สรุปงบล่าสุด SCGP
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## ผลประกอบการ SCGP ไตรมาส 3/2567: รายได้เติบโต แต่กำไรสุทธิชะลอตัว
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 รายได้รวม 33,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์และบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ รวมถึงยอดขายของเยื่อเคมีละลายได้ (Dissolving Pulp) ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 578 ล้านบาท ลดลง 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 60% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และการรวมผลการดำเนินงานของบริษัทอุ๋ลก (Uluk) ในสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนกันยายน 2567
**สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ** ในไตรมาส 3/2567 รายได้จากการขายของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ เท่ากับ 7,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณและราคาขายของเยื่อเคมีละลายได้ อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของสายธุรกิจนี้ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากราคาขายของผลิตภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์อาหารที่ลดลง
SCGP มีแผนธุรกิจในอนาคตที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของการบริโภคภายในประเทศ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว SCGP มีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
## วิเคราะห์โอกาสลงทุน:
ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของ SCGP แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่บริษัทยังคงมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง อัตรากำไรสุทธิที่ลดลงในไตรมาสล่าสุด สะท้อนถึงความท้าทายในการควบคุมต้นทุน แต่หากบริษัทสามารถจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตได้ในอนาคต
อัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังของ SCGP แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E ที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 19.13 และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.38 แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้น สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น และมูลค่าทางบัญชี แต่ควรระมัดระวังความผันผวนของราคาหุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคา วัตถุดิบ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และภาวะเศรษฐกิจโลก
SCGP เป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหา growth story โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อมั่นในอนาคตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และความสามารถของ SCGP ในการสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยง และโอกาส ในการลงทุน
**โอกาส:**
* ความต้องการบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนยังคงเติบโตต่อเนื่อง
* SCGP มีความแข็งแกร่งทางการเงิน D/E ต่ำ
* มีการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ
* SCGP ได้รับการปรับอันดับขึ้นเป็น '# สําหรับการพัฒนาด้านสังคม และการกํากับดูแลกิจการจาก 50| และยังได้รับการจัดอันดับ 6๐[4 เฉบัก6 ในระดับ ๒๕๕๐(ไอ๑ก๐6 level 31 Climate Action ! อลสเทร 0เฮลทไไลน์อท (๐/แ 0) สําหรับปี 2566-2567 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
**ความเสี่ยง:**
* ต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน โดยเฉพาะราคา วัตถุดิบ กระดาษรีไซเคิล
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของบรรจุภัณฑ์
**หมายเหตุ:** การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
**ข้อมูลเพิ่มเติม:**
* **อัตราส่วนทางการเงิน:** จากตารางที่ 7 แสดงให้เห็นว่า SCGP มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.6 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน และมีโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายกิจการได้ง่ายขึ้น
* **กระแสเงินสด:** SCGP มีกระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 9,271 ล้านบาท ในช่วงเก้าเดือนของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างกำไร และมีเงินสดเพียงพอสำหรับการดำเนินงาน
* **การลงทุน:** SCGP มีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน และมีการขยายเครือข่ายการจัดหาวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงของธุรกิจ
(2.84%)
(5.34%)
(15.30%)
(7.56%)
(12.82%)
(12.23%)
(0.49%)
(8.25%)
(60.28%)
(56.40%)
(94.48%)
(102.63%)