สรุปงบล่าสุด SO

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) (SO) ปี 2567
บทความนี้สรุปผลประกอบการของบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) (SO) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
**ภาพรวมผลการดำเนินงาน**
ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,556.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.54% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีรายได้ 2,377.86 ล้านบาท กำไรสุทธิสำหรับปีอยู่ที่ 116.06 ล้านบาท ลดลงจาก 124.81 ล้านบาทในปี 2566
**ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้**
* **รายได้ค่าบริการจัดหาบุคลากรและบริการ Outsource:** เพิ่มขึ้น 6.23% จาก 2,016.83 ล้านบาท เป็น 2,142.38 ล้านบาท โดยเฉพาะส่วนงาน SO GREEN ที่เติบโตถึง 31% จากการบริการดูแลสวนและปรับสภาพภูมิทัศน์ให้กับหน่วยงานเอกชน
* **รายได้ค่าเช่าและบริการ:** เพิ่มขึ้น 25.69% จาก 329.57 ล้านบาท เป็น 414.25 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มจำนวนรถยนต์ให้เช่าและการหาลูกค้ารายใหม่
**สถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบ**
แม้จะไม่มีการระบุถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียดในข้อมูลที่ให้มา แต่บริษัทฯ ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน ได้แก่ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านค่าแรงของส่วนงาน SO MANPOWER และ SO OUTSOURCE
**การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ลดลงจาก 17.52% ในปี 2566 เป็น 16.10% ในปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนคงที่และต้นทุนที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น ต้นทุนจากการต่อสัญญากับหน่วยงานราชการ, ค่าเบี้ยประกันและค่าต่อทะเบียนรถเช่าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมปิดสัญญาเช่าซื้อก่อนกำหนด
* **ค่าใช้จ่ายในการบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 9.78% จาก 219.31 ล้านบาท เป็น 240.77 ล้านบาท เนื่องจากการกลับรายการค่าปรับจากการดำเนินงาน, การตั้งด้อยค่าสินค้าล้าสมัย, ค่าที่ปรึกษาโครงการ และค่าใช้จ่ายสำหรับงานพิธีต่างๆ
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 13.21% จาก 2,075.00 ล้านบาท เป็น 2,349.15 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น รวมถึงสินทรัพย์เพื่อให้เช่าและสินทรัพย์รอการขาย
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 21.17% จาก 1,043.69 ล้านบาท เป็น 1,264.61 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน (จากสัญญาเช่าซื้อรถใหม่) และเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
**อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** หากคำนวณจากข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น จะอยู่ที่ประมาณ 1.17 เท่า (1,264.61/1,084.55) ซึ่งแสดงว่าบริษัทฯ มีหนี้สินมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น
**กระแสเงินสด**
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินสดในเอกสารที่ให้มา
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
* **ความเสี่ยง:** การแข่งขันในธุรกิจจัดหาบุคลากร, ความผันผวนของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อความต้องการใช้บริการของลูกค้า, ความเสี่ยงด้านต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น (เช่น ค่าแรง, ค่าเชื้อเพลิง)
* **โอกาส:** การขยายฐานลูกค้าในส่วนงานต่างๆ, การพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด, การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง (เช่น ภาคการท่องเที่ยว, ภาคการผลิต)
**แนวโน้มอนาคต**
บริษัทฯ มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นการเติบโตในส่วนงานที่มีศักยภาพ เช่น SO GREEN และธุรกิจให้เช่ารถ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
**สรุปความสัมพันธ์ระหว่างรายได้, กำไร, อัตรากำไร, และ D/E Ratio**
แม้ว่ารายได้รวมของบริษัทฯ จะเติบโตขึ้น แต่กำไรสุทธิกลับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้น และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหาร อัตราส่วน D/E ที่สูงกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีการใช้เงินทุนจากหนี้สินในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงหากบริษัทฯ ไม่สามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
**ภาพรวมที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย**
โดยสรุปแล้ว ปี 2567 เป็นปีที่บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) มีการเติบโตของรายได้ แต่ความสามารถในการทำกำไรลดลงเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการหนี้สินและการรักษาสภาพคล่อง
**หมายเหตุ:** บทความนี้เป็นการสรุปและวิเคราะห์จากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการให้คำแนะนำด้านการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(5.66%)
(17.23%)
(9.20%)
(10.47%)
(3.36%)
(5.78%)
(18.52%)
(24.38%)
(39.86%)
(61.05%)
(8.95%)
(0.09%)