สรุปด้วย AI(O) BOT

## SONIC: ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บ่งบอกถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 1,688.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 34.91% จากไตรมาส 2/2567 โดยเป็นผลจากการปรับตัวขึ้นของค่าระวางเรือในช่วงปลายเดือนเมษายน จนถึงเดือนกรกฎาคม ถึงแม้ค่าระวางเรือจะเริ่มปรับลดลงในช่วงหลัง แต่ SONIC ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ พร้อมกับมีการเพิ่มขึ้นของลูกค้ารายใหม่อีกด้วย บริษัทยังได้ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนผ่านบริษัทย่อย SONIC Green Power ที่เริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการร่วมค้าในเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพลังงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ในด้านแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต SONIC มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตและสร้างรายได้ โดยจะเน้นการให้บริการแบบครบวงจรและใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า SONIC มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจรและยั่งยืน บริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2568 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง SONIC แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้ กำไรสุทธิ อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น SONIC มีอัตราส่วน D/E ที่ต่ำกว่า 1 บ่งบอกถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง วงจรเงินสดที่ต่ำ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดออกไป อย่างไรก็ตาม P/E ที่อยู่ระดับ 9.25 และ P/BV ที่อยู่ระดับ 0.91 อาจบ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ยังไม่สูงมากนัก

**โอกาส:**
- การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซส่งผลดีต่อธุรกิจของ SONIC
- การขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ
- ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
- วงจรเงินสดต่ำ

**ความเสี่ยง:**
- ความผันผวนของค่าระวางเรือและค่าระวางทางอากาศ
- การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
- การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีและกฎระเบียบ

โดยรวมแล้ว SONIC เป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตในอนาคต เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะได้รับเงินปันผลในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ของตลาดและประเมินความเสี่ยงให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน