SJWD
บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday SCGJWD Logistics (20 ก.พ. 67) : มองบวกปี 67 เดินหน้าขยายธุรกิจทั่วอาเซียนเต็มสูบ

สวัสดีครับพี่ ๆ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา, คุณบัน เกษมทรัพย์ และ ดร. เอกพงษ์ มาร่วมให้ข้อมูล Year End ของ SCGJWD Logistics จำกัด มหาชน โดยมีเวลา 45 นาที ดร. เอกพงษ์จะให้ข้อมูล 20 นาที และผู้บริหารจะร่วมตอบคำถาม 25 นาที

ดร. เอกพงษ์กล่าวขอบคุณที่ติดตาม Oppday fiscal year 2024 และจะนำเสนอข้อมูลที่เพิ่งประกาศผลประกอบการไป รวมถึงตอบคำถามที่ส่งเข้ามาทางออนไลน์

Company Overview (สไลด์ 4): โครงสร้างบริษัทในปัจจุบันไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่แล้ว ยังคงมีโครงสร้างการถือหุ้นและโครงสร้างของทุนดังเดิม มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดปีที่ผ่านมาทำมาเยอะมาก มองย้อนกลับไปก็รู้สึกภูมิใจถึงสิ่งที่ทำได้ในปี 2024 ถึงแม้ราคาหุ้นอาจจะยังไม่ตื่นเต้น แต่ในแง่ของงานและผลประกอบการมีความคืบหน้าเยอะมาก

โครงสร้างธุรกิจ: รายได้หลักมาจากกลุ่ม Logistics ประมาณ 90% และรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ประมาณ 10% ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถดาวน์โหลดสไลด์และดูรายละเอียดเชิงลึกได้เพิ่มเติม พร้อมกับดู MD&A ที่โพสต์ไว้ในระบบของตลาดหลักทรัพย์และเว็บไซต์ของบริษัท

Highlight Performance ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา: ปิดรายได้ 6,335.4 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 185.4 ล้านบาท อาจจะตกเป้าหมายของนักวิเคราะห์หลายสำนัก แต่จริง ๆ แล้วมีรายการเพิ่มเติมเข้ามาในไตรมาสที่ 4 ไม่ว่าจะเป็นรายการปรับปรุงและรายการต่าง ๆ จากต่างประเทศ ซึ่งอาจมีการถือหุ้นเป็นลักษณะของบริษัทในเครือ ทำให้ equity income ที่รับรู้เข้ามาผิดไปจากที่ควรจะเป็น อีกส่วนหนึ่งคือค่าใช้จ่ายที่จัดการเพิ่มเติมเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 4 เพื่อดูแลพนักงานและลูกค้า จัดงานต่าง ๆ เพื่อตอบแทนลูกค้าและให้กำลังใจพนักงาน ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา แต่ถ้าไม่มีรายการเหล่านี้ในภาวะปกติ คิดว่าน่าจะอยู่ที่ตามเป้าหมายที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ส่วนเต็มปี: ปิดรายได้ 24,705.1 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว อาจโตขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรปิดโตขึ้นมาเยอะ ปิดที่ 1,119.1 ล้านบาท โตจากปีที่แล้วค่อนข้างสูง ถือเป็นหนึ่งใน Synergy ที่สร้างขึ้นมาได้ในช่วงปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพในการสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และปีนี้ก็ตั้งใจจะลุยต่อในการสร้างการเติบโตในเรื่องของ Bottom Line ให้ชัดเจน

โครงสร้างของรายได้: ไม่ลงรายละเอียด สามารถเข้าไปศึกษาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้

Business ที่ทำ Performance ได้ค่อนข้างดีในไตรมาสที่ผ่านมา: General Warehouse มีการรับพื้นที่คลังเพิ่มเติมเข้ามาที่บริเวณแหลมฉบัง ซึ่ง Alpha (Joint Venture ระหว่างเรากับ Partner) สร้างเสร็จแล้ว และรับพื้นที่เข้ามาใน Q4 สามารถขายพื้นที่ได้ทั้งหมด ทำให้รายได้กระโดดขึ้นมา GP ก็ขึ้นมาค่อนข้างสูง สามารถไปเปิดดูรายละเอียดได้ใน Financial Section จะเห็นว่า GP ขึ้นมาอย่าง Significant มาก ๆ

Overseas: เติบโตดีมาก ๆ ในปี 2024 โดยเฉพาะเมื่อเทียบ Year on Year (12 เดือน) โตขึ้นมาถึง 37% เป็นอานิสงส์จากการเติบโตในต่างประเทศ บวกกับธุรกิจเวียดนาม ซึ่งมีการ Consolidate เข้ามา และมีการขยายงานในแต่ละประเทศเพิ่มเติมมากขึ้น ทำให้สามารถพุ่งเป้าไปที่การเติบโตของ Overseas ได้เป็นอย่างดี ตามเป้าหมายของการเติบโตในแผนกลยุทธ์ที่เคยเรียนทุกท่านไว้

สภาวะอุตสาหกรรมและสภาวะลูกค้า: อาจมีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ากลุ่ม Commodity (ซีเมนต์, ถ่านหิน, Chemical Packaging ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสินค้าของ SCG) หลาย ๆ ท่านอาจกังวลว่ายอดขายจะดรอปลงหรือไม่

Volume การผลิตโดยรวมไม่ได้ลดลง Domestic Consumption งานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศลดลงจริง แต่ Volume ของส่วนที่เป็นงานซีเมนต์ Export (แท่งสีส้ม ๆ) เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าแท่งสีเทาที่เป็น Domestic จะลดลง ทำให้โดยรวมแล้ว Overall Volume ไม่ได้แตกต่าง ยอดผลิตยังคงผลิตเต็มกำลัง เพราะฉะนั้นต้องมีการส่งไปขายที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งงาน Export สามารถทำรายได้ในเชิง Logistics ได้มากกว่างาน Domestic เดี๋ยวจะเห็นจากในส่วนของ B2B Transportation นะครับ ตรง Finance จะเห็นว่ารายได้มันขึ้น GP ก็ดีขึ้น ตรงนี้เป็นส่วนที่ถือว่ายังไม่ได้มีความกังวล เพราะมีวิธีการที่จะทำ Logistics ในเรื่องรูปแบบต่าง ๆ เพื่อ Compensate Volume ของ Domestic ที่ลดลง ประกอบกับได้รับการ Transportation Share จากทางกลุ่ม SCG เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา Overall Volume ถึงแม้ว่าจะมีการลดลงบ้าง แต่มีการได้รับการจัดสรรของงานที่แบ่งให้ทำเพิ่มขึ้นโดยตลอด ดังนั้นจึงมีความมั่นใจว่าจะ Maintain หรือทำให้มีการเติบโตของ Volume หรือรายได้จากกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

Auto: ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่เหนื่อยเล็กน้อย เพราะโดยภาพรวมของธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศ Consumption ลดลง ยอดการผลิตรถยนต์ลดลง แต่มีการนำเข้าเข้ามา แต่บริษัทเรายังประสบความสำเร็จในการ Maintain ธุรกิจ Automotive ให้ยังมีกำไรสูง ได้เทียบเท่ากับปี 2023 และในปี 2025 นี้ก็มีแผนในการ Capture งานใน Scope ต่าง ๆ ของลูกค้าใหม่ ๆ และลูกค้าเดิมเพิ่มเติม เชื่อว่ายังสามารถจะเติบโตได้ในปีนี้

ห้องเย็น: มีการขยายพื้นที่มาตลอดต่อเนื่อง และในปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติมอีกถึง 3 แห่ง จะทำให้สามารถสร้างรายได้จากกลุ่มของ โคเชน เพิ่มเติมเข้ามาได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในปีที่แล้วเอง ก็มีการ Ramp Up Occupancy หรือ Utilization Rate ของห้องคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส และปิดปีอยู่ที่ประมาณ 75% ซึ่งถือว่าเป็นยอดที่สูงที่สุดในตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แสดงว่ามีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าตลาดฝั่ง โคเชน ยังมีอนาคตที่ดี และสินค้าสำคัญ ๆ ที่เป็นสินค้าหลักในปีนี้ เท่าที่มองดูเทรนด์ยังถือว่าเป็นเทรนด์เชิงบวกกับงาน ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าจะสามารถช่วย Drive การเติบโตในเชิง Bottom Line ได้ในปีนี้เป็นอย่างดี

แผนธุรกิจ: ยังคงยืนยันเป้าหมายในการที่จะเติบโตธุรกิจเป็นผู้นำธุรกิจด้าน Integrated Logistics and Supply Chain ในอาเซียนเหมือนเดิม และมีความตั้งใจที่จะขยายบริษัทเติบโตผ่าน Angle ต่าง ๆ 5 มุม 5 Pillar ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตในต่างประเทศ การสร้าง Synergy ภายในกลุ่มและ Partner การสร้าง Core Competency ใหม่ ๆ การบุกตลาดด้าน Consumer Segment และการหาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับ Logistics เข้ามา ผ่านการทำเรื่องของ Innovation Sustainability และ InOrganic Growth ซึ่งขาดไม่ได้เลยสำหรับการเติบโต ก็คิดว่าเรื่องของการเติบโตมีแผนที่ค่อนข้างชัดเจนไปอีก 5 ปีข้างหน้า หวังว่าจะติดตามและดูความก้าวหน้า ถึงแม้ว่าเวลานี้ราคาหุ้นอาจจะไม่ได้ไปในทิศทางที่อยากให้เป็น แต่ Fundamental ของเราไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

Highlight ในปี 2024 ที่ผ่านมา: รู้สึกชื่นใจที่ทำได้เยอะจริง ๆ ส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์จากการรวมกิจการกันมา มี Resource ทางด้านคน Network Funding ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้สามารถทำงานได้เยอะขึ้น หลากหลายขึ้น และมี Output ที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

ตั้งแต่ต้นปี: มีการทำ Acquisition ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อธุรกิจของ ANI (list ในตลาดหลักทรัพย์) เป็นเรื่องของตัว Freight GSA Air Freight และมีการเข้าซื้อธุรกิจ Hallage (รถหัวลาก) ที่มาเลเซีย ที่ชื่อว่า Swift Hallage ซึ่งเป็น Key Partner ที่สำคัญที่จะมี Project ร่วมกันเยอะเลยในเวลานี้เป็นต้นไป มีการ Spin Off ธุรกิจตัวหนึ่งที่มี Potential ที่จะเติบโตออกมาเป็นบริษัทลูก ที่ถือ 100% นั่นแหละ เพียงแต่ว่าแยกโครงสร้างให้ชัดเจนเพื่อที่จะมีการเติบโตต่อเนื่อง เรียกว่า SCGJWD Freight และมีการเข้า Take Acquisition บริษัท SCG International เวียดนาม ในปัจจุบันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น SCGJWD Logistics เวียดนามเรียบร้อยแล้ว

เนื้อ งาน: มีการทำและขยายในเชิง Organic หลาย ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายคลังที่เชียงใหม่ ซึ่งเอาพื้นที่ Regional Distribution Center ที่ Under Utilize เอามาทำเป็นคลังเย็น ซึ่งปัจจุบันนี้เรียบร้อยแล้ว กำลังพร้อมที่จะใช้งานได้ใน Q2 นี้ และมีการร่วมงานกับ Partner เช่น PTTOR ทำงานส่งเบเกอรี่เข้าไปยังร้าน Cafe Amazon ต่าง ๆ ก็ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ทำให้มีรายได้เติบโตขึ้นในส่วนธุรกิจ Direct to Consumer

มีการขยายคลังทั้งฝั่ง Alpha (Joint Venture ระหว่างเรากับ Origin) เติบโตขึ้นมา มีคลังเพิ่มเติมขึ้นมาหลายหลัง เปิดคลังใหม่เป็นคลังเก็บเอกสารของ Data Save เป็นคลัง Robot ที่สุวรรณวงศ์ เฟสที่ 2 เรียบร้อย

บอนด์: ออกบอนด์ในช่วงเดือนกันยายน ได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้มีอุปการคุณอย่างล้นหลาม ตลาดบอนด์ตอนนี้ทุกคนไม่ค่อยสบายอกสบายใจ แต่ก็ยังได้รับการไว้ว่างใจจากนักลงทุน ทั้งสถาบันและบุคคล ทำให้สามารถขายและมี Overbook ในเรื่องของบอนด์ได้อย่างรวดเร็ว มุ่งมั่นนำ Funding ที่ได้มาเพื่อขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เพื่อให้นักลงทุนและ Stakeholder ทุกท่านได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด

ไม่ได้ทำแค่ในเชิงธุรกิจ: แต่ยังทำในเชิงของ Sustainability และ Award ต่าง ๆ ที่ได้รับมาก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องของ Highly Commended Supply Chain Management, การได้รับรางวัล Operation เช่น เรื่องของ Me Space Self Storage ได้รับรางวัล Multi Size Operator Store of the Year จากสถาบันนานาชาติ และได้รับการประเมิน Set ESG Rating ในปี 2024 ที่ผ่านมา อัปเกรดจาก Double A เป็น Triple A อันนี้ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ มีการสร้าง Synergy หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ Implement Solar Roof ใช้ Capability ของ SCG การนำ Under Utilize Asset อย่างที่เชียงใหม่มาสร้างเป็นห้องเย็น การนำคลังสินค้าของ Alpha มาทำเป็น Built to Suit เพื่อ Serve ให้กับลูกค้ารายใหญ่ที่บางกะดีเป็นต้น

ปีนี้: จะมีการขยาย Synergy ไปยังต่างประเทศ ร่วมกับทาง Swift Hallage ในหน้าถัดไป กำลังเริ่มสร้างห้องเย็นที่มาเลเซีย ก็จะเป็นการขยายเครือข่ายของการทำงานด้าน โคเชน ไปยังต่างประเทศอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น และก็จะตามมาด้วย คลังโดนัทต่าง ๆ ด้วย

ถัดมา: เป็นเรื่องของคลังต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หลาย ๆ ตัวเสร็จแล้ว (เช่น ที่เชียงใหม่) คลังห้องเย็นที่สระบุรีเสร็จแล้ว คลังห้องเย็นที่รังสิตเสร็จแล้ว กำลังเริ่มคูลดาวน์และจะเริ่มใช้งานเร็ว ๆ นี้ ส่วนของ นิชิเร เฟส 3 ที่หน้าตรง นวนคร ปทุม ก็กำลังจะเสร็จ

Project บางกะดีของ Alpha: รับเข้ามาเพื่อทำงานให้ลูกค้ารายใหญ่ คือ B Grim Carrier คุณปรีดิ์ได้นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่าได้งานใหญ่จาก B Grim Carrier เข้ามาเป็นมูลค่ารวมกัน 1,850 ล้านบาท และในปีนี้เมื่อคลังนี้เสร็จประมาณเดือนกันยายน ก็จะรับรู้รายได้จากงานนี้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น เพราะช่วงนี้ยังใช้คลังชั่วคราวเพื่อทำงานให้ รอให้คลังนี้เสร็จ

หน้าถัดไป: เป็นงานที่ทำร่วมกับ Partner ต่างประเทศ มี Partner ที่เมืองจีน ซึ่งกำลังจะทำแผนในการทำ Cross Border โคเชน Transportation ร่วมกัน หวังว่าปีนี้จะเริ่มงาน

หน้าถัดไป: เป็นงานที่เซ็นกับ B Grim Carrier ในการทำงาน Logistics ทั้งหมดให้มูลค่างาน 1,850 ล้านบาท

หน้าถัดไป: ไซน์กับทางเวียดนาม (บริษัทชื่อ Vietnam Construction Material) ติดตั้งอุปกรณ์ลำเลียงปูนผงให้กับลูกค้า แล้วก็ล็อกงานในส่วนนี้ในการทำให้กับลูกค้าที่เวียดนาม ปีนี้น่าจะมีกิจกรรมตรงนี้เข้ามาเสริมรายได้จากต่างประเทศค่อนข้างเป็นกอบเป็นกำได้มากขึ้นตลอดต่อเนื่อง

นอกจากงานในเชิงของ Organic: ยังเน้นเรื่องของ Sustainability และ Road to Net Zero วางไว้ชัดเจนปี 2050 ในปีที่ผ่านมาลดคาร์บอนลงไปได้ค่อนข้างเยอะ หลากหลายระดับ

ปีที่ผ่านมา: เก็บสถิติออกมา ลดคาร์บอน Emission ออกไปอยู่ที่ประมาณ 1976 ตัน ถือว่าเป็นสิ่งที่พยายามที่จะทำให้ดีขึ้นต่อเนื่องทุก ๆ ปี และตอนนี้ Scope 3 เยอะกว่า Scope 1 และ 2 ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นเรื่องของการทำงานด้านนี้และการ Offer งานด้าน Green Logistics ให้ลูกค้าจึงเป็นหนึ่งใน New S Curve ที่กำลังพยายามมุ่งหน้าที่จะทำเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของ Sustainability ให้กับบริษัทที่เป็น Partner และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

Financial: ในปีที่ผ่านมามีรายได้ปิดอยู่ที่ 24,705.1 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย และมี GP ที่ดีขึ้นตามลำดับในไตรมาสที่ 4 และปิด GP อยู่ที่ 14.8% ตลอดทั้งปีมี GP เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13.5% ก็ถือว่าใกล้เคียงหรือดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ Net Profit Margin ดีขึ้น ปีที่ผ่านมามี Net Profit Margin อยู่ที่ 4.5% ส่งผลให้มี Net Core Profit อยู่ที่ 1,119.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 761 ล้านบาท ก็เรียกว่าโตขึ้นมา กว่า 50% เลยทีเดียว ถือว่าเป็นหนึ่งตัวที่เริ่ม Demonstrate Synergy จากการควบรวมกิจการได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

General Warehouse: มีการเพิ่มพื้นที่แล้วขายพื้นที่ได้หมดในไตรมาสที่ผ่านมา สามารถ Boost รายได้ให้เติบโตขึ้น GP ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

Automotive Logistics: ปี 2024 ไม่ใช่ปีที่ง่ายสำหรับธุรกิจยานยนต์ แต่สามารถ Maintain กำไรของธุรกิจนี้ได้ในระดับที่ดี รายได้ถือว่า Maintain อยู่ในระดับเดิมเลยทีเดียว ปีนี้ยังคงตั้งเป้าเติบโตสำหรับธุรกิจนี้ต่อเนื่องต่อไป หวังว่าจะสามารถ Capture งานจากลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามา ทำให้มีการเติบโตในเชิงรายได้และกำไรต่อเนื่องไปได้

โคเชน: เพิ่มรายได้และเพิ่ม Occupancy ขึ้นมา ทำให้ GP ก็ดีขึ้นมาตามลำดับ

Transportation: B2B Transport ที่เรียนในเรื่องของ Commodity เมื่อสักครู่ จะเห็นว่ารายได้ในปี 2024 นี้สูงขึ้นกว่าปี 2023 อย่างชัดเจน GP ก็ดีขึ้นมาจาก 5.8% เป็น 7.8% ซึ่งตรงนี้มีนัยยะสำคัญมาก ทุก 1% ของ GP Margin ของกลุ่ม Transport มี Impact ต่อ Bottom Line เยอะ เพราะมี Volume ยอดขายสูง ยังมุ่งมั่นที่จะ Optimize เรื่อง Cost ในการ Operation ต่าง ๆ ให้ดี ยิ่งขึ้นต่อไปในปีนี้

D2C Transport: เติบโตขึ้นได้เป็นอย่างดี ในปีที่ผ่านมา หลาย ๆ ธุรกิจของเรามาได้ค่อนข้างดี

Overseas: เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 จาก 2,758 ล้านบาท รายได้ขึ้นมาเป็น 3,589 ล้านบาท GP ขึ้นจาก 8.2% ขึ้นมาเป็น 12.2% ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ และเป็นหนึ่งใน Pillar ของการเติบโตที่ตั้งเป้าไว้สำหรับ 5 ปีนี้

Equity Income from Affiliate: ยังคง Maintain ใน Level ที่ดี Q4 อาจดูย่อไปนิดนึง 74.3 ล้านบาท แต่มีรายการปรับปรุงจากกัมพูชาเข้ามา ทำให้ติดลบลงมา จริง ๆ แล้วมันควรจะมากกว่านี้อยู่ระดับนึง ในปี 2025 นี้ น่าจะสามารถทำ Equity Income ได้ดี ไม่น้อยกว่าปีที่ 2024 Expect ว่ามันโตมากยิ่งขึ้น จะให้ลองติดตามดู ว่าจะเป็นอย่างไร น่าจะสามารถมีกำไรมาจากต่างประเทศในแง่ของ Equity Income ได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ ไม่แพ้จากปีที่แล้ว

สรุปภาพรวม: Net Core Profit เราเองก็ S,G&A ปีนี้คุมได้ดี ที่ S,G&A ดูสูงขึ้นมาก็เพราะมีรายการ Write Off ที่เกิดขึ้นประมาณ 239 ล้านบาท ซึ่งมันเกิดครั้งเดียว เพราะ Clean Up บัญชีทุกอย่างสะอาดหมด เพราะควบรวมกิจการมันจะมีรายการบัญชีที่ค้าง พอควบรวมเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยก็พยายามที่จะเคลียร์บัญชีให้สะอาดที่สุด ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นคิดว่าเมื่อดูแล้วเทียบกันหากหักรายการนี้ออกไป S,G&A 2 ปีนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แปลว่ามีการเติบโตของรายได้ที่เร็วกว่า S,G&A แล้วจะทำให้ Bottom Line ดีขึ้น

Finance Cost: สูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเช่าพื้นที่มาทำงานพวก RoU ที่เพิ่มขึ้น เพราะพยายามจะเน้นเรื่องการทำ Asset Light มากขึ้น ก็จะใช้การเช่า RoU กล่องสีส้ม ๆ ก็จะใหญ่ขึ้นมา อีกส่วนหนึ่งคือตัวดอกเบี้ยแท้ ๆ ที่เป็นกล่องสีเงิน เติบโตขึ้นมาแน่นอน เพราะมีการระดมทุน มีการลงทุนเพิ่ม มีการออกหุ้นกู้ นโยบายในปีนี้ จะพยายามควบคุมเรื่องของการระดมทุนเพิ่มเติม ให้เท่าที่จำเป็น แล้วก็พยายามที่จะจ่ายคืนหนี้และลดภาระดอกเบี้ยลงให้ได้มากที่สุด ก็เป็นแผนชัดเจนที่จะทำให้สะท้อนไปที่ Bottom Line ได้ดีขึ้น

Bottom Line: ในปีที่ผ่านมาปิดอยู่ที่ 1,119.1 ล้านบาท เติบโตขึ้นมา Net Profit Margin ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดต่อเนื่องทุก ๆ Q พยายามที่จะมุ่งหน้าในการจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ดีต่อไป ในขณะที่ Financial Position และ Financial Ratio ยังดีเหมือนเดิม

สิ้นปี: มี Cash Flow Surplus เหลืออยู่ในบริษัท 2,413 ล้านบาท เป็นอะไรที่เรียกว่าเพียงพอ มีการจ่ายคืนบอนด์ไปแล้วเมื่อตอนกุมภาพันธ์ 500 ล้านบาท ปิดไปเรียบร้อย เตรียมเงินจ่ายผลในประมาณสัก 500 ล้านบาท ก็ยังมีเงินเหลือสำหรับการทำงานอีก 1,000 กว่าล้านบาท และอาจจะมีการพยายามที่จะลดภาระเรื่องของการทำเงินกู้ยืมต่าง ๆ เคลียร์ออกไป เพื่อให้ตัวเบามากขึ้น เพราะมี Surplus Cash Flow ต่อเนื่องทุกปีในปัจจุบัน

โดยรวม: อยู่ใน Position ที่มีความคล่องตัวทางการเงิน และมีศักยภาพทางธุรกิจที่ดี อยากจะเรียนให้เกิดความสบายใจและมั่นใจว่ามุ่งหน้าทำงานเต็มที่ และสร้าง Fundamental ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

Q&A Session (45:00)

ดร. เอกพงษ์ กล่าวว่า จะสรุป การ Present ประมาณนี้ และขออนุญาต กลับไปที่ โค CEO เรื่องของคำถาม และขออนุญาต อ่านให้คุณ พี กับคุณ บัน นะครับเพื่อที่จะได้ตอบ คำถามนะครับ ตอนนี้มีเข้ามาเยอะแล้วนะครับ

1. Operation ในต่างประเทศ

  • คำถาม: ถามเรื่องของ Operation ในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งมองว่าเศรษฐกิจใน 2 ประเทศนี้มีโอกาสที่จะเติบโต ประชากรมีจำนวนมาก ถามว่ามีแผนอย่างไร ที่จะขยายตัวใน 2 ประเทศนี้บ้าง
  • คำตอบ (คุณชวนินทร์): ณ วันนี้ Base เรามีใน Base ของ Partner เรา คือ SCG บาริโตะ ซึ่งเป็น จันดรา อัตรี ก็เป็นผู้เล่นรายใหญ่ของตัว ปิโตรเคมี รายได้และกำไรของเราก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ในส่วนของตัวอินโดนีเซีย เมื่อก่อนปีที่แล้วมันมีปัญหาเรื่องห้องเย็น ซึ่งก็ได้ Dive Access ไปแล้วและก็เช่ากลับมาทำงานซึ่งจะทำให้งบการเงินของอินโดนีเซีย น่าจะดีขึ้น ผมคิดว่าทางพาร์ทเนอร์เราเองก็พยายามผลักดันในการเจริญเติบโต ค่อนข้างเยอะ และให้ความสำคัญกับการเติบโตในอินโดนีเซียมาก ๆ เลย เพราะว่าตลาดค่อนข้างใหญ่
  • ส่วนหนึ่งก็มีการพูดคุยกับ Partner อีกรายหนึ่งในเรื่องของตัว พวก Automotive Logistics ซึ่งก็เติบโตมาก ๆ ในเรื่องของตัวท่าเรือ ขนส่งรถยนต์ที่อินโดนีเซีย น่าจะมีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง
  • ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ เรามีพาร์ทเนอร์ที่สำคัญ คือ Royal Cargo ก็มีการจดจัดตั้ง JV ทำงานด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมา ก็มียอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ยอดกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็เพิ่งเริ่มทำมาได้ปีที่ 2 ตอนนี้จริง ๆ เราก็มีการพูดคุยกับธุรกิจในเครืออยู่ อย่างเช่น SCG Decor ในการที่จะเพิ่มงานของ ฟิลิปปินส์ และยังมองหาโอกาสในการลงทุน ในแง่ของตัวทั้ง Organic และ Inorganic Growth ในฟิลิปปินส์อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ Logistics เพราะว่า 2 ประเทศนี้ก็เป็น 2 ประเทศที่ค่อนข้างที่จะเติบโตในภูมิภาคด้วย หลังจากที่เรามี Base ทั้งหมดอยู่แล้ว 9 ประเทศบวก เกียรต ตอนใต้ ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่เราจะต้องขยายธุรกิจ ในแต่ละประเทศให้ใหญ่ ขึ้นมาเทียบเท่ากับเมืองไทยในอนาคต
  • คำตอบ (คุณบัน): อยากให้ความมั่นใจกับท่านนักลงทุนที่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องต่างประเทศว่า บริษัทเรามีทั้ง 2 ประเทศนี้ไม่ใช่แค่ 2 ประเทศมี 9 ประเทศ ที่เรามี Operation จริง ทางด้าน Logistics มีความเชื่อว่า Network ในอาเซียนของเราเนี่ย ดีที่สุดใน ในกลุ่ม ที่ทำงานทางด้าน Logistics แล้วก็ Supply Chain Solution
  • ในอินโดนีเซีย อาจารย์ ดาฮาร์ตรี และ SDL คือ สยาม บริโตะ Logistics วันนี้ถือว่าเป็น Flagship ทั้งฝั่ง SCG เอง แล้วก็เป็น Flagship ทั้งฝั่งของ บริโตะ เขาเอง วันนี้ก็ใช้ ใช้ Base Cargo ของ จันทร์ ดาฮาชูอิ เป็น หลัก และเขาก็อยากจะขยาย เป็นคล้าย ๆ กับเรา ก็คือ ให้ ให้ครบรอบ เป็น End to End Solution น่ะนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ย หน้า หน้า หน้าที่ของเราก็ ต้องขยาย ขยาย ให้ ให้เร็วอย่างที่พาร์ทเนอร์อยากได้
  • ที่ 2 นะครับก็คือตัว ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์นี่ก็เป็นประเทศที่ เราเห็นว่ามี consumption เกี่ยวกับเรื่อง ทั้ง ทั้งสินค้าและบริการ ค่อนข้างมากนะครับ แล้วก็ Partner เรามีความเข้มแข็ง ฟิลิปปินส์อย่าง ที่ คุณ พี ว่ามันเริ่มใหม่ แต่ขอเรียนนะครับว่าตั้งแต่ปีที่ 1 ในการตั้ง Operation ก็มีกำไรแล้ว แล้วก็ปีที่ 2 ก็มีมาก เอ่อ มาก มากกว่าหลายเท่า ยอด ก็ยังรู้สึกว่าอย่างน้อยอยู่ 2 - 300 ล้าน ในขณะที่ทางอินโดนีเซียวันนี้มี 1,500 - 1,600 ล้าน นะครับ ก็คิดว่า 2 2 ประเทศไม่ใช่แค่ 2 ประเทศ แต่ก็เป็น อีก 9 ประเทศเราก็จะเดินหน้าไป ปีนี้ถือว่าเป็น Strategy ของเรา แล้วก็เป็น KPI ของพวกผมด้วย นะ ตัว PMS ของผมกับคุณพี ก็ เอาตัวนี้ใส่เข้าไป 20%

2. อัตรากำไร

  • คำถาม: เรื่องของอัตรากำไร มีคำถามว่า อัตรากำไรสุทธิในปีที่ผ่านมา ถ้าหากว่าเราลองไม่ได้รวมรายการพิเศษแล้วเนี่ย อาจจะดูว่ามีการลดลง ไม่ทราบว่าสาเหตุหลักเป็นเพราะอะไร แล้วก็มองยังไง ในปี 2025 ว่าจะสามารถทำให้อัตรากำไรสุทธิ เนี่ยสูงขึ้น
  • คำตอบ (คุณชวนินทร์): จริง ๆ มันก็ไม่เชิงจะเป็นรายการพิเศษสักทีเดียว เพราะว่า รายการ ตัว Negative Goodwill ที่เรามีเข้ามาเนี่ย มันเป็นรายการที่เกิดจากการที่เราเข้าไปเทค บริษัท Swift Hoge ได้ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง คือ Fair Value ทำไมถึงได้ ได้เพราะเขามีความสนใจที่จะร่วมธุรกิจกับเรา เนื่องจากมีศักยภาพและ Synergy ที่สร้างจากการรวมกิจการมา ฉะนั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่เชิงที่เราเองก็ไม่ได้มองในเชิงที่ว่าเป็นรายการพิเศษ เหมือนกับเป็น วันทไอเทม ที่มันได้ เป็นโบนัสเข้ามา แต่เราถือว่ามันเป็นผลงานของทีม Investment ที่สามารถไปเจรจาซื้อของถูกได้ เหมือนกับเราอาจจะไปซื้อรถเบนซ์ได้ ในราคารถญี่ปุ่นอย่างนี้แล้วก็ถือว่าเราก็ได้ของดี มาจริง ๆ แต่ในราคาที่ต่ำกว่า
  • อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะลองไม่ได้สนใจรายการนั้น มองดูกำไรมันก็ยังสูงกว่าในปี 2023 อยู่พอสมควร เพราะว่าถ้าหักออกไปเนี่ย มันประมาณ 300 กว่าล้าน มันก็จะอยู่ที่ประมาณก็จะมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 8 - 900 ล้าน ซึ่งตรงนี้เนี่ย ถือว่าก็ยังทำได้ดีกว่าในปี 2023 อยู่ อยู่พอสมควรนะ และจริง ๆ มองว่า net profit margin มันก็ดีขึ้น แต่ว่าทุกท่านอาจจะมองไปว่ามันลงมาเพราะว่า Q4 มากกว่านะเพราะ Q4 มันดูแล้วมันลงมาเหลือ 2.9 อันนี้เมื่อกี้ผมเรียนไปสั้น ๆ เพราะว่าเวลาน้อยจริง ๆ เนื่องจากมันมีเรื่องของรายการเกี่ยว กับ เรื่องของการดูแลพนักงาน ดูแล คู่ค้าอะไรทำนี้อะไรจัดงานปีใหม่ แล้วก็มีรายการปรับปรุง ต่าง ประเทศที่มันมีเอฟเฟคเข้ามา ซึ่งเป็น ที่อยู่ที่กัมพูชา ซึ่งเราก็ ไม่สามารถควบคุมกระบวนการทำบัญชีให้เขา ได้อย่างเต็มที่ ก็เลยทำให้มันมากระทบเรา ซึ่งถ้าไม่มีรายการเรานั้นจริง ๆ มันน่าจะขึ้นมาอยู่ที่ ใกล้ ๆ เป้าที่หลายสำนักวางเอาไว้ นั่นแหละ ซึ่งก็แปลว่า เองก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ สีกัปในปีที่ผ่านมาได้ แล้วก็ในปีนี้เองเราก็คงจะมีการ ในธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง เช่นที่ผมเรียนเรื่องของ B2B เนี่ยนะฮะ เราก็ยังเชื่อว่าในปีนี้เราจะทำ ที่ดีขึ้นต่อไปได้ ก็ น่าจะทำให้เราสามารถแล้วก็ เรื่องของการทำให้ดี เอ่อGP และเนี่ย ค่อยๆดีขึ้นได้ตามลำดับ

3. Alpha

  • คำถาม: อยากทราบเกี่ยวกับเรื่องของแผน IPO ของ Alpha ว่าเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้
  • คำตอบ (คุณชวนินทร์): เรื่อง IPO ก็คงจะ อยู่ในแผนการ แต่ก็ยัง ยังไม่ได้รีบเร่งมากที่รีบเร่งมาก ๆ ก็คือในเรื่องของตัว ก็เกี่ยวเนื่องกันกับ ปีที่แล้วนะฮะ ที่ เราเอง เราก็มีดอกเบี้ยในแล้วก็ตัวมีค่อนข้างสูงนะครับ ก็จริง ๆ เราก็มีการตั้งเป้ากันว่าจะลดในเรื่องของตัว ในปีนี้แล้วก็ต่อเนื่องปีหน้ารวมถึงบางส่วนที่เรามี พื้นที่ เกือบ400,000 400,000 กว่าตารางเมตรเนี่ยนะครับ แล้วก็มีสัก 2 - 3 โปรเจคที่เราสามารถที่จะ แล้วพอแล้วนะครับก็ ครั้งแรกปีที่แล้วเราก็ตั้งใจจะตั้ง กองแต่ก็ อยู่ในสภาวะตลาดที่ไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่นะเราก็คงจะพิจารณาในการเข้า ไปในกองที่เราเป็นอยู่แล้วและถือหุ้นอยู่แล้วนะครับในตลาดหลักทรัพย์นะครับก็ตรงนี้ก็จะเป็นเป็นแรกนะครับ ส่วนในเรื่องของตัวการเข้าตลาดของ ก็คงจะดูความเหมาะสมในอนาคตต่อไปนะครับแต่ก็ยังไม่ได้พับแผนออกไปแต่คงจะต้องทำก่อนนะครับก็เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ตอบ โจทย์ ข้อที่ผ่านมาด้วยในแง่ของตัวGPและNetFitแล้วปีที่แล้วเนี่ยเราก็มีการจัด อยากเสริมดอกเตอร์เอ นิดนึงคือเรามีการจัดการในแง่ของตัวธุรกิจที่มี มีปัญหาที่ไม่มีกำไรออกไปค่อนข้างเยอะนะฮะยกตัวอย่างเช่นในส่วนของตัวธุรกิจที่เวียดนามที่เดือนกุมภาพันธ์เราแจ้งตลาดไปว่าเราได้ออกไปแล้วได้เงินสดกลับมาประมาณ 151 ล้านนะครับก็ตรงนี้ก็ทำต่อเนื่องแล้วก็ผมก็เชื่อว่า ในปีนี้ก็คงจะไม่มีธุรกิจอะไรที่มีปัญหาแล้วนะฮะเราก็เดินหน้าเต็มที่แล้วก็ทางฝั่งที่ ก็พยายามเพิ่มงานลดคอสนะครับทางฝ่ายก็พยายามที่จะดูในแง่ของตัวปริมาณที่มียูนะครับก็อันไหนที่มันมีแคชมาก ๆ ก็คงจะใช้หนี้หุ้นกู้ไปเพื่อที่จะให้ได้ทุกภาคส่วนนะครับก็ตรงนี้ก็เป็นคำตอบในข้อนี้

4. การแข่งขัน

  • คำถาม: ผู้บริหารมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับการแข่งขันทางด้าน Transportation Business เพราะว่าตอนนี้เห็นว่ามีกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมบางกลุ่มเนี่ยเริ่มเข้ามาจับตลาด Logistics ในประเทศและเน้นไปที่เรื่องของ EV Trend ด้วย
  • คำตอบ (คุณชวนินทร์): Direction ของ SCGJWD ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเราก็มุ่งขยายตลาดในภูมิภาคนะครับ แล้วก็ทำอย่างต่อเนื่อง ก็จะเห็นจาก Slide เมื่อกี้ที่โชว์ในแง่ของตัวรายได้ของภูมิภาคก็เกือบจะ 4,000 ล้านแล้วนะครับ แล้วก็ผมยังเชื่อว่าเรายังเติบโตได้อีกค่อนข้างเยอะ แล้วก็จริง ๆ ตลาด Logistics เป็นตลาดที่ใหญ่แล้วก็กว้างมากๆนะครับ แต่ SCGJWD เนี่ยจับตลาดค่อนข้างที่จะกระจายความเสี่ยงนะครับ หลังจากที่ เรามีการควบรวมกันเนี่ย เราก็จับตลาดทั้ง B2B B2C นะ ฮะรวมถึงตลาดที่เป็น community base ที่มี base volume ค่อนข้างเยอะกับตลาดที่มี high margin ผมคิดว่าเราอยู่ใน position ที่ค่อนข้างที่จะ Balance ในแง่ของตัวบริษัท Logistics และ ในส่วนของตัวบริษัท Logistics ในประเทศไทยแล้วก็ ในภูมิภาคด้วยนะครับที่เป็นสัญชาติไทย แล้วก็สัญชาติที่เป็น โลโค อ่ะไม่รวมถึง Global Forwarder อะไรต่าง ๆ พวกนั้นเขาก็คงมีวิธีการ ทำธุรกิจอีกแบบหนึ่งนะครับ เราเองเราก็คิดว่า เรา เรา มี Base แล้วก็เรามีฐาน เอ่อกำไร G Margin กับตัว Net Margin ปรับ ตัว ดี ขึ้น เรื่อย ๆ นะครับ แล้วก็คงจะสร้างในการที่จะเอาชนะตลาด เพิ่ม เติม ด้วย นะ ครับ ก็ ตรง นี้ ก็ เป็น เป็น คำ ตอบ ถาม ว่า เป็น กังวล หรือ เปล่า ไม่ ได้ ไม่ ได้ กังวล นะ ฮะ เพราะ ว่า เรา เรา มี การ Diversify ตลาด ค่อนข้าง เยอะ ผม ไม่ แน่ ใจ พี่ บรรณ มี อะไร เสริม มั้ย ข้อ นี้
  • คำตอบ (คุณบัน): เรื่อง Transportation วันนี้ เราต้องถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของไทย เรามีรถใน Network นะครับ 14,000 คัน บริหารโดย Network นะครับ ได้ เป็น เป็น คู่ คล้า ของ เรา 4 500 เจ้า เพราะ ฉะนั้น พวก นี้ ถือ ว่า เป็น คน ที่ ช่วย เรา ทำ งาน เป็น เ น ที่ เข้มแข็ง นะ ฮะ เอ่อ เรา มี เบส Cargo โดย ใช้ เป็น เบส วัน นี้ ก็ ธุรกิจ ร่วม กับ ก็ 8 - 9,000 ล้าน เกือบ ๆ 10,000 ล้าน ก็ ถือ ว่า ตรง นี้ เนี่ย มัน มี 2 ข้อ ก็ คือ ว่า เรา ทำ เรื่อง วุ่ม ปี นึง วิ่ง อยู่ 3 - 400 ล้าน กิโลเมตร อ่ะ นะ ครับ ทั่ว ประเทศ เพราะ ฉะนั้น เนี่ย มัน มี โอกาส ที่ จะ เอ่อ เรา ทำ เรื่อง ลด ต้น ทุน เต็ม ที่ ปี นี้ ทำ อยู่ 2 2 เรื่อง หลัก ๆ เรื่อง ที่ 1 ก็ คือ ทำ เรื่อง ลด ต้น ทุน เพื่อ เพิ่ม GP นะ ครับ เรื่อง ที่ 2 ก็ เพิ่ม ประสิทธิภาพ ทำ ยัง ไง ให้ รถ วิ่ง เปล่า น้อย ที่ สุด ทำ Head Hall Back Hall Matching อัน นี้ ทำ เป็น เป็น Strategy ของ บริษัท นอก จาก นี้ นะ ครับ เรื่อง Transportation วัน นี้ ก็ พยายาม จะ ทำ เรื่อง เอ่อ เอ่อ Transportation ที่ มี High Value อย่าง เช่น เอ่อ ขน ส่ง เย็น อย่าง เงี้ย นะ ครับ ก็ ปี นี้ ก็ มี มี มี ทิศ ทาง ที่ จะ ทำ เรื่อง ขน ส่ง เย็น ให้ มาก ขึ้น ส่วน เรื่อง EV นะ ครับ วัน นี้ เนี่ย ก็ เรา พยายาม นะ ครับ ดู ทุก มุม นะ ครับ ว่า จะ ทำ อย่าง ไร ให้ Transportation ของ เรา เนี่ย กรีน ที่ สุด ก็ ไม่ ได้ ดู แค่ EV อย่าง เดียว วัน นี้ ก็ มอง ไป ถึง ไฮโดรเจน นะ ครับ ไป ดู พลัง งาน ทาง เลือก หรือ ไม่ ว่า ไปโอดีเซล ด้วย นะ ครับ วัน นี้ ก็ มี โปรเจค ก็ เดิน ไป กับ ลูก ค้า นะ ครับ แล้ว ก็ คู่ คล้า ของ เรา จะ ทำ อย่าง ไร ให้ ลูก ค้า ของ เรา ได้ กรีน แล้ว ก็ ตอบ โจทย์ กรีน ของ เขา ให้ ได้ และ ใน ขณะ ที่ คู่ คล้า ของ เรา ทุก ราย จะ ทำ อย่าง ไร ให้ สามารถ มี การ บริการ เอ่อ เป็น เป็น กรีน Logistics ให้ ได้ ครบ ถ้วน ประมาณ นี้ ครับ

5. พม่า

  • คำถาม: เรามองว่าการความไม่สงบในพม่านี่ จะกระทบต่อธุรกิจเรายังไงบ้างหรือเปล่า
  • คำตอบ (คุณบัน): พม่าเนี่ยนะครับ ตอนนี้ก็ เราเห็น Opportunity ค่อนข้างมากนะครับ พม่ายังต้องการสินค้าจากไทยมาก ตอนนี้เนี่ยนะครับ ความจริง เรื่อง เรื่อง Demand เนี่ยไม่มีปัญหาเลย ปัญหาหลัก ๆ เนี่ยนะครับ เอ่อ ก็จะมีแค่เรื่อง Import License ตอนนี้พม่าเขาพยายาม Control เรื่องเงินของเขานะไม่ ไม่ให้ซื้อสินค้าต่างประเทศมากเกินไปกว่าของที่จะ Export ได้ เพราะฉะนั้นเนี่ย ก็คือว่าถ้าเกิดใครไม่มีสินค้า ที่ Export ออกมาก็จะไม่มี License ที่จะนำ เข้าได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยปัญหาอย่างเดียวก็คือเรื่อง เรื่อง ในขณะที่เรื่อง ในการ ทรง ของ ของ เรา เรา ก็ ไม่ ไม่ ได้ เห็น ปัญหา หนัก นะ ครับ เพราะ พาร์เนอร์ ที่ นั่น ก็ ค่อนข้าง เข้มแข็ง ครับ

6. แนวโน้มไตรมาส 1/2567 และแผน M&A ปี 2567

  • คำถาม: ถามเรื่องของ ปีนี้แนวโน้มไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องมาเนี่ยจะเติบโตจากปีที่แล้วไหม แล้วตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณเท่าไหร่ แล้วก็งบลงทุน วางไว้อย่างไรบ้าง
  • คำตอบ (คุณชวนินทร์): จริง ๆ ไตรมาส 1 เนี่ย ต่อเนื่อง ต่อเนื่องกันเนี่ยจาก Q4 เนี่ยจริง ๆ มองว่า Q4 เองจริง ๆ เราก็ไม่ได้กำไรเราก็ไม่ได้ Drop มากอะไรมันก็มีเหตุผลอยู่ในส่วนของตัว ดร. เอกอธิบายไปแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นไตรมาส 1 ไตรมาส 2 เนี่ยก็เชื่อว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้วนะที่ที่ดูจากสถานการณ์แล้วก็ดูจากเรื่องงานอะไรต่าง ๆ ที่อยู่ในมือของเรานะครับก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งนะครับว่าจริง ๆ ครึ่งปีเนี้ยผมคิดว่าเราน่าจะทำได้ดี กว่า ครึ่ง ปี ที่ แล้ว นะ ครับ ใน ส่วน ของ ตัว ปี 2024 นะ ครับ ใน ส่วน ของ ตัว งบ ลง ทุน อย่าง ที่ เรียน ก็ คือ ว่า เรา เอง เรา มี Cash ที่ เป็น Surplus อยู่ 2,000 กว่า ล้าน จริง ๆ งบ ลง ทุน ปี เนี้ย คง จะ ไม่ ได้ ลง ทุน อะไร มาก นะ ครับ เรื่อง ห้อง เย็น อะไร ต่าง ๆ เรา ก็ ลง ทุน ไป เยอะ แล้ว แล้ว ก็ จะ มี เปิด อีก 3 เอ่อ สาขา ใน ใน ปี นี้ นะ ครับ ซึ่ง เปิด ไป แล้ว ก็ คือ รังสิต กับ สระบุรี แล้ว ก็ จะ มี คลัง เอ่อ ย่อย ๆ ที่ เรา ทำ ที่ เชียงใหม่ นะ ฮะ แล้ว ก็ อีก ต่อ ไป ก็ คง จะ เป็น ขอนแก่น จะ ใช้ เงิน เป็น หลัก สิบ นะ ฮะ ก็ คง จะ ไม่ ได้ มี อะไร มาก แล้ว ก็ มี ลูก ค้า ที่ จะ รอ ใช้ เป็น ค อยู่ แล้ว นะ ครับ เพราะ