สรุป OPPDAY หุ้น SC

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
SC Asset Corporation เผยกลยุทธ์ปี 2568: เน้นเติบโต, พอร์ตสมดุล, และความยั่งยืน
สวัสดีค่ะ ดิฉันวรัทยา ยงเจริญ จากหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท SC Asset Corporation จำกัด มหาชน วันนี้ทาง SC ได้เข้าร่วมงาน Opportunity Day ของทางตลาดหลักทรัพย์ เพื่อที่จะนำเสนอผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ค่ะ โดยผู้บริหารที่จะมาให้ข้อมูลและตอบคำถามกับทางนักลงทุนมี 2 ท่านนะคะ ท่านแรกได้แก่ คุณอรรถพล ศรีดิตพันธาวาส ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กรค่ะ และท่านที่ 2 ค่ะ คือคุณน้ำทิพย์ พรหมเชื้อค่ะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านบัญชีและการเงินค่ะ
คุณน้ำทิพย์กล่าวว่าปี 2567 เป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่สูง ซัพพลายที่ยังอยู่ในระดับสูงในตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้ซื้อและการแข่งขันในอสังหาร แต่สำหรับ SC เอง เราผ่านปีที่ท้าทายนี้มาด้วยยอดขายประมาณ 25,000 ล้านบาท ผ่านการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดระหว่างปีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด รวมไปถึงมีการปรับแผนการลงทุน เพื่อยังให้มั่นใจว่าเราสามารถสะสมพอร์ตธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตในระยะยาวได้ โดยยังคงรักษาความเชื่อมั่นต่างๆ จาก Stakeholder ต่างๆ ที่มี
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ยอดขาย: สร้างยอดขายได้ 2 โครงการอสังหาฯ เพื่อขาย 25,000 ล้านบาท
- Segment หลัก: กลุ่มบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแข็งแรง
- Market Share: ยังคงรักษา Market Share อันดับ 1 ในกลุ่มของบ้านที่ราคามากกว่า 20 ล้านบาท
- รายได้รวม: 22,600 ล้านบาท (รวมอสังหาฯ เพื่อขาย, เช่า, และบริการ) โดย 5% มาจากกลุ่มอสังหาฯ เพื่อสร้างรายได้ค่าเช่าและบริการ
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การเติบโตของกลุ่มอสังหาฯ เพื่อเช่าและบริการ: สร้างการเติบโตของกลุ่มนี้เพื่อสร้างรายได้ประจำและสร้างพอร์ตให้มีความหลากหลายและสร้างความสมดุล
- การขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรมและคลังสินค้า: มีทั้งหมด 19 โปรเจ็กต์ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า และการลงทุนอพาร์ทเมนท์ให้เช่าในบอสตัน
- การร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์: ปิดดีลไปในระหว่างปี 2567 ทั้งหมด 7 ดีลกับพาร์ทเนอร์ 3 เจ้า ได้แก่ กลุ่มบริษัท Tokyo Tatemono, กลุ่ม Daiwa House, และกลุ่ม Syntec
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ท้าทาย: หนี้ครัวเรือนที่สูง, Supply ที่ยังอยู่ในระดับสูงในตลาด, และการแข่งขันที่สูง
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจ: ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
- หนี้ครัวเรือนที่สูง: อาจส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
- Supply และ Demand ที่ไม่สมดุล: Supply ในช่วงปี 2565-2566 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มีสินค้าคงเหลือในตลาดพอสมควร
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การปรับกลยุทธ์การขาย: ปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด เช่น Go-to-Customer Strategy
- การกระจายการออก Event: ไปยังศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
- การปรับปรุง Product: ปรับปรุง Product ให้ตอบรับกับความต้องการและ Lifestyle ของผู้บริโภค
- การใช้ Referencing Affiliate Program: ใช้กระแส Trend Online นอกเหนือจากการทำ Offline Activity
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- เป้าหมายปี 2568: สร้างยอดขาย สร้างการเติบโต (ยอดขาย, รายได้, กำไร) และมีพอร์ตที่สมดุล
- เป้ายอดขาย (Pre-sale): 26,000 ล้านบาท (สูงขึ้น 4%) โดย 70% เป็นกลุ่มบ้าน และ 30% เป็นกลุ่มคอนโด
- เป้ารายได้รวม: 25,000 ล้านบาท (เติบโต 11%) โดย Contribution จากบ้าน 70%, คอนโด 22%, และ Engine 2 (อสังหาฯ ให้เช่าและบริการ) เพิ่มเป็น 8%
- การเปิดโครงการใหม่: 15 โครงการ มูลค่า 28,000 ล้านบาท (บ้าน 65%, คอนโด 35%)
- การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม: ประกาศพันธกิจ Zero Emission และตั้งเป้าลด GHG ให้ได้ 100,000 ตันภายในปี 2573
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่นาที 37:40]
ปัจจัยเสี่ยงในการทำธุรกิจปี 2568
ผู้บริหารตอบ: ปัจจัยเสี่ยงในปี 2568 ไม่ต่างจากปี 2567 มากนัก คือ สภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และ Supply ที่ยังมีอยู่ในตลาดมาก
แผนการบริหารสภาพคล่องในปี 2568
ผู้บริหารตอบ: ยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการใหม่ ๆ และขยายพอร์ตไปในโครงการที่มีรายได้จากค่าเช่าในระยะยาว เช่น โรงแรมและ Warehouse โดยใช้แหล่งทุนจากเงินกู้ระยะยาวเป็นหลัก (70%) และระยะสั้น (30%) และยังคงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากต่างประเทศ
งบประมาณซื้อที่ดินปี 2568
ผู้บริหารตอบ: งบประมาณอยู่ที่ 5,000-7,000 ล้านบาท โดยจะดูสถานการณ์ตลาดและจัดสรรงบประมาณในช่วงครึ่งปีหลัง และยังคงมองหา Opportunity ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
แผนการขยายโครงการในต่างจังหวัด
ผู้บริหารตอบ: ให้ความสนใจเมืองท่องเที่ยวเพื่อรองรับ Demand จากต่างชาติ และกำลังดูอยู่ 2-3 แห่ง
คาดการณ์ความสามารถในการทำกำไรปี 2568
ผู้บริหารตอบ: คาดว่าจะดีกว่าปี 2567 ประมาณ 1-2% โดยจะมีการปรับแผนและบริหารแคมเปญโปรโมชั่นให้สมดุล
แผนการทำ JV และ Spin-off Engine 2
ผู้บริหารตอบ: ยังคงมีแผนทำ JV กับพาร์ทเนอร์ต่างชาติ (โดยเฉพาะญี่ปุ่น) ใน 3 Business หลัก คือ คอนโด โรงแรม และคลังสินค้า โดยคาดว่าจะมี 6 โครงการที่จะร่วมทุนในปีนี้ ส่วนเรื่อง Spin-off Engine 2 นั้น ยังไม่มีแผนในขณะนี้
โดยสรุปแล้ว SC Asset Corporation ตั้งเป้าที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2568 โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและเช่า การขยายการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ และการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ และการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและ Stakeholder ทุกฝ่าย