สรุปงบล่าสุด SCB
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
รายได้รวมอยู่ที่ 42,295 ล้านบาท ลดลง 2.2% YoY โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 3.5% ชดเชยการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น 13.2% YoY อยู่ที่ 10,941 ล้านบาท ส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตลดลง 10.4% YoY ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น Coverage Ratio อยู่ที่ 163.9%
สินเชื่อรวมของบริษัทลดลงเล็กน้อย 0.9% YoY มาอยู่ที่ 2.43 ล้านล้านบาท ส่วน NIM เพิ่มขึ้นเป็น 3.91% ขณะที่อัตราส่วน NPL อยู่ที่ 3.38% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเป็น 40.9% ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเติบโตได้ดี นอกจากนี้ บริษัทเริ่มเน้นธุรกิจที่เกี่ยวกับการให้บริการดิจิทัลและ FinTech เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม
SCBX วางแผนขยายธุรกิจธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) เพื่อรองรับการเติบโตในตลาดดิจิทัล การลงทุนในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตของบริษัท
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จํากัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2567
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จํากัด (มหาชน) หรือ SCBX รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 10,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ ลดลง 7.5% จากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
สินเชื่อโดยรวมของ SCBX ในไตรมาส 3/2567 ลดลง 0.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 3.38% SCBX ยังคงบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการขายและการตัดจำหน่าย อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 163.9%
**รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ** เพิ่มขึ้น 3.5% เป็น 32,635 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวสูงขึ้น
**ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน** ลดลง 4.8% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้น
**รายได้จากการลงทุนและการค้า** ในไตรมาส 3/2567 SCBX ขาดทุนจากการลงทุนและการค้าเป็นจำนวน 324 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากขาดทุนจากการวัดมูลค่าตลาดของพอร์ตการลงทุนและขาดทุนจากการขาย PPV จำนวน 731 ล้านบาท
**การเปลี่ยนแปลงของสินเชื่อ** ในไตรมาส 3/2567 ยอดสินเชื่อของ SCBX ลดลง 0.9% จากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 0.3% จากสิ้นปี 2566 สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ลดลงเล็กน้อย โดยเป็นผลจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้าและการเข้มงวดของข้อกำหนดในการให้สินเชื่อ ในขณะที่ สินเชื่อบุคคล เพิ่มขึ้นเล็กน้อย สินเชื่อเคหะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินเชื่อเช่าซื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง ธนาคารได้ใช้แนวทางอย่างระมัดระวังสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อของบริษัทย่อย เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อของ บริษัท ออโต้ เอกซ์ ที่เติบโตอย่างโดดเด่น สินเชื่อของ บริษัท คาร์ด เอกซ์ ลดลง เนื่องจาก
**เงินรับฝาก** ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ลดลง 4.5% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากจ่ายคืนเมื่อทวงถาม
**เงินกองทุน** ตามกฎหมายของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน SCBX และธนาคาร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด
**คุณภาพสินเชื่อ** ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงเล็กน้อย เป็น 3.38% จาก 3.44% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ เพิ่มขึ้นเป็น 163.9% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567
**โอกาส**
* SCBX อาจได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ในอนาคต
* การขายกิจการแพลตฟอร์มฟู๊ดเดลิเวอรี อาจช่วยให้ SCBX สามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นได้มากขึ้น
* คุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี และ Coverage Ratio ที่อยู่ในระดับสูง อาจช่วยลดความเสี่ยงในด้านผลขาดทุนด้านเครดิต
**ความเสี่ยง**
* เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญกับความผันผวนและการเติบโตที่ช้าลง ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ของ SCBX
* อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง อาจส่งผลต่อ NIM ของ SCBX
* ความเสี่ยงในการแข่งขันในตลาดธนาคารพาณิชย์และตลาดการเงินดิจิทัล อาจมีมากขึ้น
SCBX อาจเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการลงทุน เช่น P/E Ratio, P/BV Ratio, YIELD และแนวโน้มของธุรกิจดิจิทัลของ SCBX อย่างใกล้ชิด
NIM
3.91 %
NPL
3.38 %
COV
163.90 %
CREDIT
2,430,000.00 ล้านบาท
(1.80%)
(24.11%)
(0.35%)
(1.78%)
(2.12%)
(20.86%)
(4.29%)
(1.87%)
(9.25%)
(13.22%)