สรุป OPPDAY หุ้น SCAP

บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday: S Cap ชี้แจงผลประกอบการปี 2024, แนวโน้มธุรกิจ และ กลยุทธ์รับมือความท้าทาย
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ธุรกิจของ S Cap ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบได้แก่
- รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 11%
- รายได้อื่นลดลง 10%
- การปรับลด Yield ตามประกาศของ สคบ. เหลือ 23%
- การเพิ่มขึ้นของการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์รอการขาย
- การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้เสีย (ECL)
- ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ กนง. ประกาศขึ้น
ถึงแม้รายได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้อื่น ๆ ลดลงเนื่องจากพอร์ตสินเชื่อหดตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น บริษัทได้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาระดับผลกำไร
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
S Cap มองเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท บริษัทมีกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความเสี่ยงหลักที่ S Cap เผชิญอยู่คือ สภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ บริษัทยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านเครดิต ซึ่งอาจส่งผลให้ NPL เพิ่มสูงขึ้น
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
S Cap ได้นำวิธีการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้
- การลด Loan to Value อย่างต่อเนื่อง
- การเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
- การปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- การเพิ่มสำรองหนี้เสีย (ECL)
- การบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน
บริษัทมีนโยบายในการลด Loan to Value และเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเพิ่มสำรองหนี้เสีย เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
S Cap มองว่าธุรกิจสินเชื่อยังมีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ และมีแผนในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 30:05]
ช่วงถาม-ตอบ มีคำถามและคำตอบที่น่าสนใจดังนี้:
- NPL ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง:
บริษัทคาดว่า NPL จะอยู่ในกรอบ 3-4% ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ แม้ว่าสัดส่วนจะดูสูงขึ้นเนื่องจากพอร์ตสินเชื่อหดตัว แต่บริษัทเชื่อว่าจะปรับตัวลดลงได้ในอนาคต
- การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อชะลอตัว:
บริษัทยังคงปล่อยสินเชื่อ แต่เน้นคุณภาพหนี้เป็นหลัก และยังคงดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป
- แผนการปรับ Yield ขึ้น:
Yield อยู่ภายใต้ Cap ของ สคบ. ที่ 23% บริษัทจะคง Yield ไว้ที่ระดับนี้
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์รอการขายปรับตัวดีขึ้น:
มาจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและการให้ลูกค้าวางเงินดาวน์
- ผลขาดทุนจากการขายรถยึด (Loss on Sales):
บริษัทเห็นว่าค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจะเข้าสู่ Normal ในช่วงปลายปี
- เงินดาวน์และ Loan to Value ปัจจุบัน:
เงินดาวน์ส่วนใหญ่อยู่ที่ 10-30% Loan to Value อยู่ที่ 70-80%
- ผลกระทบหากพอร์ตสินเชื่อ Yield สูงลดลง:
บริษัทไม่คาดว่า Yield จะลดลง เนื่องจากมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย Acquisition Cost ได้ดี
- นโยบายจัดหา Funding ปี 2025:
บริษัทจะออกหุ้นกู้ พยายามทำ Credit Facility กับธนาคารพาณิชย์ และลดการพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่
- Contribution ของ Leasing แต่ละบริษัท:
S Leasing และ K Leasing มี Contribution รายได้ กำไร และ NPL ในจำนวนที่เท่า ๆ กัน
- จำนวนรถจักรยานยนต์รอการขาย:
โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 2,000 คันต่อไตรมาส
- ผ่อนผันลูกค้าใน Stage 2:
บริษัทพร้อมช่วยเหลือและผ่อนผันลูกค้า
- การควบรวมบริษัท Leasing:
บริษัทจะนำไปพิจารณา
- การเติบโตของสินเชื่อทั้งอุตสาหกรรมชะลอตัว:
บริษัทจะกลับไปเร่งปล่อยสินเชื่อใหม่หรือไม่ บริษัทยังปล่อยสินเชื่อเหมือนเดิม แต่พิจารณาให้ Conservative มากขึ้น
- สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างไร:
บริษัทกำลังพิจารณา Product ใหม่ ๆ
- การลงทุนในกัมพูชา:
บริษัท Conservative กับทุก Product
- หนี้สินรวมลดลง:
บริษัทพยายามบริหารจัดการให้ต้นทุนทางการเงินลดลง
- ขายหนี้เสีย (NPL) ให้กับสถาบันการเงินอื่นหรือไม่:
บริษัทไม่ได้ขาย
- ลูกหนี้ที่อยู่ใน Stage 2 เพิ่มขึ้น:
บริษัทจะพยายาม Maintain ให้อยู่ใน Range นี้
- พอร์ตสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้ Yield สูงเริ่มลดลง:
จะกระทบกับ Yield และ NIM ในปี 2025 หรือไม่ Yield อาจจะไม่ลดลงตามพอร์ต Yield สูงที่หมดไป
- บริษัทใช้ NCB ในการปล่อยสินเชื่อ:
ลูกค้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่
- Relex ลูกค้าให้อยู่ใน Stage 2:
บริษัทช่วงนี้ผ่อนผันให้กับลูกค้า
โดยสรุป S Cap กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน แต่บริษัทได้ปรับตัวและดำเนินกลยุทธ์ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว