดำเนินงานทางการเงินของ SPRC ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มี adjusted profit กว่า 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Enterprise Margin สูงถึง 6.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และสามารถ Place หรือขายน้ำมันดิบไปได้กว่า 52 ล้านบาร์เรล

  1. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

SPRC มองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก Value Chain Optimization โดยการรวมธุรกิจโรงกลั่นและการตลาดเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและสร้าง Synergy ในการดำเนินงาน

นอกจากนี้ SPRC ยังมีแผนที่จะลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำมันเบา (Light Crude Processing) ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการผลิตผลิตภัณฑ์แก๊สโซลีนและน้ำมันอากาศยานมากขึ้น

SPRC ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจผ่านสถานีบริการน้ำมัน Caltex และมองหาโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน

  1. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

SPRC เผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด นอกจากนี้ บริษัทยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ (Major Turnaround) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2566

  1. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

SPRC ใช้กลยุทธ์หลายด้านเพื่อแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ การเพิ่มสัดส่วนการขายผ่าน Third-Party, การบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด, การลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, และการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่

  1. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

SPRC คาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจในอนาคตจะยังคงมีความท้าทายจากความผันผวนของราคาน้ำมันและความต้องการใช้น้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ จะช่วยให้ SPRC สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

  1. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 40:55]
  • สัดส่วนการขายผ่าน Third-Party ที่เพิ่มขึ้น:
    • คำถาม: สัดส่วนการขายผ่าน Third-Party ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี บริษัทมีมุมมองว่าการเติบโตแบบนี้เป็นปกติในระยะต่อไปหรือไม่ และจำนวนสถานีของบริษัทมีข้อจำกัดหรือไม่?
    • คำตอบ: การเพิ่มสัดส่วนการขายผ่าน Third-Party เป็นกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาในตลาดค้าส่ง ซึ่งช่วยให้กำไรโดยรวมของบริษัทอยู่ในระดับที่สูงขึ้น และบริษัทยังคงมองหาการเติบโตผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสถานีบริการ ไม่ได้แค่ผ่านการเพิ่มจำนวนสถานีบริการ แต่ยังรวมถึงการเพิ่มยอดขายของสถานีบริการปัจจุบัน
  • แผนการทำ Major Turnaround:
    • คำถาม: Major Turnaround จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน และมีแนวโน้มของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากกิจกรรมนี้อย่างไร?
    • คำตอบ: ตามแผนเดิมที่เคยสื่อสารออกไป คือจะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในไตรมาส 1 ของปี 2567 โดยมีระยะเวลาประมาณ 20 กว่าวัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 150 ล้านเหรียญ โดยที่สัดส่วนที่จะเป็น Expense ประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณ 50 ล้านเหรียญ ที่จะบันทึกเข้าในงบกำไรขาดทุนในปีนี้และปีหน้า
  • แผนความร่วมมือ Commercial:
    • คำถาม: นอกจากความร่วมมือกับชาวดอยแล้ว บริษัทมีแผนความร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ อีกบ้างไหม?
    • คำตอบ: ปัจจุบันนี้เรามีการพูดคุยอยู่กับพันธมิตรอยู่หลายเจ้า โดยในส่วนของสถานีบริการ Caltex มีความพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการมองหาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้า หรือบริการ ให้ครอบคลุมในทุก ๆ ภาคส่วนของประเทศไทย
  • แผน Product Placement สู่ประเทศกลุ่มอาเซียน:
    • คำถาม: แผน Expand Product Placement ที่มุ่งสู่ประเทศกลุ่มอาเซียน บริษัทมองกลุ่มสินค้าใดบ้าง และคาดว่าจะสามารถถึงจุดที่จะส่งผลต่อที่ที่จะทำให้เกิดผลตอบแทนได้เมื่อไหร่?
    • คำตอบ: ทางโรงกลั่น SPRC ของเราเอง มีการส่งออกผ่านประเทศในกลุ่มอาเซียนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ประเทศลาว ประเทศสิงคโปร์ ประเทศฟิลิปปินส์ทั้งในรูปแบบของการการจัดจำหน่ายที่เป็นในลักษณะเทอมระยะยาวและก็ในเทอมระยะสั้น โดยสิ่งที่ทาง SPRC ของเราเองพยายามที่จะปรับเปลี่ยนและก็เพิ่มมูลค่าให้กับการขายของเรา คือการมุ่งเน้นการขายที่ยั่งยืนในรูปแบบของการขายแบบเทอมระยะยาวมากขึ้น

โดยสรุป SPRC ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดต้นทุน และขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์ภายนอกจะยังคงมีความท้าทาย