สรุปงบล่าสุด SPRC
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2/2567
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 โดยมีรายได้รวม 6,816.10 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 285,264.36 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการขายลดลง อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 3.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จาก 10.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ -34.26 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 7,673.79 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า
SPRC ได้กำหนดแผนธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับห่วงโซ่ของธุรกิจ โดยเน้นการปรับปรุงผลกำไร (Profit Improvement Program) รวมถึงการจัดหาน้ำมันดิบและวัตถุดิบในการเข้ากลั่น การกำหนดอัตราการกลั่นที่ทำใหเกิดประโยชน์สูงสุด การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนผลิตผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณการขายด้วยการเปิดตัวแคมเปญการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้นำไปสู่ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น
## วิเคราะห์โอกาสการลงทุน SPRC
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง SPRC มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 20.46 และ P/BV 0.68 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อกำไรของบริษัทในอนาคต ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาตามราคาน้ำมันดิบ SPRC มี D/E อยู่ที่ 0.8 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินค่อนข้างสูง แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ บริษัทมีวงจรเงินสดล่าสุดอยู่ที่ 39.98 ซึ่งสะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ ทำให้มีเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ
## โอกาสและความเสี่ยง
**โอกาส**
* **ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น:** ราคาที่สูงขึ้นจะส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทโดยตรง
* **การปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงกลั่น:** การปรับปรุงจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มกำไรของบริษัท
* **การขยายธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม:** บริษัทฯ มีโอกาสขยายตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
* **การเข้าซื้อกิจการ**: การเข้าซื้อกิจการของบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานในอนาคต
* **ความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย**: ความต้องการน้ำมันในเอเชียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรของ SPRC
**ความเสี่ยง**
* **ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ:** การเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็วอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท
* **ความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง:** ความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและเทรนด์การใช้พลังงานทดแทนอาจส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต
* **การแข่งขันในอุตสาหกรรม:** การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้บริษัทสูญเสียส่วนแบ่งตลาด
* **ภาระหนี้สินที่สูง**: D/E สูง อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้และการเติบโตของบริษัท
## บทสรุป
SPRC อาจไม่ใช่โอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลในระยะสั้น เนื่องจากบริษัทมี YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 0% และมี D/E สูง สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตในระยะยาวจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและการขยายธุรกิจจัดจำหน่าย SPRC เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่สามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบได้ และมองเห็นโอกาสเติบโตของบริษัทในอนาคต
## ข้อมูลเพิ่มเติม
* ฐานะการเงินของ SPRC แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของสินทรัพย์และหนี้สิน แต่อัตราส่วนทางการเงินบางอย่าง เช่น D/E อาจสะท้อนถึงความเสี่ยงบางอย่างที่นักลงทุนควรพิจารณา
* การไหลเวียนของเงินสดแสดงให้เห็นว่า SPRC มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสด
* SPRC มีแผนที่จะขยายธุรกิจและการลงทุนในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลดีต่อผลประกอบการ
SPRC เป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว แต่การลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงานและราคาน้ำมันดิบ
(2.10%)
(96.42%)
(76.66%)
(99.94%)
(76.23%)
(98.34%)
(25.70%)
(92.21%)
(91.55%)
(100.44%)
(95.14%)
(99.81%)